Group Test : รีวิว All-New Mazda 3 หรูหรา แต่ทรงพลัง อ็อพชั่นอัดแน่นเต็มคัน เทียบชั้นรถยุโรป
มาที่หลัง…ปังกว่า น่าจะเป็นคำเปรียบเปรยที่ใช้ได้ตรงกับสถานการณ์ตลาดรถ C-Segment ได้ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะหลังการปรากฏตัวของ All-New Mazda 3 เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ในระยะเวลาเพียง 4 วัน ก็สามารถกวาดยอดขายถล่มถลายไปแล้วกว่า 1,100 คัน โดยกว่า 70% ของยอดทั้งหมดนั้น เป็นรุ่นท็อปโมเดลอย่าง 2.0 SP ที่มีราคาจำหน่าย 1,198,000 บาท อีกด้วย เรียกได้ว่าเจ้าตลาดปัจจุบัน กับคู่แข่งคนสำคัญ มีหวาดผวา และต้องหันมามองกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่เหตุใดเล่าจึงทำให้ All-New Mazda 3 มีความร้อนแรงได้ขนาดนี้ วันนี้ทีมงาน 9carthai จะเหลาให้ฟังแบบหมดเปลือก เพราะได้ไปสัมผัสมาแล้ว
ทั้งนี้ All-New Mazda 3 นั้น เปิดตัวมาด้วยกัน 2 ตัวถัง คือ Fastback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู หรือจะบอกว่าเป็น 2 สไตล์ก็ไม่ผิด เพราะคาแร็คเตอร์ของตัวรถนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยแต่ละตัวถังมีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ซึ่งมีราคาจำหน่ายที่เท่ากันดังนี้
ต้นแบบแห่งความสง่างามในยนตรกรรมเจเนอร์เรชั่นใหม่ของ Mazda
สำหรับดีไซน์ของ All-New Mazda 3 นั้น ถือเป็นสิ่งที่ Mazda ให้ความสำคัญ และพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้ยนตรกรรมที่สง่างามที่สุด ซึ่งนี่จะเป็นต้นแบบของยนตรกรรมเจเนอร์เรชั่นต่อๆ ไปของ Mazda เลยทีเดียว ทั้งนี้ Mazda 3 ใหม่ ยังได้สะท้อนคาแร็คเตอร์ของตัวรถที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน โดยในตัวถัง Fastback 5 ประตูนั้น จะมาในคอนเซ็ปต์ Emotional Personal Style ที่ให้ความสปอร์ต ดุดัน และเร้าใจ ส่วนตัวถัง Sedan 4 ประตูนั้น จะมาในคอนเซ็ปต์ Classy Sedan ที่เรียบหรู แต่ดูดี สะท้อนภาพลักษณ์อันสง่างาม โดยทั้ง 2 ตัวถัง ได้รับการออกแบบตามหลัก KODO Design เหมือนกัน
โดยในตัวถัง Fastback 5 ประตู จะมาพร้อมกับกระจังหน้าแบบรังผึ้งตามสไตล์รถสปอร์ต พร้อมชุดกันชนหน้า และกันชนหลังที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดย ซึ่งจะตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสเกิร์ตหน้า, กระจังหน้า, สปอยเลอร์ท้าย, กันชนท้าย และส่วนสุดท้ายที่แตกต่าง และสร้างคาแร็คเตอร์ของตัวรถได้อย่างโดดเด่นคือ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำเมทัลลิก
ส่วนในตัวถัง Sedan 4 ประตูนั้น จะถ่ายทอดอารมณ์ที่เรียบหรู ด้วยกระจังหน้าสีดำแบบเปียโนแบล็ค พร้อมวัสดุตกแต่งรอบคันด้วยโครเมียม ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีบรอนซ์เงิน
มิติตัวถังของ All-New Mazda 3
ภายในเรียบง่ายแต่งดงาม เน้นผู้ขับเป็นศูนย์กลาง
สำหรับภายในนั้น เน้นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงาม พร้อมยกระดับความหรูหราด้วยวัสดุภายในเกรดพรีเมียม เริ่มด้วยห้องโดยสารโทนสีดำ ที่ให้อารมณ์สปอร์ตหรู, คอนโซลหน้าแบบเรียบๆ ตกแต่งด้วยวัสดุ Soft Touch แยก 2 ชั้น พร้อมติดตั้งจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัส Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว ไว้ตรงกลาง หันหน้าเข้าหาผู้ขับเล็กน้อย, เบาะนั่งแบบนั่งสีดำโอบกระชับทุกสรีระ พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตัวแหน่ง, พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ต ปรับ 4 ทิศทาง พร้อมระบบสั่งการเครื่องเสียง และ Cruise Control, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา, เรือนไมล์ TFT แสดงผลบนจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว, ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบอินโฟเทนเมนท์ผ่านหน้าจอ Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay สามารถใช้งาน Google Map, Apple Map และแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอได้ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านระบบ Bluetooth ได้อีกด้วย สั่งการได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ถ่ายทอดพลังเสียงที่โดดเด่นเหนือรุ่นใดใน C-Segment ด้วยชุดเครื่องเสียงลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง รอบทิศทาง (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
เครื่องยนต์เดิม เพิ่มเติมนิดหน่อย
ในส่วนของขุมพลังนั้น All-New Mazda 3 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร (ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ยกมาจากรุ่นก่อน) แต่มีการพัฒนาในส่วนของลูกสูบ, แหวนลูกสูบ, ระบบระบายความร้อน และหัวฉีดใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงขึ้นเป็น 13.0:1 โดยให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดที่เพิ่มเป็น 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที (รุ่นก่อน 210 นิวตัน-เมตร) อีกทั้งยังให้อัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น โดยทาง Mazda เคลมว่า สามารถประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 15.9 กิโลเมตร/ลิตร
Mazda ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ ด้วยเทคโนโลยี i-Activsense สำหรับ All-New Mazda 3 โดยมีรายละเอียดดังนี้
สมรรถนะการขับขี่ของ All-New Mazda 3
สำหรับสมรรถนะการขับขี่นั้น เรียนตามตรงว่าผู้เขียนไม่เคยได้ขับ Mazda 3 รุ่นเก่ามาก่อน แต่พอได้สัมผัสในโฉมนี้ ก็รู้สึกประทับใจไม่ใช่น้อย
ส่วนเสียงเครื่องยนต์นั้นตรงนี้ถือว่าถ่ายทอดอารมณ์ดุดันได้ดีมาก ไม่น่าเชื่อว่าเดิมๆ จากโรงงาน จะให้สุ่มเสียงที่เร้าใจได้ถึงเพียงนี้ ทั้งนี้ในส่วนของอัตราเร่ง และความเร็วปลาย ถือว่าทำได้ดี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของรถ C-Segment อย่างที่มันควรจะเป็น โดย All-New Mazda 3 นั้น ถือเป็นรุ่นที่เครื่องยนต์มีขนาดความจุที่เยอะที่สุดในคลาสนี้ แต่จะไม่มีระบบเทอร์โบ หรือ ไฮบริด ให้ใช้งานก็เท่านั้นเอง
ส่วนระบบช่วงล่างของ All-New Mazda 3 อันนี้ดีจริงคอนเฟิร์ม ตอนแรกจากที่เปิดตัวระบุว่า ช่วงล่างด้าน
แต่ปรากฏว่าผิดคาด เพราะช่วงล่างใหม่ของ All-New Mazda 3 นั้น ให้สมรรถนะการทรงตัวที่ดีเยี่ยม มีความนุ่มแบบนั่งสบาย และหนึบเกาะถนนได้ดีกว่าที่คิด ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะระบบช่วยเหลืออย่าง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่อัปเกรดมาอย่างอัจฉริยะมากขึ้น ช่วยควบคุมเบรกล้อฝั่งตรงข้ามกับโค้งในตอนออกโค้ง ทำให้มุมเลี้ยวมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และไร้อาการโคลงของตัวรถ อีกส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการปรับแต่งพวงมาลัยจากรุ่นก่อน ที่มีความเฉียบคม และแม่นยำมากขึ้น ทำให้การหักเลี้ยว และการควบคุมรถทำได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือ ระบบเครื่องเสียงชุดใหญ่ของ BOSE 12 ตำแหน่ง ที่ต้องบอกเลยว่าให้อรรถรส และเปิดประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงบนรถยนต์ที่ดีเยี่ยม ถ่ายทอดพลังเสียงออกมาได้อย่างโดดเด่น แตกต่างจากเครื่องเสียงใน C-Segment รุ่นอื่นอย่างชัดเจน ส่วนเสียงลม หรือเสียงรบกวนจากภายนอกห้องโดยสารนั้น ถือว่า All-New Mazda 3 มีวัสดุดูดซับเสียงที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเสียงเข้า หรือเสียงออก เพราะถึงแม้จะเปิดเพลงในรถดังแค่ไหน เมื่อปิดประตูห้องโดยสารก็จะไม่มีเสียง หรือมีเสียงแต่น้อยมาหลุดออกไปข้างนอกได้
ข้อดีของ All-New Mazda 3
ข้อเสียของ All-New Mazda 3
บทสรุป
ต้องยอมรับว่า All-New Mazda 3 เป็นน้องใหม่ในตลาด C-Segment ที่มีความร้อนแรง และน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยจุดเด่นหลักๆ ที่ถือเป็นจุดขายของรถคันนี้ ก็คือในเรื่องของ ดีไซน์การออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวถัง Fastback หรือ Sedan ก็ล้วนแต่เด่นสง่า ดูหรูหรากว่ารถในระดับเดียวกันทั้งนั้น ส่วนอีกจุดก็คือเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ Mazda นั้นจงใจใส่มาให้เยอะกว่าโมเดลอื่นๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น ระบบความปลอดภัยต่างๆ, ลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ฯลฯ ซึ่งก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ซึ่งจากสถานการณ์ตลาด C-Segment ตอนนี้ ก็เห็นจะเหลือเพียง 3 ค่ายที่แข่งกันแย่งชิงพื้นที่กันอยู่ โดยตัวละค่ายนั้นก็มีจุดเด่น และจุดขายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่านแล้วละว่าถูกจริตกับรุ่นไหนมากที่สุด แต่ยังไงซะ All-New Mazda 3 ก็ไม่ได้น้อยหน้าใครทั้งนั้นในจุดนี้ เผลอๆ อาจล้ำหน้าไปกว่าเจ้าตลาดตอนนี้ไปแล้วซะด้วยซ้ำ (ยกเว้นเครื่องยนต์นะ)
รีวิว Chevrolet Colorado High Country Storm 4×4 เมื่อคำว่าสุด…มิอาจหยุดเราได้
รีวิว All-New Mazda CX-8 มาตรฐานอเนกประสงค์ยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รีวิว MG Extender สมาร์ทปิกอัพ ตัวถังใหญ่นั่งสบาย อ็อพชั่นมากมายเต็มคัน
รีวิว All-New Toyota Altis Hybrid ยืนหนึ่งเรื่องความประหยัด อ็อพชั่นคุ้มค่าคุ้มราคา
รีวิว All-New Chevrolet Captiva 2019 โดดเด่นอย่างมีสไตล์ สะดวกสบายทุกที่นั่ง
รีวิว Mitsubishi Pajero Sport 2019 ปรับลุคใหม่ ใส่อ็อพชั่น คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
รีวิว NEW MG EXTENDER สัมผัสแรกกับกระบะพันธุ์ใหม่แห่งค่าย MG
รีวิว Honda Accord 2.0 Hybrid TECH เจ้าของค่าตัว 1.799 ล้านบาท มีดีที่ตรงไหน? ไปหาคำตอบกัน
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Group Test : รีวิว All-New Mazda 3 หรูหรา แต่ทรงพลัง อ็อพชั่นอัดแน่นเต็มคัน เทียบชั้นรถยุโรป "