blank

รีวิว All New MAZDA CX-5 2.2 XDL : เรียบหรูดูดี ขับขี่สนุกมากขึ้น มั่นใจกับเทคโนโลยีช่วยขับและระบบความปลอดภัยเพียบ

โพสโดย : rapee / วันที่ : 15 มีนาคม 2018

รีวิว All New MAZDA CX-5 2.2 XDL : เรียบหรูดูดี ขับขี่สนุกมากขึ้น มั่นใจกับเทคโนโลยีช่วยขับและระบบความปลอดภัยเพียบ

IMG_8239

นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่รุกตลาด SUV ในไทยอย่างต่อเนื่องสำหรับมาสด้า หลังจากเปิดตัว ‘All New  MAZDA CX-5’ เจเนอเรชั่น 2 ในช่วงปลายปี 60 โดยยังคงใช้แนวทางการพัฒนาแบบ ‘KODO DESIGN’ Soul of Motion เช่นเดิม แต่เป็นเจเนอเรชั่นที่ใหม่กว่า โดยทีมพัฒ นามีเป้าหมายคือมุ่งเน้นไปที่ ‘สุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น’ ซึ่งเริ่มต้นด้วยรูปแบบอันเรียบง่ายปราศจากชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นมากนัก เสมือนงานหัตถกรรมแบบญี่ปุ่น ภายใต้หลักการ ‘ความแข็งแกร่งอันประณีต’ ถ่ายทอดเป็น SUV ที่มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น

มาสด้า ได้เปิดตัวทำตลาดเอสยูวี CX-5 เจนฯ แรก ในช่วงปี 2555 ภายใต้แนวทางการออกแบบและพัฒนาแบบ KODO DESIGN ที่ผสมผสานกับ SKYACTIV TECHNOLOGY นับว่าเรียกกระแสความนิยมและคำยกย่องจากกลุ่มผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเป็นการออกแบบที่ตอบสนองต่อความรู้สึก และสมรรถนะที่ขับได้สนุกเร้าใจ รวมถึงมีระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม และสิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนคือ ยอดขายจนถึงปัจจุบันนั้นมีจำนวนมากถึง 1.5 ล้านคัน ในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก

สำหรับ MAZDA CX-5 เจเนอเรชั่น 2 ทำตลาด 5 รุ่น 2 เครื่องยนต์

โดย SKYACTIV-G 2.0 (เบนซิน) แบ่งเป็น 3 เกรด

2.0C ราคา 1,290,000 บาท

2.0S (ล้อ 17 นิ้ว) 1,400,000 บาท

2.0SP (ขับเคลื่อน 2WD ล้อ 19 นิ้ว) 1,530,000 บาท

และ SKYACTIV-D 2.2 (ดีเซล) มี 2 เกรด

2.2XD (ขับเคลื่อน 2 ล้อ 19 นิ้ว) 1,560,000 บาท

­2.2XDL (i-Active ขับเคลื่อน 4WD/ซันรูฟ) 1,770,000 บาท

IMG_8254

โดยในครั้งนี้ทีมงาน 9Carthai มีโอกาสได้นำ MAZDA CX-5 รุ่นย่อย 2.2XDL (i-Active ขับเคลื่อน 4WD/ซันรูฟ) สีแดงใหม่ Soul Red Crystal  ซึ่งนับเป็นรุ่นท็อปของเครื่องยนต์ดีเซลมารีวิว ภายใต้เงื่อนไขเสมือนใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน บนเส้นทางในเมือง และนอกเมืองซึ่งต้องเจอสภาพจราจรที่หลากหลาย

IMG_8266

ในเชิงวิศวกรรม ALL-NEW MAZDA CX-5 เจเนอเรชั่น 2 เป็นยานยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง เพื่อช่วยในเรื่องของการยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ทรงพลังมากขึ้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีขนาดกว้างขึ้น 10 มม. และยางได้ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ใกล้กับมุมด้านนอกมากที่สุด ขณะที่โครงสร้างโดยรวมได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ยางหน้าและหลังรองรับตัวถังได้อย่างเต็มที่ ที่ด้านหน้า เสาเอถูกปรับตำแหน่งไปด้านหลังประมาณ 35 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เพื่อขยายการมองเห็นของผู้ขับขี่ไปทางด้านขวาและซ้ายในขณะที่กระจกด้านนอกใหม่ที่เล็กกว่าเดิมจะเพิ่มระยะห่างระหว่างกระจกและเสาเอ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในแนวทแยงมุมเมื่อเลี้ยว ความยาวของลำตัวรถจรดด้านหลังด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ขยายยื่นออกมาจากประตูยกด้านหลังไปสู่ยางหลังแต่ละด้าน

IMG_8280

รายละเอียดภายนอก เรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียด มาสด้าได้พัฒนาแนวคิดของส่วนหน้ารถที่มีตราสัญลักษณ์ของมาสด้า หน้ารถได้ถูกปรับให้ต่ำลงและกว้างขึ้น โคมไฟหน้าได้ถูกปรับให้ต่ำลงและมีขนาดที่บางลง และปีกสัญลักษณ์ที่เน้นความกว้างโดยการกางออกเต็มหน้ารถโดยมีปลายที่ขยายไปต่ำกว่าไฟหน้ารถ และมีไฟตัดหมอก LED ที่บางและยาวให้ความรู้สึกของการไหลด้านข้าง ส่วนของกระจังหน้าใช้รูปแบบ 3 มิติ Signature Wing IIIumination ส่วนไฟหน้าเป็นโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อม Daytime Running Lamp แบบ LED Signature เช่นเดียวกับไฟท้ายเป็นแบบ LED Signatureทั้งหมดนี้รวมกับปีกสัญลักษณ์ที่เหมือนแกะสลักเพิ่มความลึกและการแสดงออกที่โดดเด่นยิ่งขึ้นทำให้หน้ารถดูสปอร์ตขึ้น

IMG_8288

IMG_8263

IMG_8258

มิติตัวถัง ยาวรวม 4,550 มม. (รุ่นก่อนหน้า 4,540 มม.) กว้างรวม 1,840 มม. สูงรวม 1,860 มม. (รุ่นก่อนหน้า 1,710 มม.) ระยะฐานล้อ 2,700 มม. ความกว้างล้อหน้า 1,595 มม. (รุ่นก่อนหน้า 1,585 มม.) ความกว้างล้อหลัง 1,595 มม. (รุ่นก่อนหน้า 1,590 มม). รัศมีเลี้ยวแคบสุด 5.5 ม.

IMG_8384

ภายในห้องโดยสาร เรียบหรูดูผู้ดีพร้อมหลังคาซันรูฟโดยมาสด้าได้คำนึงถึงรูปแบบขององค์ประกอบทุกส่วนที่ล้อมรอบผู้โดยสารเพื่อสร้างรูปแบบพื้นฐาน ที่ให้ความรู้สึกอันน่าพึงพอใจและให้ความสะดวกสบายแก่ทุกคนที่โดยสารในรถ คอนโซลหน้าดีไซน์พรีเมี่ยมแต่เรียบง่ายหุ้มด้วยหนังสีดำด้ายสีน้ำตาล ตกแต่งด้วย Metal Wood และสีเงินซาตินโครม พวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับได้ 4 ทิศทาง และหัวเกียร์หุ้มหนังตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

IMG_8338

IMG_8355

จอแสดงผลข้อมูลมัลติมีเดีย (MID) ทางด้านขวาของแผงหน้าปัดใช้จอแสดงผลแอลซีดีทีเอฟที (LCD-TFT) แบบมีสีขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียดสูง พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการใช้งานที่รวดเร็วและง่ายดาย ไฟแสดงการทำงานตามปกติทั้งหมดใช้สีเขียวอมชมพูแบบเดียวกัน และการวางตำแหน่งอย่างสมมาตรด้านซ้ายขวายังช่วยเพิ่มความง่ายในการมอง

IMG_8532

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ (Active Driving Display) จะแสดงผลข้อมูลบนกระจกหน้ารถเช่นเดียวกับใน CX-9 การวางตำแหน่งหน้าจอแสดงผลเหนือมาตรวัดบนหน้าปัด จะช่วยให้ผู้ขับขี่ลดการละสายตาและการปรับโฟกัสให้น้อยที่สุด ข้อมูลที่แสดงจะแบ่งออกเป็นโซนด้านบนและด้านล่าง ข้อมูลสภาพแวดล้อมในการขับขี่รวมถึงทิศทางของระบบนำทาง ข้อมูลเส้นทางจะปรากฏในส่วนบน ข้อมูลสถานะยานพาหนะรวมถึงความเร็วรถปัจจุบันและข้อมูลอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงจะปรากฏขึ้นที่ส่วนล่าง ทำให้สามารถอ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น และเป็นมาสด้ารุ่นแรกที่นำเอาเทคโนโลยี optical bonding มาใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างจอ LED และระบบสัมผัส เป็นการช่วยลดการสะท้อนและแสดงภาพได้อย่างชัดเจน การติดตั้งจอแสดงผลที่ด้านบนของแผงหน้าปัดแทนตรงแผงกลางจะลดมุมมองต่ำลงจาก 23 องศา เป็น 15 องศา และทำให้มีส่วนช่วยลดการละสายตาของคนขับตอนขับรถ

IMG_8345

ด้านบนของคอนโซลกลาง เป็นจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD CONNECT และตั้งค่าฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ หรือเรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command MZD Connect ช่วยให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตและบริการเครือข่ายทางสังคมได้ง่ายขึ้นเมื่ออยู่ในรถ นอกเหนือจากฟังก์ชั่นเสียงแล้วยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Bluetooth® สำหรับการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี ระบบ AHA™ จาก HARMAN เป็นฟังก์ชั่นการสื่อสารที่ประกอบไปด้วย Twitter และเนื้อหาเว็บอื่น ๆ รวมทั้งฟังก์ชั่นการนำทางที่ใช้ข้อมูลจาก SD การ์ด ซึ่งสามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้ในภายหลัง

IMG_8349

ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมของ Bose® ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยมาสด้า และ Bose ระบบลำโพง 10 ตัวนี้ มีขนาด 165 มิลลิเมตร ที่ประตูด้านหน้า และลำโพงด้านหลังขนาด 130 มิลลิเมตร และทวีตเตอร์เสียงแหลมแบบโดมขนาด 25 มิลลิเมตร ที่เสาเอ กล่องเสียงเบส ลำโพงเสียงกลางขนาด 80 มิลลิเมตร วางที่ตรงกลางคอนโซล และลำโพงเสียงกลางขนาด 60 มิลลิเมตร ที่ด้านบนของเสาซี รวมถึงระบบชดเชยเสียงรบกวนรอบตัว AudioPilot ™ 2 ของ Bose และระบบเสียงเซอร์ราวด์ Centrepoint®2 ทำให้ได้เสียงที่มีความชัดเจนและมีความดังตลอดช่วงเสียง

IMG_8373

เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล โดยคู่หน้ามีความหนาและปรับได้ด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า โอบกระชับรองรับเอวและลำตัวส่วนบน โดยชั้นรองรับที่ใช้กับพนักพิงหลัง มีพื้นที่กว้างให้กระจายแรงจากแผ่นหลังของร่างกายและโอบรองรับพอดีกับร่างกายส่วนบนของผู้โดยสาร การเพิ่มความแข็งแรงให้กับแต่ละส่วนของเบาะพนักพิงหลังและส่วนรองรับเอวและด้านหลังยังทำหน้าที่ในการลดการโยกซ้ายขวาของส่วนบนและการเคลื่อนไหวของศีรษะ ส่วนเบาะที่นั่งด้านหลังมีการตั้งค่าพื้นฐานสำหรับมุมของลำตัวเพิ่มขึ้น 2 องศา เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันเป็น 24 องศา เพื่อให้ผู้นั่งเบาะหลังสามารถนั่งในท่าทางที่สะดวกสบายขึ้น

IMG_8370

ขณะเดียวกันชิ้นส่วนที่สัมผัสโดยตรงกับมือของผู้โดยสาร รวมไปถึงแผงหน้าปัดและการตกแต่งประตูใช้วัสดุที่เรียบและให้ความหนาเพียงพอ สำหรับแป้นเหยียบและพวงมาลัยถูกจัดวางไว้ในลักษณะเมื่อคนขับนั่งแล้วแป้นเหยียบอยู่ในตำแหน่งที่เท้าวางลงเป็นไปตามธรรมชาติ และพวงมาลัยเป็นที่ที่คนขับยืดแขนออกไปตามธรรมชาติ คอนโซลกลางถูกยกให้สูงขึ้นและคันเกียร์สูงกว่ารุ่นปัจจุบัน 60 มม.

IMG_8367

นอกจากนี้ MAZDA CX-5 ยังเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้กลไกการพับพนักพิงสองจังหวะ เพื่อให้พนักพิงหลังของเบาะหลังเอนไปอยู่ที่ 28 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารที่มีร่างเล็กสามารถวางเท้าบนพื้นได้อย่างสะดวกสบาย ตำแหน่งสะโพกของเบาะนั่งด้านหลังต่ำลง 14 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน อย่างก็ตามในส่วนของตัวเบาะอาจสั้นไปนิดทำให้ท้องขวาล้นออกมาจากตัวเบาะ เมื่อนั่งในระยะทางก็อาจส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้อได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มให้ความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยช่องแอร์สำหรับเบาะด้านหลัง รวมทั้งเบาะนั่งสามารถแยกแบบพับได้ 40:20:40 พร้อมปุ่มควบคุมและพนักพิงเบาหลังปรับเอนได้ เป็นมาตรฐานสำหรับทุกรุ่นย่อย

IMG_8362

IMG_8330

IMG_8360

ด้านท้ายมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดความจุ 505 ลิตร (ตามมาตรฐาน DIN พร้อมบริเวณเก็บของขนาดเล็ก) สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ (72 ซม.) ได้ถึง 3 ใบหรือถุงกอล์ฟได้ 4 ถุง นับว่าใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่มีขนาดความจุ 500 ลิตร (ตามมาตรฐาน DIN พร้อมบริเวณเก็บของขนาดเล็ก)

IMG_8361

นอกจากนี้ยังมีประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ใช้ตัวหน่วงกันกระแทกลดเสียงน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด รวมทั้งสามารถเปิด-ปิดประตูด้วยปุ่มบนกุญแจ และสามารถตั้งค่าระดับการเปิดประตูสูงสุดได้จากสวิตช์บนประตูหลัง  เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนติดอยู่ในประตูหลัง เซ็นเซอร์แบบสัมผัสได้ถูกติดตั้งอยู่ด้านในซ้ายและขวาของประตูหลัง

CX5-1022-Skyactiv

เครื่องยนต์ คลีนดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ขั้น อัตราส่วนการอัด  14.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (129 กิโลวัตต์) ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที มีการพัฒนาเทคโนโลยีหลายๆ จุด เช่น หัวฉีดแบบหลายรูช่วยให้สามารถฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ และมีลูกสูบร่องรูปไข่ช่วยรักษาสภาวะการเผาไหม้ให้สมบูรณ์ เพื่อให้ได้อัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1 (ต่ำที่สุดในโลก) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-DRIVE โดยในรุ่นท็อปของขุมพลังดีเซล (XDL) มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ i-ACTIV AWD รุ่นใหม่

พร้อม 3 เทคโนโลยีใหม่ถูกนำมาใช้กับ ALL-NEW MAZDA CX-5 ครั้งแรก คือ ระบบควบคุมแรงดันบูสต์เทอร์โบ (High-Precision DE Boost Control) ช่วยให้สามารถควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยการควบคุมแรงดันบูสต์ให้เหมาะสมและปรับการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้ละเอียดขึ้น เครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันทีและแม่นยำต่อการทำงานของคันเร่งที่ความเร็วรอบต่ำ, ระบบปรับเสียงธรรมชาติ (Natural Sound Smoother) โดยติดตั้งตัวหน่วงในสลักลูกสูบแต่ละลูกซึ่งช่วยลดการน็อคของเครื่องยนต์ ตัวหน่วงหักล้างการสั่นสะเทือนของลูกสูบที่เกิดจากการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งของก้านสูบขณะเผาไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการน็อคในเครื่องยนต์ดีเซลในบริเวณใกล้เคียงกับช่วงความถี่ 3.5 กิโลเฮิรตซ์ และระบบควบคุมความถี่เสียงธรรมชาติ (Natural Sound Frequency Control) โดยเสียงน็อคจากเครื่องยนต์เกิดขึ้นที่หรือใกล้เคียงกับความถี่ 1.3 กิโลเฮิรตซ์ 1.7 กิโลเฮิรตซ์ และ 2.5 กิโลเฮิรตซ์ จะถูกขยายโดยความถี่สูงสุดของแรงสั่นสะเทือนจากการเผาไหม้และชิ้นส่วนที่สั่นพ้อง การควบคุมจังหวะการฉีดและการเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้นทีละ 0.1 มิลลิวินาที และทำให้เกิดการทับซ้อนกันของความถี่ด้านลบของแรงสั่นสะเทือนของการเผาไหม้ที่มีความถี่สูงสุดของชิ้นส่วนสั่นพ้องทำให้สามารถหักล้างการสั่นสะเทือนของแต่ละชิ้นและลดการน็อคได้

ระบบความปลอดภัยล้ำๆ เพียบ ทั้งระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse), ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert), ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control), ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control), ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)

IMG_8503

ช่วงขับทดสอบ ครั้งนี้ทีมงาน 9Carthai ใช้เส้นทางจากตัวเมืองซึ่งมีสภาพการจราจรที่แออัด เพื่อพิสูจน์ถึงความคล่องตัว ก่อนต่อเนื่องออกสู่แถบชานเมืองซึ่งเป็นถนนสายรอง 2 เลนสวน และมีสภาพจราจรค่อนข้างโล่ง เพื่อสัมผัสกับสมรรถนะของขุมพลัง ระบบช่วงล่าง เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมระยะทางการขับ 150 กม.

การทดสอบช่วงแรกเริ่มต้นจากย่านอโศกแล้วต่อเนื่องขึ้นทางด่วน ซึ่งแน่นอนว่าด้วยขนาดของตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่กว่าเดิมในทุกมิติ หลายๆ คนที่มองจากภายนอกมักคิดว่าจะใช้งานได้สะดวกจริงหรือไม่ บอกเลยครับว่าดีเกินคาด โดยมีการออกแบบบานกระจกหน้าที่กว้าง บวกกับและขนาดของเสาเอที่ปรับตำแหน่งไปด้านหลัง และทรงไม่อวบอ้วนจนเกินไป ทำให้สามารถมองเห็นทัศนะวิสัยทั้งด้านหน้าได้ค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งการเปลี่ยนช่องจราจรก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากมีการติดตั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) โดยแสดงสัญลักษณ์ไฟสีส้มบริเวณกระจกมองข้างขึ้นมาให้ผู้ขับได้รู้ ที่สำคัญด้วยพวงมาลัยที่มีน้ำหนักเบามือขึ้น ก็ถือเป็นส่วนช่วยให้ผู้ขับเคลื่อนที่รถไปในตำแหน่งที่ต้องการอย่างสะดวกและคล่องตัว

IMG_8527

ต่อเนื่องสู่เขตชานเมืองการขับเริ่มใช้ความเร็วได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้กับอีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องออกปากชมคือ เสียงรบกวนจากภายนอกไม่ว่าจากเครื่องยนต์ เสียงลม หรือเสียงจากยางและถนน เล็ดรอดเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก เรียกว่าสามารถคุยกับเพื่อนร่วมทางในรถได้อย่างสบายๆ แบบไม่ต้องตะโกนหรือถามซ้ำ

IMG_8474

ส่วนไฮไลต์ที่ผู้ขับชอบเป็นการส่วนตัวคือ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ (Windshield Active Driving Display) ซึ่งแสดงทั้งความเร็วหรือป้ายเตือนจำกัดความเร็วในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน ที่สำคัญยังสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำ หรือปรับความสว่างได้แบบอัตโนมัติ-แบบแมนนวลตามระดับตามที่สายตามองเห็นชัดก็ได้ ซึ่งแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าขัดๆ ตาอยู่บ้างเหมือนมีอะไรมาบดบังสายตา แต่พอขับไปสักระยะก็รู้สึกว่าเคยชิน ช่วยให้ไม่ต้องเหลือบลงมามองที่หน้าปัดซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ยิ่งขับยิ่งสนุกโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แม้เป็นบล็อกเดิมพิกัด 2.2 ลิตร แต่ก็มีการปรับปรุงกล่อง ECU ใหม่ ซึ่งเมื่อผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-DRIVE ที่ได้รับการปรับปรุงกล่องใหม่เช่นกัน (อัตราทดเกียร์ 1 : 3.487, 2 : 1.992, 3 : 1.449, 4 : 1.000, 5 : 0.707, 6 : 0.600 เกียร์ถอยหลัง : 3.990 อัตราทดเฟืองท้าย : 4.090) ดังนั้นการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ ก็อธิบายได้แบบชัดๆ เคลียร์ๆ เลยว่า ขับสนุกมากมาก! แต่ก็ไม่ถึงกับดึงหนักจนหลังติดเบาะซะทีเดียว โดยสามารถขยับเพิ่มระดับความเร็วได้ในเวลาอันสั้นแบบนิ่มๆ หรือหากต้องการเร่งแซงรถหน้าที่ช้ากว่า ไม่ว่าจังหวะที่ความเร็วลอยตัวหรืออยู่ในช่วงความเร็วต่ำ ก็ให้ความอุ่นใจและปลอดภัย เพราะพละกำลังสามารถถ่ายทอดออกมาใช้งานแบบทันท่วงทีไม่ต้องรอรอบ แตะคันเร่งเมื่อไหร่ก็มีให้ใช้งานได้ทันที

โดยระดับความเร็ว 90 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,600 รอบ/นาที, 100 กม./ชม. 1,750 รอบ/นาที, 110 กม./ชม. 2,000 รอบ/นาที, 120 กม./ชม. 2,200 รอบ/นาที, 130 กม./ชม. 2,300 รอบ/นาที, 140 กม./ชม. 2,600 รอบ/นาที, 150 กม./ชม. 2,750 รอบ/นาที, 160 กม./ชม. 2,900 รอบ/นาที และ 180 กม./ชม. 3,300 รอบ/นาที (ระดับความเร็ววัดเมื่อวัดด้วย GPS ไมล์จะอ่อนกว่าการประมาณ 5%)

IMG_8452

ในขณะที่การควบคุมรถก็ทำได้ง่าย พวงมาลัยค่อนข้างคม ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยคือ น้ำหนักของพวงมาลัย โดยส่วนใหญ่หลายคนมักคุ้นชินกับพวงมาลัยที่แปรผันน้ำหนักอัตโนมัติตามระดับความเร็วคือ เบามือในช่วงความเร็วต่ำและหน่วงมือหนักขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง เสมือนทำให้ผู้ขับรู้สึกว่ารถมีความมั่นคงหนักแน่น แต่กับ MAZDA CX-5 เจนฯ 2 เรียกว่าสวนกระแสกับความรู้สึกที่เคยได้สัมผัสมา เพราะว่าไม่ว่าจะใช้ความเร็วต่ำหรือสูงก็ตาม พวงมาลัยก็ยังเบามือตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ยังให้ความคมนิ่งเช่นเดิม ซึ่งเป็นผลจากการเซ็ตน้ำหนักพวงมาลัยให้รองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีผู้ขับก็ควรปรับตัวให้คุ้นเคยกับคาแร็คเตอร์รถพอสมควร ไม่งั้นอาจจะรู้สึกว่าพวงมาลัยนั้นเบาจนกลายเป็นว่าไวจนเกินไป

IMG_8318

IMG_8324

ลองเปลี่ยนมานั่งในตำแหน่งเบาะแถวหลัง เพื่อพิสูจน์จุดขายที่ว่ากันว่าได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อผู้โดยสารในหลายๆจุด ซึ่งสิ่งที่รู้สึกได้คือความกว้างทั้งส่วนของพื้นที่วางขา-ระยะยื่นของหัวเข่ามีค่อนข้างเหลือเฟือ รวมทั้งพนักพิงที่ปรับระดับความเอียงได้ 1 ระดับ ก็ช่วยเพิ่มความสบายได้ไม่น้อย อย่างไรก็ดีในส่วนของตัวเบาะที่ซัพพอร์ตขามีขนาดค่อนข้างสั้น ทำให้ใต้ท้องขาล้นออกมาเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าหากนั่งไกลๆ ก็อาจสร้างความเมื่อยล้าได้เหมือนกัน

IMG_8357

อีกหนึ่งจุดที่ทีมออกแบบได้คำนึงถึงผู้โดยสารคือ การติดตั้งช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ (2.1 แอมป์) บริเวณที่พนักวางแขนตรงกลางเบาะหลัง รวมถึงแผงประตูซ้าย-ขวาที่เลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างอ่อนนุ่ม ซึ่งรถคลาสเดียวกันส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่มีความแข็งหรือหยาบซะมากกว่า

IMG_8500

ระบบช่วงล่าง ซึ่งตลอดเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเรียบมีพื้นที่ซ่อมผิวจราจรบางช่วง จากความรู้สึกส่วนตัวของผู้ทดสอบ ALL-NEW MAZDA CX-5 (XDL) สามารถเคลื่อนผ่านได้แบบมั่นใจ อีกทั้งผู้ขับจะสัมผัสได้ถึงความแน่นหนึบ และกระด้างน้อยลงเมื่อเทียบจากโมเดลก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนสปริงโช้กอัพใหม่ รวมถึงบูชปีกนกมีการใส่ของเหลวเข้าไปเพื่อลดแรงสะเทือน ในขณะที่การเข้าโค้งทั้งแบบต่อเนื่องหรือโค้งลึกๆ ยาวๆ การยึดเกาะถนนนับว่าค่อนข้างเนียนและมั่นใจ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แถมยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ GVC หรือ G-Vectoring Control ที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองกับการเลี้ยวของพวงมาลัย และถ่ายเทน้ำหนักในแนวดิ่งให้ลงบนล้อแต่ละล้ออย่างเหมาะสม ที่สำคัญลดอาการโยนตัว ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารรู้สึกว่ารถมีอาการโคลงเคลงน้อยลง

IMG_8398

สรุป สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนสำหรับเอสยูวีสายพันธุ์ซูมซูมคันนี้คือ สมรรถนะและประสิทธิภาพที่ได้รับการพัฒนาใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังที่ขับได้สนุก ตอบสนองดีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ภายในห้องโดยสารหลากหลายด้วยฟังก์ชั่นความสะดวกสบาย รวมทั้งระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยขึ้น สิ่งสำคัญยังรองรับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ซึ่งใครที่กำลังหา SUV แท้ๆ ขับสบาย ออปชั่นแน่นๆ ไว้ใช้งานสักคันในราคาไม่ถึงล้านแปด ALL-NEW MAZDA CX-5 พร้อมให้ความรู้สึกใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาจากรถคันไหนๆ อย่างแน่นนอน

รูปภาพ และผู้เขียน : ระพี มาประสพ

IMG_8239IMG_8254  IMG_8266 IMG_8263 IMG_8258 IMG_8280IMG_8286 IMG_8288 IMG_8300IMG_8384IMG_8371IMG_8338IMG_8370IMG_8344IMG_8332IMG_8351IMG_8355IMG_8353IMG_8342IMG_8345IMG_8469IMG_8346IMG_8349IMG_8373IMG_8376IMG_8367IMG_8330IMG_8362IMG_8357IMG_8360IMG_8361IMG_8532IMG_8474IMG_8527IMG_8513IMG_8508IMG_8503IMG_8500IMG_8487


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว All New MAZDA CX-5 2.2 XDL : เรียบหรูดูดี ขับขี่สนุกมากขึ้น มั่นใจกับเทคโนโลยีช่วยขับและระบบความปลอดภัยเพียบ "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

Sales ประจำเว็บนะครับ

blank
BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
blank
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
blank
GWM ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
blank
Haval ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
blank
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
blank
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
blank
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
blank
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
NETA K.จูน
082-625-3991 / LINE : 0826253991
blank
Nissan K.ดาว
065-625-9988 / LINE : soidao7117
blank
Ora ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
blank
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด