
Group Test : รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกความเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ
ต้องยอมรับว่า Eco Car ยุคใหม่นี้ เป็นรถที่มีสมรรถนะเทียบเท่า หรือทดแทนรถยนต์ในกลุ่ม B-Segment ได้แล้วจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาดตัวถัง, ความกว้างขวางนั่งสบายภายในห้องโดยสาร, ระบบความปลอดภัย หรือแม้แต่สมรรถนะของขุมพลังเครื่องยนต์ก็ตาม อีกทั้งยังได้ในเรื่องของความประหยัดน้ำมันมาเป็นของแถมอีกต่างหาก
และนั่นจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้รถยนต์ในกลุ่มนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่อยากจะได้รถยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวันในราคาที่เข้าถึงง่าย และหนึ่งในรุ่นที่กำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ก็คือ All-New Nissan Almera ที่เราจัดทำบทความรีวิวมาให้คุณได้พิจารณากันในวันนี้
โดยใช้เส้นทางทดสอบจาก จ.ภูเก็ต – จ.พังงา ซึ่งมีระยะทางกว่า 250 กม.
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ All-New Nissan Almera หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็ได้รับการชื่นชม และมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องยอมรับว่า Nissan ได้ออกแบบมาเป็นอย่างดี เปลี่ยนโฉมไปจากเดิมอย่างอย่างกับรถคันละรุ่นเลยทีเดียว
โดยด้านหน้ามาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว สอดรับกับกระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์เฉพาะของ Nissan, กระจกมองข้างดีไซน์สปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว, ออกแบบหลังคาแบบลอยตัวโดยเติมเส้นสายสีดำบริเวณเสา C เพื่อแยกระหว่างหลังคากับตัวรถ, ไฟท้ายแบบ LED ทรงบูมเมอแรง, Diffuser ท้ายลายเคฟล่าเต็มอารมณ์สปอร์ต ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่
มิติตัวถัง All-New Nissan Almera เทียบกับโฉมก่อน
จากตารางเปรียบเทียบดังกล่าว จะเห็นได้ชัดเลยว่า All-New Nissan Almera นั้น มีมิติตัวถังที่ยาวขึ้นกว่าโฉมก่อนถึง 70 มม. อีกทั้งยังกว้างขึ้นถึง 45 มม. และมีระยะฐานล้อที่กว้างขึ้นอีก 20 มม. ในขณะที่ความสูงถูกปรับลดลงไป 40 มม.
ซึ่งถ้าพูดถึงภาพรวม ต้องบอกว่า All-New Nissan Almera ถูกปรับมิติตัวถังใหม่ ที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับรถใน B-Segment เลยทีเดียว ซึ่งถ้าจะให้นิยามว่ารุ่นนี้คือมาตรฐานใหม่ของ Eco Car ก็คงจะไม่เวอร์เกินไปจริงไหม?
ด้วยปัจจัยของมิติตัวถังภายนอกที่กว้างและใหญ่ขึ้น ส่งผลให้พื้นที่สำหรับห้องโดยสารตอนหลังมีขนาดที่กว้างขวางและนั่งสบายตามไปด้วย โดย All-New Nissan Almera นั้น มีขนาดความกว้างของเบาะนั่งตอนหลังที่มากขึ้นกว่าโฉมก่อนถึง 42 มม. และมีพื้นที่เหนือศรีษะเพิ่มขึ้นจากโฉมก่อนอีก 8 มม. ซึ่งหากใครที่เคยสัมผัสกับ Nissan Almera โฉมก่อน ต่างก็คงจะรู้ดีว่าเป็นรถที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบายอยู่แล้ว แต่ในโฉมใหม่นี้ยิ่งกว้างขวางและสะดวกสบายที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น
สำหรับภายในห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบใหม่ที่ดูพรีเมียมเกิน Eco Car ด้วยห้องโดยสารสีทูโทน ที่เน้นวัสดุตกแต่งแบบ Soft Touch, พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape เต็มอารมณ์สปอร์ต, เบาะนั่งแบบผ้าสีทูโทนเข้าชุดกับสีห้องโดยสาร, ปุ่ม Push Start, แสดงผลข้อมูลการขับขี่ผ่านหน้าจอบนเรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 7″, กึ่งกลางคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8″ ที่มาพร้อมระบบ Nissan Connect รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองนั่งภายในห้องโดยสารของ All-New Nissan Almera แล้วนั้น ต้องบอกว่าเบาะนั่งนั่งไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่หากคุณเป็นคนตัวใหญ่ (อ้วน) แต่ถ้าเป็นไซส์คนเอเชียทั่วไปก็พอจะนั่งได้ แต่ไม่ถึงกับประทับใจ เพราะเบาะนั่งมันดูจะแคบๆ แถมเวลานั่งแล้วยังรู้สึกจมลงไปอีก แต่เรื่องของความกว้างขวางไม่อึดอัดอันนี้คอนเฟิร์ม วัสดุภายในต่างๆ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเหมาะสมกับราคา ส่วนเรือนไมล์แบบ TFT 7″ นั้น ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีกว่า Honda City เยอะเลย
ทั้งนี้ All-New Nissan Almera ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร Turbo สมรรถนะสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 152 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ Xtronic CVT โดยทาง Nissan เคลมไว้ว่ามีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดที่ 23.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน Eco Sticker นั่นเอง
หลังจากที่ได้ทดลองขับ All-New Nissan Almera มาแล้วนั้นต้องบอกเลยว่า คาแร็คเตอร์ของตัวรถเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากโฉมก่อนอย่างผิดหูผิดตา ความอืดในเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร N/A ที่เคยรู้จัก ถูกแทนที่ด้วยความจี๊ดจ๊าดปู๊ดป๊าดของเครื่องยนต์ 1.0 Turbo ที่มอบอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจขึ้นกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้ จังหวะเร่งแซงทำได้เฉียบขาดและมั่นใจยิ่งขึ้น (แต่ก็ไม่ถึงขนาดหน้าตึงดึงหลังติดเบาะ) อัตราเร่งจังหวะเร่งแซงจะออกแนวแซงนิ่มๆ เรียกแล้วมา ไม่ต้องลุ้นว่าจะแซงพ้นหรือเปล่าซะมากกว่า
ซึ่งถ้าถามว่า แล้วถ้าเทียบกับ 1.0 VTEC Turbo ของ Honda City ละ อันไหนแรงกว่า? บอกตรงๆ ว่าของ Honda City นั้นแรงกว่า แต่ Nissan Almera นั้นมันก็มีจุดเด่นด้านอื่นๆ ที่มากกว่า เดี๊ยวจะเหลาต่อให้ฟัง
สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้ เข็มไมล์จะป้วนเปี้ยนๆ อยู่ที่ระหว่าง 180 – 190 กม./ชม. (หลังจาก 140 กม./ชม. ขึ้นไปจะไต่ระดับช้าลง) ซึ่งอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ทำได้จากการทดสอบ 3 ครั้ง ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10.8 วินาที ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ วัดแล้ววัดอีกว่ามันไม่เกิน 11 วินาทีจริงๆ หรือ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่า เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo ใหม่ของ All-New Nissan Almera นั้น มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่าเดิมจริงๆ
ส่วนอัตราประหยัดน้ำมัน ในการทดสอบครั้งนี้จบทริปด้วยตัวเลข 15.8 กม./ลิตร ซึ่งเป็นการทดสอบขับขี่แบบเฟ้นสมรรถนะ หวดยับไม่สนเรื่องอัตราเฉลี่ยน้ำมัน แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ทำให้อมยิ้มได้ไม่น้อย ซึ่งถ้าขับแบบปกติที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ตัวเลขน่าจะขยับขึ้นไปเป็น 17 – 18 กม./ลิตร อย่างแน่นอน
ส่วนไฮไลท์สำคัญของ All-New Nissan Almera ที่ถือเป็นจุดขายนั่นก็คือ สมรรถนะการทรงตัวและระบบช่วงล่าง ซึ่งตรงจุดนี้ Nissan ทำออกมาได้น่าประทับใจกว่า Honda City 1.0 VTEC Turbo โดยช่วงล่างของ Nissan Almera ใหม่ นั้น จะมีความนุ่ม-หนึบ-เกาะถนน และมีความพอดิบพอดีกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ จังหวะการเข้าโค้งด้วยความเร็วทำได้อย่างมั่นใจและเอาอยู่ ในส่วนของระบบเบรกถือว่าตอบสนองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่มีคำถามให้ต้องสงสัยต่อ
แต่ All-New Nissan Almera นั้น กลับมีค่ามาตรฐานลมยางที่สูงถึง 38 PSI ซึ่งในบางจังหวะจะรู้สึกได้ถึงความกระด่างของยางที่กระทบกับพื้นถนนที่ขรุขระ (Nissan ให้คำตอบว่า เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามมาตรฐาน) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ลมยางแข็งมันจะประหยัดน้ำมันกว่านั่นเอง โดยจุดนี้แนะนำให้ลดแรงดันลมยางลงสัก 4-6 PSI แล้วคุณจะพบว่าความนุ่มที่นั่งสบายในรถระดับ B-Segment มีอยู่ใน Eco Car คันนี้
ระบบความปลอดภัยใน All-New Nissan Almera คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Eco Car รุ่นนี้ มีความคุ้มค่าคุ้มราคา และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเซกเม้นต์นี้
ซึ่งระบบต่างๆ ที่ได้เห็นอยู่นั้นถือเป็นระบบที่มีใน All-New Nissan Almera เพียงรุ่นเดียวในคลาสนี้ โดยต้องบอกว่าระบบต่างๆ นั้น ล้วนแล้วแต่มีอยู่ในรถระดับ C-Segment ขึ้นไป แต่ Nissan ก็ใจถึง ยัดเข้ามาให้ในรถ Eco Car และนั่นจึงทำให้ยอดขายของ All-New Nissan Almera ดีจนดีลเลอร์ต้องแย่งรถจากโรงงานกันเลยทีเดียว
ราคาจำหน่าย All-New Nissan Almera
บทสรุป
โดยรวมแล้วถือว่า All-New Nissan Almera นั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ดีจนกลายไปเป็นคู่เทียบกับ Honda City ซึ่งแต่ก่อนมันคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ อาจะเพราะ Honda เองลดขนาดเครื่องยนต์ลงมาอยู่ในกลุ่มนี้ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือ Nissan เขายกระดับมาตรฐานขึ้นไปจนเทียบชั้นได้ต่างหาก
ซึ่งจุดเด่นหลักๆ ก็คงจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูหรูหรา และทันสมัยมากขึ้น ผนวกกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน
ชนิดที่มือใหม่ขับก็ปลอดภัย มือเก๋าขับก็สะดวกสบาย และสุดท้ายคือราคาที่ต้องบอกว่าจะรุ่นย่อยไหนมันก็คุ้มค่าแล้วแต่กำลังศรัทธาของท่านเลย
ซึ่งสมรรถนะโดยรวมนั้นก็เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันที่อ็อพชั่นก็เท่านั้นเอง
ซึ่งถ้าจะให้ดีขอแนะนำให้คุณไปทดลองขับด้วยตัวคุณเอง แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่ผมได้บอกไปไม่มีอะไรเกินจริง
บทความน่าอ่าน!!
บทความเปรียบเทียบ Nissan Almera vs Honda City
ใหม่ NEW NISSAN ALMERA 2020 ราคา นิสสัน อัลเมร่า ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
รีวิว Honda City 1.0 VTEC Turbo โอโหแรงจริง! ขับดีเกิน Eco Car
รีวิว Toyota Yaris Cross อีโคคาร์สไตล์ครอสโอเวอร์หนึ่งเดียวในคลาส ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิต
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Group Test : รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกความเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ "