รีวิว All-New Suzuki XL7 รถอเนกประสงค์สุดคุ้ม คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับค่าย Suzuki เลยก็ว่าได้ สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ในสไตล์แบบ Multi Dynamic Crossover กับเจ้า All-New Suzuki XL7 ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Think XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 กรกฏาคมที่ผ่าน
นับจากวันนั้นจนวันนี้ All-New Suzuki XL7 กวาดยอดจองไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,300 คัน ซึ่งทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 300 คันต่อเดือนไปหลายเท่าตัวเลยทีเดียว และนั่นก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่ารถอเนกประสงค์รุ่นนี้มันเจ๋งขนาดไหน
ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น..ไปติดตามกันได้เลยครับ
สำหรับ All-New Suzuki XL7 นั้น ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แพลตฟอร์ม Heartect ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของทางค่าย Suzuki ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลากหลายรุ่นกับตัวถังแพลตฟอร์มนี้ โดยโครงสร้างตัวถังมีน้ำหนักที่เบา แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง
สิ่งที่ทำให้ Multi Dynamic Crossover โดดเด่นอย่างแท้จริงก็คือ ในเรื่องของดีไซน์ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น…
ระบบไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมเส้นสายของไฟ DRL แบบ LED ที่สอดรับกับกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต ที่เพิ่มความหรูหราด้วยเส้นสายของโครเมียมในแนวขวางพาดยาวด้านหน้าตัวรถ ส่งผลให้ตัวรถดูมีความกว้างขวางมากขึ้น
กันชนหน้ามาในสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบให้มีเพลทกันกระแทกใต้ชุดกันชน มาพร้อมไฟตัดหมอกในตัว (แต่ไฟตัดหมอกตรงนี้ยังเป็นหลอดฮาโลเจน)
ถัดมาที่ด้านข้างตัวรถเสริมลุค Crossover ด้วยชุดคิ้วกันกระแทกบริเวณซุ้มล้อสีดำ อีกทั้งยังเพิ่มเส้นสายที่ด้านข้างตัวรถทำให้ตัวรถดูมี Shape ที่แข็งแกร่ง และบึกบึนมากยิ่งขึ้น
กระจกมองข้างออกแบบให้มีไฟเลี้ยวในตัว ด้านบนหลังคาตรงนี้มาพร้อมกับราวแร็คหลังคาที่ติดตั้งมาให้พร้อมจากโรงงาน รองรับสำหรับทุกการบรรทุกสัมภาระ
ปิดท้ายด้วยชุดล้ออลูมิเนียมน้ำหนักบาลายสปอร์ตขนาด 16″
ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับชุดไฟท้าย LED แบบ Light Guides โดดเด่น เห็นชัดทุกการเคลื่อนไหว บริเวณฝาปิดประตูท้ายเสริมเส้นสายของโครเมียม
กันชนท้ายออกแบบมาในสไตล์สปอร์ต พร้อมมีการ์ดกันกระแทกที่ใต้ท้องที่ออกแบบให้เป็น Diffuser รีดอากาศออกจากใต้ท้องรถไปในตัว
ส่วนฝาปิดประตูท้ายเป็นแบบมือเปิดแมนนวล ไม่มีระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า หรือ Kick Sensor นะจ๊ะ
มิติตัวถังของ All-New Suzuki XL7
หากนำมิติตัวถังของ All-New Suzuki XL-7 ไปเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Xpander Cross จะพบว่าขนาดและมิติตัวถังของ XL7 จะเล็กกว่าเล็กน้อย
โดยจุดสำคัญๆ ก็คือในเรื่องของระยะต่ำสุดจากพื้น ที่ทาง XL7 นั้น มีความสูงที่ 200 มม. ส่วนคู่แข่งอย่าง Xpander Cross จะอยู่ที่ 225 มม.
แต่สิ่งที่ XL7 ได้เปรียบก็คือความกว้างของฐานล้อหลังที่กว้างกว่าถึง 20 มม. ซึ่งเป็นจุดที่บ่งบอกว่าพื้นที่ภายในห้องโดยสารตอนหลังโดยเฉพาะแถว 3 จะกว้างกว่า Xpander Cross อย่างแน่นอน
รวมไปถึงในส่วนของน้ำหนักตัวถังที่เบากว่าถึง 105 กก. ซึ่งจะส่งผลในเรื่องของอัตราประหยัดน้ำมันที่น่าจะทำได้ดีกว่านั่นเอง
สำหรับภายในห้องโดยสารของ All-New Suzuki XL7 มาในสไตล์เรียบหรู แต่แฝงความสปอร์ต ด้วยชุดคอนโซลหน้าสีดำที่ตกแต่งด้วย Carbon Fiber พร้อมเสริมคิ้วโครเมียมยาวจรดแผงประตู อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ถอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน
เริ่มด้วย พวงมาลัยทรงสปอร์ต D-Shape แบบมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ และรับสาย-วางสายโทรศัพท์ได้ ส่วนเบาะนั่งเป็นแบบผ้าสลับหนังที่ด้านข้างปรับด้วยระบบแมนนวลทั้งหมด
หน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบ Apple Carplay, พร้อมช่องเสียบ USB และ HDMI รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ให้มาเยอะถึง 3 จุด, ช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง พร้อมระบบทำความเย็น และปุ่ม Push Start
สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 มาพร้อมเบาะนั่งแบบ 3 ที่นั่ง กว้างขวางนั่งสบาย พร้อมมีช่องแอร์บนแพดานสำหรับผู้โดยสารแถวหลังโดยเฉพาะ สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ มาพร้อมช่องจ่ายไฟสำรองที่คอนโซลกลาง
ส่วนเบาะนั่งสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 อีกทั้งยังสามารถปรับเลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ รวมไปถึงสามารถปรับเอนลงได้ด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารแถวที่ 2 รวมไปถึงเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออกเบาะนั่งแถวที่ 3 อีกด้วย
ส่วนเบาะนั่งแถว 3 สามารถนั่งได้อีก 2 ที่สำหรับผู้ใหญ่ หรืออาจจะ 3 ที่ หากเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ตัวเล็ก ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ผู้ใหญ่สามารถนั่งได้แบบไม่ติด ทั้งในช่วงของช่องว่างด้านหน้า และช่องว่างเหนือศรีษะ
เบาะนั่งสามารถปรับพับแยกอิสระได้แบบ 50:50 เพื่อรองรับกับการจัดเก็บสัมภาระที่หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังออกแบบให้มีช่องสำหรับวางแก้วน้ำที่ด้านข้างมาให้ด้วย
สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ All-New Suzuki XL7 นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินรหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Suzuki Ertiga
ให้สมรรถนะสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20
ระบบความปลอดภัย All-New Suzuki XL7
เมื่อทำความรู้จักสเปคและข้อมูลพื้นฐานกันไปแล้ว ก็ถึงคราวทดสอบขับขี่จริงกันบ้าง โดยฟิลลิ่งของสมรรถนะ All-New Suzuki XL7 มีรายละเอียดดังนี้
อัตราเร่ง
สำหรับอัตราเร่งของ All-New Suzuki XL7 ต้องบอกว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีอัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม อาจจะไม่ใช่รถที่ปรู๊ดปร๊าดแต่ก็ไม่ได้อืดอาดไม่ทันใจ อัตราเร่งตอบสนองได้ดีพอสมควร
ซึ่งจังหวะ Kick Down หรือต้องการเค้นพลัง ตัวรถจะทำการเชนจ์เกียร์ให้อย่างรวดเร็ว ทำให้รอบเครื่องยนต์ค่อนข้างที่จะดันไปสูง เนื่องจากตัวรถมีเพียงแค่ 4 เกียร์ ซึ่งเกียร์ที่ใช้บ่อยในจังหวะเร่งแซงจะอยู่ที่ระหว่าง 2 กับ 3 ซึ่งรอบเครื่องอาจจะสูงไปสักหน่อย แต่ก็สามารถลากไปได้
โดยจังหวะเร่งแซงหากนั่งมาเต็มคันหรือมีสัมภาระที่หนัก แนะนำให้เผื่อระยะสักหน่อย แต่ถ้าหากขับคนเดียว บอกเลยฟิลลิ่งเหมือนรถ City Car ทั่วไป เพียงแต่ เกียร์มันจะใช้รอบสูงกว่านิดหน่อย
ส่วนความเร็วปลายก็ถือว่าทำได้ไม่น่าเกลียด โดยจากที่ได้ทดลองขับต้องบอกว่าเข็มไมล์สามารถพุ่งทะยานได้ถึง 170 กม./ชม. เลยทีเดียว แต่ช่วงความเร็วตั้งแต่ 120 ขึ้นไป อาจจะขึ้นช้าลงเล็กน้อย แต่แค่นั้นก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ซึ่งรถสไตล์แบบพาครอบครัวเที่ยวแบบนี้ ใครเขาจะอัดกันถึง 160 ตลอดทาง จริงไหม?
ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ทำได้จากการทดสอบครั้งนี้ ปิดตัวเลขที่ 12.1 กม./ลิตร ซึ่งฟังดูอาจจะไม่ค่อยประหยัดสักเท่าไหร่ แต่นี่เป็นการขับแบบทดสอบเพื่อเฟ้นหาสมรรถนะ หากขับขี่ใช้งานในชีวิตจริงแบบปกติธรรมดาทั่วไป เชื่อว่าตัวเลขอาจจะขยับขึ้นไปเป็นที่ 14-15 กม./ลิตร
ช่วงล่าง ต้องบอกว่ายังมีความแข็งกระด่างอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะไม่ได้นิ่มนวลชวนฝันเหมือนอย่าง Suzuki Ertiga ซึ่งรุ่นนั้นทาง Suzuki เขาตั้งใจพัฒนาขึ้นให้เป็นรถครอบครัววิ่งถนน แต่เจ้า All-New Suzuki XL7 นี้ อาจจะมีการปรับเซ็ตใหม่ ให้รองรับกับการขับขี่ที่สมบุกสมบัน และรองรับกับการขับขี่ในความเร็วสูงได้ดีขึ้น ซึ่งจุดนี้หากขับคนเดียวอาจรู้สึกถึงความกระด่างชัดเจน แต่ถ้าหากลองนั่งเต็มความจุ 5-7 ที่นั่ง และมีสัมภาระไปด้วย รับรองว่าคุณจะชอบความเฟิร์มของช่วงล่าง All-New Suzuki XL7 แน่นอน ซึ่งผมได้ลองมาแล้ว นั่งเต็ม 6 ที่นั่งพร้อมสัมภาระ บอกเลยว่าช่วงล่างค่อนข้างลงตัว แต่สิ่งที่ไม่ค่อยน่าไว้วางใจก็คือในส่วนของยาง ซึ่งดูจากซีรีย์และขนาดของหน้ายางแล้ว มันเล็กไปสักนิดนึง ซึ่งถ้าขับในช่วงฝนตกหรือถนนเปียกลื่น จุดนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
ทัศนวิสัย ในการมองเห็นจุดนี้ก็ค่อนข้างโอเค เพราะตัวรถถูกยกสูง ทำให้มองเห็นได้กว้างและไกลกว่า แต่บริเวณเสา A อาจจะมีขนาดใหญ่และทึบไปหน่อย จังหวะขับขึ้นเขา-ลงเขา อาจจะมีจุดบอดสายตาอยู่บ้างต้องระมัดระวัง
ส่วนเสียงลมปะทะภายในห้องโดยสาร ก็ถือว่าแดมป์ได้ดี ไม่ดังจนน่ารำคาญ แต่ก็มีบ้างตามสไตล์รถยกสูง ซึ่งมันต้องโดนลมปะทะเข้าเต็มๆ อยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะ มันไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นหรอก หากนั่งกัน 7 คน ก็ยังคุยกันแบบได้ยินชัดแจ๋วเหมือนเดิม
ข้อดีของ All-New Suzuki XL7
ข้อเสียของ All-New Suzuki XL7
บทสรุป
และนี่ก็คือรายละเอียดทั้งหมดของ All-New Suzuki XL7 ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นรถอเนกประสงค์น้องใหม่ในตลาดประเทศไทย ที่สามารถนั่งได้ถึง 7 ที่นั่ง และสามารถพาคุณไปได้ทุกเส้นทางอย่างสะดวกสบาย รูปลักษณ์ก็ดูพรีเมียมทันสมัย และที่สำคัญคือราคาจำหน่ายที่เป็นมิตร ให้คุณได้เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ
ทั้งนี้ All-New Suzuki XL7 มีราคาจำหน่ายที่ 779,000 บาท (ราคาพิเศษช่วงแนะนำ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง) ส่วนสีขาวที่นำมารีวิวในครั้งนี้ต้องจ่ายเพิ่ม 5,000 บาท มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุดเริ่มต้นเพียง 1.89% เท่านั้น สำหรับท่านที่สนใจสามารถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศได้แล้ววันนี้ ก่อนราคาพิเศษจะหมดเขตนะจ๊ะ
ดูตารางผ่อนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.9carthai.com/new-suzuki-xl7-price/
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว All-New Toyota Corolla Cross ลองสั้นๆ ครั้งแรกในโลก บอกเลยดีเกินคาด!!
รีวิว : สัมผัสแรก Nissan Kicks e-Power ขับดีเกินคาด อัตราเร่งทันใจ ใช่เลย!!
รีวิว Toyota Hilux REVO Rocco 2020 บอกเลย Minorchange ครั้งนี้ เหนือกว่า All-New ค่ายอื่นเสียอีก
รีวิว All-New Mazda 3 ความลงตัวที่สง่างาม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ไม่ง้อขุมพลัง
รีวิว All-New Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในปฐพีนี้
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว All-New Suzuki XL7 รถอเนกประสงค์สุดคุ้ม คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร "