รีวิว Chevrolet Colorado Centennial 4X2 MT รุ่น Limited Edition 100 คัน กับทริป เชฟฯรักษ์ช้าง
เมื่อวันที่ 18-19 ม.ค. ที่ผ่านมา ทาง 9carthai เราได้รับเกียรติเข้าร่วมทดสอบรถ Chevrolet Colorado High-Country Storm และ Centennial ในทริป เชฟฯรักษ์ช้าง ร่วมอนุรักษ์สัตว์ป่า ด้วยการทำโป่งเทียม ให้ช้าง และร่วมสร้างรั้วกั้นสัตว์ป่า เพื่อช่วยลดปัญหามนุษย์กับช้างป่า
โดยการทดสอบนั้นมีขึ้นโดยขบวนสื่อมวลชนเรา เดินทางออกจาก W Hotel มุ่งหน้าออกไปทางเส้นพระราม 2 มุ่งหน้าไปโรงงานเกลือนิยม ขนถุงเกลือ และถุงเกลือแร่ ขึ้นท้ายกระบะ เตรียมทำโป่งเทียม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ในช่วงขาเข้าไปยังอุทยานเพื่อทำกิจกรรม ช่วงนี้จะเป็นเส้นทาง OffRoad ให้ พวกเราได้ขับลองสมรรถนะของเจ้ากระบะพันธุ์แกร่งจาก Chevrolet ทั้ง Colorado High-Country Storm และ Centennial กันด้วย
ในครั้งนี้ทางทีมงาน 9carthai เราได้ทดลองขับ Chevrolet Colorado High-Country Storm 4X4 AT และ Colorado Centennial High-Country 4X2 MT
โดยเราจะขอโฟกัสในเรื่องของการขับขี่ไปที่ตัว Colorado Centennial High-Country 4X2 MT เป็นหลัก เนื่องจากผู้เขียนได้เคยทำรีวิว High-Country 4X4 AT เป็นที่เรียบร้อย คลิ๊กอ่านได้ที่นี่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราขอพาทุกท่านมาชม รีวิว Chevrolet Colorado High-Country Centennial 4X2 MT คันนี้กันเลยดีกว่าครับ
รถ Chevrolet Colorado Centennial Edition ถือเป็นรถรุ่น Limited Edition ฉลองครบรอบ 100 ปี รถกระบะของค่ายโบว์ไทด์ ซึ่งจะผลิตขึ้นเพียง 100 คันเท่านั้น
ซึ่งทางทีมงาน 9carthai เราได้สัมผัส เป็นรุ่นขับเคลื่อน 2WD 4 ประตู เกียร์ธรรมดา
เริ่มที่ภายนอกนั้น
ตัวโลโก้ของรถเดิมทีเป็นโบว์ไทด์สีทอง ถูกปรับเป็นโลโก้โบว์ไทด์พิเศษสีดำ ทั้งด้านหน้า-ท้าย
รวมไปถึงด้านข้างประตูอีกด้วย พร้อมคำว่า 100 Years
กระจกมองข้าง และมือจับประตูจะเป็นสีโครเมียม ซึ่งแตกต่างจาก Storm ที่เป็นสีดำ
ล้ออัลลอยขอบ 18″ และสติกเกอร์บนฝนกระโปรงสีดำ เช่นเดียวกับ Storm
นอกจากนี้ได้มีการติดตั้งเพิ่มตัวโป่งล้อสีดำ ช่วยให้รถดูดุดัน และมีมิติยิ่งขึ้น
เมื่อเปิดประตูเข้ามาชมภายในห้องโดยสารออก กระจกคู่หน้า จะลดระดับลงเพื่อให้การปิดประตูนั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้น (ในแบบรถสปอร์ต)
ตัวกุญแจยังมีลูกเล่นที่ฟังก์ชั่น รีโมทสตาร์ท ช่วยให้คุณสามารถติดเครื่องยนต์พร้อมระบบปรับอากาศได้จากภายนอกรถ เหมาะกับสภาพอากาศอันร้อนแดดเช่นประเทศไทยเรา
ในรุ่น Centennial ถือเป็นรุ่น Limited Edition ตามที่บอกไป ดังนั้น จะมีตัวเลขระบุหมายเลขอยู่ที่แผงประตูคู่หน้า ขณะที่รายละเอียดภายในอื่นๆ ก็จะเหมือนกันกับโฉม Colorado High-Country
มีลูกเล่นที่ Chevrolet My Link ที่เป็น Infotainment สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและแสดงผลบนจอหน้าจอทัชสกรีนได้
ใต้แผงควบคุมแอร์ระบบออโต้ จะพบปุ่มสวิทช์ความปลอดภัย และช่องจ่ายไฟ 2 ช่อง และทางด้านท้ายอีก 1 ช่อง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
แผงแดชบอร์ด เป็นแบบอนาล็อก พร้อมจอแสดงผล MID ดิจิตอลตรงกลาง ซึ่งมีฟังก์ชั่นบอกแรงดันลมยางล้อทั้ง 4 ด้วย
พวงมาลัย Multifuction มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง + ครูซคอนโทรล และมีปุ่มเตือนการชนด้านหน้า
ด้านเครื่องยนต์ Duramax 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน รีดกำลังได้ 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์)@3,600rpm มีแรงบิด 440 Nm@2,000rpm โดยคันท่ี่เราได้ขับในช่วง OffRoad นี้เป็นรุ่นเกียร์ 6MT ระบบขับเคลื่อน 2WD
แน่นอนครับว่า กำลังจากขุมพลังบล็อกนี้ ถือว่าเหลือเฟือ กับการใช้งานบนท้องถนนทั่วๆ ไป รวมถึง มีแรงบิดอย่างเพียงพอที่จะใช้ขับเคลื่อนในทาง OffRoad
และจากที่เราต้องไปขนเกลือ และแร่ธาตุ เพื่อจากโรงงานเกลือนิยม วิ่งไปยังแก่งกระจาน กับ นน. ด้านท้าย 300 กก. ที่เพิ่มเข้ามา และมีผู้โดยสาร 3 ท่านบนรถ พร้อมกระเป๋าสัมภาระเต็มห้องโดยสาร
ก็ไม่ถือเป็นอุปสรรค กับเจ้า Colorado Centennial คันนี้แต่อย่างใด อัตราเร่งแซงช่วงกลาง ยังมีให้ใช้กันเรื่อยๆ นอกจากนี้จุดที่ทำได้น่าประทับใจ ของเครื่อง คือ ทำได้ค่อนข้างเงียบ และไม่สั่นมากนัก แม้จะขับด้วยความเร็วสูง เนื่องจากติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงรบกวนบริเวณหัวฉีด และมายางรองตัวถัง รวมถึงยางรองแท่นเครื่องใหม่ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน โดยรวมแล้วนั่งได้สบายใกล้เคียงกับรถยนต์เลยทีเดียว
สำหรับการขับ OffRoad ในทริปนี้ มีบางช่วงที่เป็นหลุม และเนินสลับ ซึ่งมีความลาดชันสูง ด้วยรถคันนี้ที่ทางทีมงานได้ทดสอบเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2WD และเป็นเกียร์ MT ด้วย ต้วย จึงจำเป็นต้องส่งกำลังตั้งแต่ตีนเนินซึ่งเป็นทางเรียบกดคันเร่งพรวดเดียว ด้วยความเร็วให้ผ่านเนินดังกล่าวไป ในจังหวะเดียวจะสะดวกกว่า เนื่องจากผู้เขียนได้ลองไปค้างบนเนินดังกล่าว พบปัญหา คือ ล้อ หน้า ขวา และ ล้อซ้าย หลัง ลอย เมื่อเดินคันเร่งต่อ ระบบ TCS ที่จับได้ว่าล้อหมุนฟรี จะตัดกำลังทันที ทำให้รอบเครื่องตก และรถดับในที่สุด
และเมื่อเทียบกับ รถระบบขับ 4Lo และเกียร์ AT ของนักข่าวหลายท่านที่ใช้ในทริปนี้นั้น เรียกได้ว่าไปได้ไม่ยากเย็นถ้าขับถูกไลน์ สามารถค้างที่เนินหลุมดังกล่าว และเดินคันเร่งก็สามารถไปต่อได้สบาย เนื่องจากมีระบบขับ 4 ที่เข้ามาช่วยการตะกุยล้อที่เหลือได้อย่างเหมาะสม และอัตราทดเกียร์ที่เหมาะกับการปีนไต่เช่นนี้
ระบบบังคับเลี้ยวพวงมาลัยไฟฟ้า แบบ EPS ซึ่งผ่อนแรงออกมาได้อย่างเบามือ ไม่ว่าจะสาวๆ หรือ ผู้หญิงทั้งหลาย ก็สามารถขับมันได้สบาย การใช้งานจริงในเมือง ทำได้คล่องตัวแม้ในช่วงรถติดก็ไม่เป็นอุปสรรค หรือ แม้แต่การถอยจอดรถ ก็ทำได้สะดวกไม่ต้องสาวกันเมื่อยมือ
การตอบสนองในการบังคับเลี้ยว ตามสไตล์กระบะ อาจจะไม่ฉับเฉงเฉียบคมมือนัก ขณะที่ การขับทาง OffRoad ตามผิวที่ไม่เรียบ ก็มีกระเด้งกระดอนกันบ้างมีสั่นเล็กๆ น้อย ซึ่งอาจต้องประคับประคองในจังหวะช่วงนี้ให้ดี
ระบบกันสะเทือน ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ และด้านหลังแบบแหนบ 5 แผ่น ซึ่งถือได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องระบบช่วงล่างของกระบะอเมริกันอย่างเชฟโรเลต อยู่แล้ว
ช่วงล่างค่อนข้างแน่น ยึดเกาะถนนได้ค่อนข้างดี เฟิร์มเมื่อขับควบคุมด้วยความเร็วสูงท้ายไม่แกว่ง ไม่มีอาการโหวงเหวง โดยเฉพาะช่วงบรรทุกของหนักยิ่งมีแรงยึดกดทางด้านท้ายดี ไม่ว่าจะหวดด้วยความเร็งสูงก็ไม่หวาดเสียวแต่อย่างใด แต่ก็อาจต้องระวังในช่วงเลี้ยวโค้ง เนื่องจากเป็นรถ Pick Up ยกสูง ซึ่งจุดศูนย์ถ่วงไม่ได้ต่ำเหมือนรถยนต์ทั่วไป ยังไงก็ต้องระมัดระวังในการเข้าโค้งด้วยความเร็ว
นอกจากนี้ การซับแรงสะเทือนทำได้ดีพอประมาณ เมื่อเจอพื้นผิวขรุขระ แม้จะมีบางจังหวะที่ต้องกระเด้งกระดอนบ้างตามสภาพผิวก็ตาม
เทคโนโลยีความปลอดภัย Chevrolet Colorado High Country Centennial นี้ยังจัดเต็มในระดับน้องๆ รถยุโรปเช่นเคย ทั้ง TCS, PBA, EBD, ESC, HDC, HAS, Anti Rolling Protection, Trailer Sway Control, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับ
นอกจากนี้ยังมีระบบเซ็นเซอร์ต่างอีกมาก ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, แจ้งความดันลมยาง, Auto Headlamp, Auto Rain, เซ็นเซอร์ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและหลัง, กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะที่ปรับทิศทางได้, ฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท
สรุป Chevrolet Colorado Centennial ถือเป็น Pick Up ฉลองตำนานรถ Truck 100 ปี ที่เก่าแก่ ของค่ายโบว์ไทด์ Colorado Centennial จัดได้ว่าเป็น Premium Pick Up หรูที่เพียบพร้อม ออปชั่นความสะดวกสบาย และความปลอดภัย คงสไตล์ความหล่อแกร่งแบบรถ Truck มะกัน ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา ของรุ่น High-Country Storm แล้วจะแพงกว่า 5 พันบาท แลกกับความเป็น Limited แค่ 100 คัน พร้อมโลโก้โบว์ไทด์สีดำที่บ่งบอกความพิเศษ ด้วยแล้วคงไม่ใช่เรื่องแพงสำหรับผู้ที่มองหากระบะพันธุ์แกร่งในระดับนี้
Chevrolet Colorado Centennial มีจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
– ขับเคลื่อน 2WD 4 ประตู High-Country Centennial 1,033,000 บาท
– ขับเคลื่อน 4WD 4 ประตู High-Country Centennial 1,103,000 บาท
– ขับเคลื่อน 2WD 4 ประตู เกียร์ธรรมดา Centennial 943,000 บาท
– ขับเคลื่อน 2WD 2 ประตู เกียร์ธรรมดา Centennialน 814,000 บาท
ขอขอบคุณ Chevrolet Sales ประเทศไทย ที่ให้เกียรติเข้าร่วมทริปทดสอบ Chevrolet Colorado Centennial และ High-Country Storm ใหม่ ในครั้งด้วยครับ
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Chevrolet Colorado Centennial High-Country 4X2 MT รุ่น Limited Edition 100 คัน กับทริป เชฟฯรักษ์ช้าง "