Test Drive : รีวิว 2015 Chevrolet Colorado High Country รถกระบะใช้งานพร้อมลุยทุกสถานการณ์
ปีนี้ เชฟโรเลต ขอรุกหนักเอาจริงในตลาดรถกระบะ ผลักดันทุกวิธี สร้างยอดขาย Colorado ให้เติบโตมากขึ้นในไทย ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และล่าสุดที่เพิ่งเผยโฉมในมอเตอร์โชว์ 2015 ก็คือ Chevrolet Colorado High Country ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Colorado รุ่นท็อปสุด ครั้งนี้ถือว่าจัดออปชั่นมาเต็มรูปแบบ
เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคันทรี่ มีให้เลือก 2 รุ่น และมีราคาดังนี้
– รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 969,000 บาท
– รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,029,000 บาท
สำหรับ รุ่นที่ 9CarThai ได้ทดสอบขับ รีวิวกันในบทความนี้ ก็คือรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาอยู่ที่ 1.029 ล้านบาท ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีความยาว 5,360 มม. กว้าง 1,882 มม. สูง 1,798 มม. และฐานล้อยาว 3,096 มม.
ดีไซน์ภายนอก เท่ด้วยชุดตกแต่งรอบคัน
สิ่งแรกที่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ก็คือ Colorado High Country ถูกตกแต่งให้มีความสวยงาม สปอร์ตเท่มากขึ้นกว่า Colorado รุ่นปกติ เรียกว่ามองมุมไหนก็สวย
รูปทรงและหน้าตาโดยรวม ดูแกร่งตามสไตล์รถกระบะอเมริกัน ดุดันพร้อมลุยงานหนัก เป็นเสน่ห์ของรถกระบะอเมริกันที่คนไทยชื่นชอบ และอยากได้มาครอบครองอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ Hollywood
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมกรอบโครเมียม รมดําแบบสปอร์ตดูโฉบเฉี่ยว ปรับระดับทิศทางของแสง ด้วยสวิตช์ปรับระดับสูง-ต่ำ เพิ่มวิสัยทัศน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสวยงามสะดุดตาและปลอดภัย ด้วย Day Time Running Light ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งของเชฟโรเลตเอง
กระจังหน้าแบบ Dual Port-Grille สีเทาเข้ม ดีไซน์สปอร์ตพร้อมกรอบโครเมียม เอกลักษณ์เฉพาะเชฟโรเลต สัญลักษณ์โบว์ไทด์ และไฟตัดหมอกหน้า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแม้ในสภาพอากาศที่วิสัยทัศน์ไม่ดี
ยาง Bridgestone ขนาด 265/60 R18 ล้ออัลลอย 18 นิ้วแบบ Two-Tone ใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานโทนสีเทาดําเข้ม ตัดขอบแบบปัดเงา เพิ่มความหรูหรา ทันสมัย
สปอร์ตบาร์ที่กระบะท้ายสีเดียวกับตัวรถ
สัญลักษณ์ ไฮคันทรี เพิ่มความบึกบึนดูน่าเกรงขาม
ราวสีดำยึดสัมภาระหรือรถจักรยานบนหลังคาได้
สัญลักษณ์ เครื่องยนต์ Duramax 2.8 ลิตร 200 แรงม้า 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พลังการขับเคลื่อนของไฮคันทรีนั้นเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ทำให้อัตราเร่งรวดเร็วทันใจ
กล้องมองหลัง เพิ่มความปลอดภัยสะดวกสบายในขณะถอยจอด
แนวกันชน ติดตั้งเซ็นเซอร์ 4 จุด กะระยะถอยหลัง
พื้นที่บรรทุกสัมภาระ ก็มีมากพอ แม้ว่าจะเป็นรถกระบะ 4 ประตู
ฝากระบะท้าย แข็งแกร่ง รองรับการบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม
ยางอะไหล่พร้อมโซ่ล็อค
ไฟท้ายและไฟเบรคดวงที่สาม เป็น LED ทั้งหมด อายุใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดา
มือจับประตู แถบโครเมียม
กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว มองเห็นชัดเจนสำหรับรถที่วิ่งขนานในเลนข้าง ๆ
ภายในห้องโดยสารปรับปรุงใหม่ หรูหรากว้างสบาย
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นไปอีกขั้น ภายนอกดูแกร่งดุดัน ภายในก็เพิ่มความหรูหราเข้าไปอีกด้วยเบาะหนังสีน้ำตาล Brown Stone สมกับคำว่า High Country ชวนนึกถึงภาพยนตร์คาวบอยอเมริกันขับรถกระบะยกสูง สวมชุดหนัง รองเท้าหนังสีน้ำตาลกันเลยทีเดียว
ทัศนวิสัยในการขับขี่ดี มุมมองกว้างไกลเพราะตัวรถยกสูง เสาหลังคาไม่หนาจนบดบังขณะเลี้ยว กระจกมองข้างขนาดใหญ่มุมมองกว้าง ให้ความมั่นใจในขณะเปลี่ยนเลน ถ้าใครที่ยังไม่เคยขับรถกระบะยกสูง อยากให้ลองขับดู น่าจะติดใจ
มีมือจับที่เสาหลังคาและขอบหลังคา ขึ้นลงได้สะดวกมาก ความสูงตัวรถไม่สูงเกินไปจนขึ้นลำบาก มีบันไดข้างเพื่อความสะดวกสบาย และสวยงาม
ที่บังแดด ไฟส่องแผนที่ และที่เก็บแว่นตา
พวงมาลัยหุ้มหนัง จับแล้วค่อนข้างกระชับมือ ไม่ลื่นเกินไป พร้อมปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยทั้งระบบเครื่องเสียง การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และระบบ Cruise Control ไม่ต้องเหยียบคันเร่งค้างไว้ ช่วยรักษาระดับความเร็วรถให้คงที่ ทำให้ลดความเมื่อยล้าในขณะขับขี่ทางไกล
แผงคอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black ดูหรูหรา มาพร้อมเครื่องเสียง ศูนย์รวมความบันเทิงภายในรถ หน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้ว กดง่าย สะดวกรวดเร็ว
เครื่องปรับอากาศพร้อมหน้าจอดิจิทัล
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
สวิตช์เปลี่ยนระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อตามสถานการณ์
ที่วางแขน กว้างและยาวพอสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร หุ้มด้วยหนัง ช่วยลดความเมื่อยล้าได้
มีพอร์ต USB Input ต่อเข้าเครื่องเสียง อยู่ใต้ที่วางแขนนี้
สวิตช์ปรับกระจกมองข้าง สวิตช์หน้าต่าง อยู่ในตำแหน่งสูง ไม่ต้องก้มดู
ลำโพง ช่องใส่ขวดน้ำ ที่วางแขนเป็นพลาสติกทนทานต่อเหงื่อ ผนังหุ้มแผ่นหนัง
ตำแหน่งเสียบกุญแจ ด้านขวาของคอพวงมาลัย มีช่องลมเครื่องปรับอากาศฝั่งใกล้ประตูทั้งสองด้าน มีที่วางแก้วกาแฟ ใช้ลมเย็นเป่าให้เย็นได้เลย
สวิตช์ไฟหน้ารถ สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้
คันโยกเปิดฝากระโปรง เปิดฝาถังน้ำมัน และที่พักเท้าซ้าย
เบาะนั่งหนังสีน้ำตาล ดูดีในสไตล์ไฮคันทรี
เบาะผู้ขับ ปรับไฟฟ้าทุกสเตป สะดวกสบาย
ที่พิงศีรษะ ดูหรูหรากว่ารถกระบะทั่วไป มุมเอนพอดี กระชับศีรษะ
มาดูฝั่งผู้โดยสารตอนหน้ากันบ้าง
– เบาะที่นั่ง ไม่มีปรับไฟฟ้า ปรับเอนและระดับสูงต่ำได้ พร้อมช่องเก็บของ 2 ช่อง เปิดได้สะดวก
ช่องใส่แก้วเครื่องดื่ม เป่าลมเย็นได้
เหนือขึ้นไปจากตำแหน่งเครื่องเสียง มีช่องเก็บของด้วย ผู้ขับเปิดได้สะดวกมาก เหมาะกับการใส่บัตรผ่านประตู
มาดูกันต่อที่ห้องโดยสารตอนหลัง เปิดประตู เหยียบบันไดปีนขึ้นได้ไม่ยาก ผู้โดยสารสรีระใหญ่เป็นพิเศษ ก็เข้าออกได้ค่อนข้างสะดวก
ประตูตอนหลัง มีช่องใส่ขวดน้ำ ลำโพง และบุผนังด้วยแผ่นหนังเช่นกัน ตกแต่งดูดี ไม่มีการลดต้นทุน
ห้องโดยสารตอนหลัง กว้าง นั่งได้ 3 คน พร้อมพนักพิงศีรษะปรับความสูงได้
มีที่วางแขนให้ด้วย
มีช่องจ่ายไฟ เสียบ Car Charger ได้
Leg room ค่อนข้างกว้าง ระยะห่างจากเข่าถึงหลังเบาะ กว้าง สะดวกสบาย สำหรับเดินทางระยะทางไกล
สำหรับ Headroom ผู้โดยสารตอนหลังที่มีความสูงไม่เกิน 180 cm. ศีรษะไม่ติดเพดานแน่นอน
หลังเบาะคู่หน้า สามารถใส่นิตยสารหรือเอกสารได้
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.8 Duramax Diesel ความจุ 2.8 ลิตร คอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว 200 แรงม้า พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ เหนือกว่าด้วยเซอร์โวมอเตอร์ท่ีควบคุมโดยสมองกลอัจฉริยะ (Engine Control Module) ช่วยเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำได้สูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ท่ี 2,000 รอบต่อนาที ทํางานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบโอเวอร์ไดรฟ์ 2 อัตราทด และระบบ Active Select ควบคุมทุกเกียร์ได้อย่างแม่นยํา ประหยัดยิ่งข้ึนด้วยระบบหัวฉีด ไดเรคอินเจคชั่น
จุดเด่นของ Colorado 2.8 ที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Hilux Revo ที่เพิ่งเปิดตัว ก็คือ แรงม้าที่มากถึง 200 แรงม้านั่นเอง ในขณะที่คู่แข่งรายอื่น ใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรเหมือนกัน แต่ให้กำลังได้น้อยกว่านี้
ระบบความปลอดภัย
โครงการตัวถังระบบ Active Safety ปกป้องทุกคนในรถด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง ป้องกันการบิดตัวของตัวถังได้แบบไร้กังวล พร้อมเสริมความแข็งแรง ด้วยคานนิรภัยที่แผงประตู ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงล่างแน่น เกาะถนน ดีเยี่ยมเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน ช่วยหยุดรถไม่ให้ไหลลงจากทางลาดชัน เพื่อให้คุณปล่อยเท้าจากเบรกมาแตะคันเร่งได้โดยไม่เสียการควบคุม
สิ่งอำนวยความสะดวก
MyLink ระบบเครื่องเสียงและระบบนำทางที่ถือเป็นจุดเด่นอย่างนึงของเชฟโรเลต เป็นระบบที่น่าใช้มากกว่าที่ติดตั้งมาในรถยนต์ยี่ห้ออื่น รองรับ Input จากวิทยุ AM, FM, Bluetooth, Aux และ USB โดยเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน จะทำให้การรับสาย โทรออก ค้นหารายชื่อ และเล่นภาพหรือเพลง ทำได้สะดวกมาก
วิทยุ FM รับสัญญาณได้ไวดี สแกนคลื่นได้รวดเร็ว
หน้า Home Screen มีให้เลือกใช้ระบบนำทาง, กำหนดปลายทางของการเดินทาง, ใช้โทรศัพท์, ตั้งค่า และปรับแต่งเสียง
GPS แม่นยำ จับสัญญาณได้รวดเร็วกว่าที่คิด มีฐานข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และเส้นทางค่อนข้างละเอียดดี ใช้งานง่าย
หน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ใหญ่เหมาะสมกำลังดี สัมผัสติดง่าย ไม่ต้องจิ้มแรง
เมนูภาษาไทย แปลได้เข้าใจง่าย อ่านแล้วไม่งง
ปรับสมดุลเสียงของลำโพงซ้ายขวาหน้าหลังได้ พร้อม EQ ซึ่งจากการทดสอบฟัง ถือว่าเสียงดีสมราคา ฟังสนุก ไม่มีความจำเป็นต้องอัพเกรดลำโพงหรือเครื่องเสียงอีกแล้ว จุดนี้ถือว่าเชฟโรเลตใส่ใจรายละเอียดดี ไม่ใช่แค่ของแถมติดรถ
ลำโพง Tweeter ยิงเสียงทำมุมสะท้อนกระจกหน้า ไปยังผู้ฟังทุกที่นั่งอย่างทั่วถึง ทำให้รู้สึกถึงความใสกังวานของเสียง ในขณะที่เสียงย่านเบส ถูกขับโดยลำโพง Mid-Bass ที่ติดตั้งบริเวณประตูทั้ง 4 บานแล้ว
หน้าจอทำหน้าที่แสดงภาพจากกล้องมองหลัง ช่วยให้การถอยจอดเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ มีเส้นกะระยะที่แม่นยำ รวมทั้งแสดงทิศทางตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัยในขณะถอยจอดได้ด้วย ซึ่งรถกระบะยี่ห้ออื่น ยังทำไม่ได้ขนาดนี้
มาตรวัดและจอแสดงข้อมูลสีฟ้าเย็นตา อ่านง่าย มองเห็นชัดเจน
ทดสอบขับ
เรา ได้ทำการทดสอบขับบนถนนราชพฤกษ์และนครอินทร์ ทดสอบอัตราเร่ง การเข้าโค้งกลับรถ การทรงตัว และการทำความเร็ว ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ ทั้งการเร่งแซงที่ว่องไวดี พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดีเมื่อขับด้วยความเร็วสูง การทรงตัวเมื่อเปลี่ยนเลนแบบกระทันหัน ช่วงล่างเกาะถนนดีสไตล์รถอเมริกัน ไฟท้าย LED รูปตัว C ไฟถอยหลังมีให้สองข้าง ช่วยส่องสว่างในขณะถอยจอดที่มืดได้ดีกว่า รถกระบะที่มีไฟถอยหลังเพียงข้างเดียว
จุดเด่นที่สร้างความประทับใจได้ดีกว่ารถกระบะจากคู่แข่ง
สรุป
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามทุกมุมมอง มาพร้อมกับชุดตกแต่งรอบคันที่ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มอีกแล้ว ล้อเงางามทันสมัย รูปทรงดูแกร่งตามสไตล์รถกระบะอเมริกัน ยกสูง ขับเคลื่อนสี่ล้อ สมรรถนะที่ดีเยี่ยม บวกกับห้องโดยสารที่หรูหรา เบาะหนังสีน้ำตาล Brown Stone อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ปลอดภัยได้จริงในวินาทีฉุกเฉิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลดี ๆ ที่ตอบโจทย์ครบทุกด้านสำหรับผู้ที่กำลังต้องการรถกระบะใช้งานพร้อมลุยทุก สถานการณ์ กับ Chevrolet Colorado High Country
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chevrolet.co.th/cars/colorado/model-overview.html
หรือทดลองขับที่ https://www.chevrolet.co.th/shopping-tools/test-drive.html
หรือขอใบเสนอราคาที่ https://www.chevrolet.co.th/shopping-tools/quote.html
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Test Drive : รีวิว 2015 Chevrolet Colorado High Country รถกระบะใช้งานพร้อมลุยทุกสถานการณ์ "