รีวิว Ducati Monster 821 เทคโนโลยี Hyper ในร่างไฟกลม Naked พร้อมความคุ้มค่าจาก Worry Free
เมื่อปลายปีที่แล้ว (2014) Ducati Thailand ได้เปิดตัว Ducati Monster 821 ปีศาจแดง เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่มาทดแทนรุ่น M795 และ M796 ด้วยรหัสเครื่อง 821 ที่จาก Hypermotard, Hyperstrada พร้อมยกเทคโนโลยีมาแทบทั้งคัน นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญ ที่ช่วยให้ใครๆก็สามารถขี่ Ducati Monster 821 คันนี้ ได้อย่างสบายใจไร้กังวลกับค่าบำรุงรักษา (Worry Free Program) นานถึง 2 ปี 25,000 กม. ด้วยกัน จนทำให้ M821 คันนี้เป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จนทำให้มันเป็นรถที่ขายดีกว่ารุ่น Scrambler ที่นับว่าเป็นรถ Ducati ที่มีราคาเริ่มต้นถูกที่สุด
และในวันนี้เองทาง 9carthai ของเราก็ได้มีโอกาสทดสอบ Ducati Monster 821 ใหม่ นี้ด้วยเช่นกัน โดยได้โอกาสจาก Ducati Ratchapruek และ คุณอิสเรศ พวงแก้วที่ร่วมนำรถ M821 Performance มาร่วมถ่ายรูปกับทางเราด้วย
แรกเห็น M821 ครั้งแรกด้วยสายตาเราจะพบว่า ถังน้ำมันช่วงบนจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น ราวกับมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากกว่าเดิม ซึ่งนั้นเป็นผลมาจาก ถังน้ำมันที่ขนาด 17.5 ลิตร (จุมากกว่า M795 ที่ 2.5 ลิตร, จุกว่า M796 ถึง 4 ลิตร) สำหรับน้ำหนักตัวจะอยู่แบบ Dry อยู่ที่ 179.5 กก. และแบบ Wet 205.5 กก. เรียกได้ว่าน้ำหนักกำลังดี ไม่มากไม่น้อย
ไฟหน้ารูปทรงกลมแต่ดูเรียวยาวมากขึ้นมาพร้อมไฟ DRL แบบ LED ดูดีทันสมัย ขณะที่ไฟท้ายเป็นแบบ LED เช่นกัน ด้านท้ายมาพร้อมตูดมดปิดเบาะท้ายเสริมความเท่เวลาขี่คนเดียว M821 ได้มีการติดตั้งมือจับหลังให้ สะดวกสบายต่อผู้ซ้อนรวมถึงเวลาเข็นรถก็ทำได้สะดวกขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าเอกลักษณ์ทางด้านหน้าจะหายไปเนื่องจากวินชิลด์ขนาดจิ๋วที่บังเรือนไมล์นั้นไม่มีมาใน M821 คันนี้
ล้ออลูมีนัมอัลลอย 10 ก้านใหม่ น้ำหนักเบา Ducati ได้การันถึงความแม่นยำในการควบคุมรถด้วยความเร็วว่าดีขึ้น ล้อหน้าขนาดกว้าง 3.5”x17” และ ล้อหลัง 6”x17” หุ้มยาง Pirelli Diablo Rosso II ขนาด 120/70 (หน้า) และ 180/60 (หลัง)
หากมองจากมุมหน้าตรง เราจะพบปีกหม้อหน้าที่มีขนาดใหญ่ยื่นยาวออกมาดูเกะกะไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะนี่ล่ะคือสิ่งที่แฟนๆ Ducati ต่างเฝ้ารอคอย นอกจากนี้เอกลักษณ์ท่อไอเสียคู่ออกด้านท้าย ก็โยกตำแหน่งมาอยู่ทางด้านข้างแทน โดยวางรูปแบบท่อไอเสียแบบ 2-1-2
*ในคันที่เราได้มาทดสอบนี้ติดตั้งชุดท่อไอเสีย Termignoni และกันล้มจาก R&G มาให้ด้วย
เรือนไมล์แบบ LCD แสดงผลครบครันทุกรายละเอียดทั้ง นาฬิกา, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, ความเร็วเฉลี่ยตลอดทริป, อุณหภูมิภายนอก และหม้อน้ำ โหมดขับขี่, ABS และ DTC ขณะที่ความเร็วถูกแสดงเป็นตัวเลขดิจิตัลตรงกลาง ส่วนรอบเครื่องจะเป็นสเกลแนวนอนทางด้านบน ซึ่งจะดีกว่านี้หากมีเกจ์วัดระดับน้ำมัน และไฟบอกเกียร์เพิ่มเติม
จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์น่าประทับใจ คือ เบาะปรับสูง-ต่ำได้ 2 ระดับ ที่ 785 มม. และ 810 มม. ทำให้ M821 คันนี้เป็นมิตรกับทั้งผู้หญิง หรือผู้มีสรีระทุกรูปแบบ ซึ่งท่านั่งขับขี่นั้นหากปรับเบาะสูงขึ้นจะพบว่าตำแหน่งท่านั่งจะถูกร่นขึ้นและช่วงหัวเข่าจะพบว่าแนบกระชับกับถังน้ำมันได้ดีกว่า ซึ่งเหมาะกับการขี่ในรูปแบบสปอร์ต แต่การปรับเบาะเตี้ยนั้นจะพบความสบายในการวางขาได้ดียิ่งกว่า ซึ่งนอกจากจะขึ้นกับสรีระแต่ละคนแล้ว สไตล์การขับขี่ของแต่ละคนก็จะเป็นตัวกำหนดการปรับเบาะได้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของตำแหน่งแฮนด์บาร์ นั้นด้วยลักษณะแฮนด์ที่กว้างและมีตำแหน่งที่ยกสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ทำให้ท่านั่งดูสบายต่อการเดินทางมากขึ้น เหมาะแก่การขี่ Touring ออกทริปได้เป็นอย่างดี แต่ตัวแฮนด์ที่มีขนาดเล็ก ทำให้ Grip ในการจับยังไม่เต็มไม้เต็มมือเท่าที่ควร ผู้ที่มีฝ่ามือใหญ่อาจจะจับได้ไม่กระชับนัก
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งใน M821 นี้ ยังมีแพ็คเกจ Performance ให้เลือกด้วย โดยมีของแต่งเพิ่มเติม ได้แก่
-ชุดท่อ Termignoni (Slip On)
-ชุดไฟเลี้ยว LED Ducati Performance
-ฝาครอบปั๊มน้ำอลูมีเนียม
-ชุดขายึดทะเบียน (ท้ายสั้น)
-กันรอยถังน้ำมัน
เครื่องยนต์ Testastretta 11° รูปแบบ L-Twin มาพร้อมระบบวาล์ว Desmodromic แบบ DOHC 4 วาล์ว ซึ่งมาทดแทนของเดิมที่เป็นแบบ SOHC 2 วาล์ว พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่หลายคนต่างรอคอย
ซึ่งขุมพลังบล็อกนี้มีกำลังที่ 112 แรงม้า hp@9,250rpm แรงบิดที่ 89.4 Nm@7,750rpm (จูนแรงกว่า Hyper 2 แรงม้า)
สำหรับ Riding Mode ที่ควบคุมผ่านคันเร่ง Ride by Wire มีให้ปรับได้ 3 แบบ Sport, Touring จะส่งกำลังเต็มที่ 112 แรงม้า ขณะที่ Urban ตอนแรงม้า เหลือ 75 ตัว
หากเลือก Sport คันเร่งจะติดมือมากมาตามข้อมือกระตุก เรียกได้ว่าระเบิดอยู่ในมือขวาของคุณพร้อมใช้งานซึ่งคันเร่งแบบ Ride by Wire นี้จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว จนต้องบอกว่าขี่ในเมืองด้วยโหมดสปอร์ตดูจะลำบากไปหน่อย
โหมด Touring ยังคงกำลังเต็มที่ 112 แรงม้าเช่นกัน แต่คันเร่งจะมีระยะที่พอเหมาะไม่กระชากเกินไป เหมาะกับการขับขี่แบบทั่วๆไป ซึ่งผู้เขียนเลือกใช้โหมดนี้เป็นหลักในการขับขี่ในเมือง และการเดินทางไกลบ้างในบางจังหวะ
ขณะที่ Urban นั้นเรียกได้ว่าคันเร่ง Ride by Wire ให้ความรู้สึกเหมือนกดปุ่ม Eco Mode ในรถยนต์ การตอบสนองที่ค่อนข้างช้า ร่วมกับการถูกตอนกำลัง ฟีลลิ่งในการขี่ความดิบลดลงไปราวกับคุณกำลังขี่รถพิกัด 650cc ซึ่งก็ดีสำหรับผู้ที่อาจจะยังไม่ชินกับคันเร่งทอร์คหนัก เช่นนี้ในช่วงแรก หรือการขี่บนสภาพพื้นถนนที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นฝนตก ในช่วงฤดูกาลนี้
บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงกระหึ่มสุดดังจากชุดท่อ Termignoni แม้ว่าใส่ Silencer แล้วก็ตาม มันยังคงดังเอาเรื่อง หากแผดเครื่องยนต์ไปที่รอบสูง แต่รอบเดินเบานั้นจะเงียบกว่าการถอด Silencer อยู่พอสมควร แต่ในด้านของซุ้มเสียงนั้น จากรูปแบบ 2 วาล์ว เป็น 4 วาล์วนั้น ผู้เขียนมีความเห็นว่า เอกลักษณ์ความดิบในแบบ M795, M796 นั้นเปลี่ยนไป เสียงของ M821 จะดูสุขุมนุ่มลึกมากขึ้น และรอบเดินเบาจะรู้สึกเดินนิ่งเรียบขึ้นด้วย
พละกำลังเครื่องยนต์สไตล์ L-Twin คงไม่ต้องพูดกันมากนัก ทอร์คกว่า 85% ของทั้งหมดจะถูกรีดออกมาตั้งแต่ช่วง 5,500rpm ถ้าขี่ใช้งานธรรมดาทั่วไป เปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 4,000rpm กำลังดี เน้นความสมูท และประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าเอาความสนุก Fun to Ride แบบไม่เครียดนัก ลากรอบไปงัดขึ้นที่ช่วง Max Torque 7,700rpm ถือว่าเป็นการรีดกำลังของรถ 2 สูบนี้ออกมาได้อย่างต่อเนื่องแรงไม่มีตก แต่หากฝืนลากไปที่ระดับแตะ 10,000rpm แล้วอาจเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสนุกนัก จากตำแหน่งท่านั่งควบคุมรถ และแฮนด์บาร์ที่ Grip บางมือไปเสียหน่อย ไม่กระชับนัก
เรียกได้ว่าถ้าใครขี่ 795 หรือ 796 มาก่อน แล้วมาจับ M821 จะสัมผัสได้ถึงกำลังที่มีแรงมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน เจ้าปีศาจแดงคันนี้เราสามารถทะยานความเร็วทะลุ 150 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย ในไม่กี่อึดใจและแน่นอนมันทะลุ 200 กม./ชม. ได้สบายๆ หากคุณสามารถทนแรงต้านของลมที่มีต่อรถทรง Naked คันนี้ไหว แต่ถ้าจะให้ขี่แบบไม่ตึงเครียดเกินไป ผู้เขียนว่าความเร็วระดับ 140 กม./ชม. ยังเป็นอะไรที่พอรับได้สำหรับปีศาจ Naked ไฟกลมคันนี้
แม้ว่ารถจะมีการติดตั้ง Slipper Clutch ซึ่งช่วยให้มันมีภาษีดีขึ้นจากการลดแรงกระทำจากเครื่องยนต์ลงสู่ล้อหลัง (Engine Brake) ได้ดีก็ตาม แต่มันยังมีจุดที่น่ารำคาญไปบ้าง คือ หากใส่รองเท้าบู๊ทขี่ การเข้าเกียร์อาจพบอาการเกียร์ว่าว (ว่าง) บ่อยมาก เนื่องจากต้องกระดกข้อเท้าขึ้นให้สุด และตบข้อเท้าลงให้สุดเช่นกัน แต่อาการดังกล่าวจะไม่พบเมื่อเราเร่งเครื่องไปถึงรอบที่พอเหมาะ และเตะเกียร์ขึ้นทันทีโดยไม่ต้องกำคลัช ซึ่งกำลังจากเครื่องยนต์ที่ยังมาต่อเนื่องจะช่วยให้การเข้าเกียร์นั้นง่ายยิ่งขึ้น
จุดที่น่าประทับใจมาก ที่ต้องกล่าวถึง นอกเหนือจากสมรรถนะ ก็คือ เรื่องระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่แม้จะพบไอร้อนที่บริเวณเท้าซ้ายอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่ามันดีกว่าเดิมเยอะ เรียกได้ว่าไข่ไม่สุก ขาไม่พอง และไอร้อนที่บริเวณก้นกบ ก็ได้หายไปเนื่องจากทางเดินไอเสียถูกปรับเปลี่ยน ว่าง่ายๆ หากใส่กางเกงขายาว เรายังทนจอดไฟแดงโดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ในเวลากลางวันที่รถติดแดดร้อนได้อยู่ (เมื่อพัดลมยังไม่ทำงาน)
ระบบกันสะเทือน เฟรมรถได้ถูกออกแบบใหม่ แรงบรรดาลใจจากรถแข่ง นั่นก็คือ ขนาด Compact กะทัดรัดขึ้น น้ำหนักจึงเบาลงด้วย ในส่วนของเฟรมถักด้านข้างได้แนบกระชับกับหัวลูกสูบและตัวของเครื่องยนต์ แม้แต่ช๊อคหลังและซับเฟรมหลังก็ได้เชื่อมต่อกับตัวเครื่องยนต์เช่นกัน
สำหรับโช้คอัพหน้า UpSideDown จาก KYB ขนาดแกน 43 มม. ขณะที่โช้คอัพหลังเดี่ยว ที่ตั้งอยู่บนสวิงอาร์มอลูมีเนียมคู่ อาจขัดหูขัดตาหลายคน จนอยากแปลง Single Sided ของ M1200 มาใส่
ในด้านการยึดเกาะ และการซับแรงสะเทือนโดยรวมออกแนวรถ Naked Sport มากกว่าจะเป็นรถ Naked Touring ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เซ็ทออกมาได้อย่างเหมาะสมดี การเข้าโค้งนั้นยังคงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งจากเนื้อยาง Pirelli Diablo Rosso II ยางหลังกว้าง 180 มม. ถึงแม้ว่าจะเป็นยางแบบ Touring ก็ตาม แต่ Compound ที่แข็งพอประมาณ และยังใช้งานได้ทนทาน ในขณะที่ให้ Grip การยึดเกาะบนถนนดีไม่แพ้ Rosso Corsa
ระบบเบรก จานดิสก์คู่หน้าขนาด 320 มม. ติดตั้งปั๊ม Brembo (M4-32) Monobloc คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ ทางด้านท้ายจานดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิปเปอร์ Brembo 2 ลูกสูบ โดยมาพร้อมระบบ ABS จาก Bosch ที่ปรับได้ 3 ระดับ
คุณภาพของเบรกสมชื่อสมราคา ถือเป็นคุณงามความดีที่ยกมาจากรุ่น Hyper 821 ที่หยุดม้าจอมลำพองได้อย่างหมดจด มั่นใจในทุกช่วงการแตะเบรก แม้ว่าคุณจะยังเปิดระบบ ABS ที่ระดับ 2 (Touring Mode) รวมไปถึงในบางจังหวะที่มีการตบเกียร์ลงแล้วพลาด (ว่าว) ซึ่งยังคงไว้ใจการชะลอความเร็วลงด้วยการกำเบรกหน้าได้อย่างมั่นใจเช่นเคย
จุดที่น่าประทับใจอื่น ก็คือ Traction control ที่ปรับได้ 8 ระดับ ซึ่งเราได้เลือกใช้ TC ที่ระดับกลาง 4 (จาก Touring Mode) สามารถทำงานได้อย่างว่องไวในจังหวะที่เลี้ยวโค้งแคบแล้วเปิดคันเร่งมากไปหน่อย ระบบจะมาช่วยตัดกันล้อสลิปโดยทันที เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยป้องกันในการขี่หน้าฝนเช่นนี้ แต่หากใครชอบอาการรถดีดๆ ก็ปรับไปที่สปอร์ต ซึ่งจะลดการทำงาน TC ลงเหลือระดับ 2 แต่ถ้าใครอยากจะปิดก็สามารถปรับเซ็ทต่างหากอีกก็ย่อมได้
สรุปแล้ว Ducati Monster 821 (M821) Monster ตัวทดแทน M795, M796 ที่จับยกเทคโนโลยีจาก Hyper 821 มาใส่เรียกได้ว่า ปรับปรุงใหม่ ไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมาพร้อม Worry Free Program ที่ช่วยให้คุณสบายใจได้ในระยะ 2 ปี 25,000 กม. แต่เราขอติ 2 จุด กับหน้าจอ LCD ที่ไม่แสดงผลเกจ์น้ำมัน และบอกตำแหน่งเกียร์ (ซึ่งรถราคาไม่เกิน 2 แสนบาท รุ่นใหม่ เดี๋ยวนี้ก็มีมาให้แล้ว)
เอาเป็นว่า มันเป็นรถยุโรป (อิตาลี) ที่มีความคุ้มค่าน่าเล่นมากที่สุดคันหนึ่ง ในราคาไม่เกิน 5 แสนบาท (ราคาตั้ง) ก็แล้วกัน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งคุณสามารถจ่ายตังเพิ่มเงินอีก 8 หมื่นบาท เพื่อเลือก Performance Package เพิ่มเติมได้ จากผู้แทนจำหน่ายโดยคุณไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มเองให้เสียเวลาอีกต่อไป
Ducati Monster 821 มีให้เลือก 2 สี แดง และดำด้าน โดยมีราคาดังนี้
M821 Dark Stealth 469,900.
M821 RED 479,900.
M821 Performance Dark 549,900.
M821 Performance Red 559,900.
ขอขอบคุณ Ducati Ratchapruek สำหรับรถทดสอบ Ducati Monster 821
คุณอิสเรศ พวงแก้ว กับรถ Ducati Monster 821 Performance Package
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Ducati Monster 821 เทคโนโลยี Hyper ในร่างไฟกลม Naked พร้อมความคุ้มค่าจาก Worry Free "