รีวิว Honda City CNG ทางเลือกใหม่ ไปได้ไกล สุดประหยัด

รีวิว Honda City CNG ทางเลือกใหม่ ไปได้ไกล สุดประหยัด

ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ใช้รถเดินทางเยอะและเน้นความประหยัดสุด ๆ ด้วยการสลับใช้เชื้อเพลิงระหว่างน้ำมัน E20 กับก๊าซ NGV  ลดค่าใช้จ่ายลงเหลือเพียงกิโลเมตรละ 1 บาทกว่า  บทความนี้เป็นภาคต่อของบทความ “รีวิวทดสอบขับ Honda City” ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา  สำหรับผู้อ่านที่เพิ่งเริ่มสนใจ Honda City CNG  แนะนำให้คลิกย้อนอ่านเพื่อทำความเข้าใจ รู้จัก Honda City รุ่นปกติกันก่อน  เพราะรายละเอียดเจาะลึกจะไม่ได้กล่าวซ้ำในบทความนี้  สำหรับผู้อ่านที่รู้จัก Honda City กันดีอยู่แล้ว ก็สามารถอ่านต่อข้างล่างนี้ได้เลย

ทีมงาน 9CarThai ได้รับ Honda City CNG สีขาว สียอดนิยมของคนไทยมาทดสอบขับรีวิวกันในครั้งนี้  ในส่วนของดีไซน์รอบคัน ต้องบอกว่าไม่มีอะไรแตกต่างจาก City รุ่นปกติเลย ไฟหน้าและกระจังหน้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

ดีไซน์ด้านข้าง ดูสวยงามน่ารักในสไตล์รถยนต์ซีดาน Sub-compact  ลายของล้ออัลลอย ก็ดูเข้ากันได้ดีกับรถ

Honda City CNG มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ดังนี้ (แตกต่างกันที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวก)

• S CNG MT  612,000 บาท
• S CNG AT  651,000 บาท
• V CNG AT  711,000 บาท

หมายเหตุ: *สีดำคริสตัล (มุก) และสีแดงคาร์เนเลียน (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท

ด้านท้ายดูสวยงาม ได้อารมณ์สปอร์ตแม้ว่าไม่ได้ติดตั้งชุดแต่งเพิ่ม

ไฟท้ายลงตัวสอดรับกับเส้นสายของชิ้นส่วนต่าง ๆ พาดด้วยคิ้วท้ายโครเมียม เพิ่มความหรูหรา

มีสัญลักษณ์ CNG ใต้คำว่า i-VTEC  บ่งบอกให้รู้ว่ารถยนต์คันนี้ติดตั้งระบบก๊าซ NGV

กระจกมองข้างไม่มีไฟเลี้ยว LED

มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งสีสันแบบทูโทน เทาเข้มตัดสีครีม

ประตูในฝั่งคนขับ

คอนโซลหน้า และมุมมองทัศนวิสัยในการขับขี่

การตกแต่งและอุปกรณ์ที่ให้มากับ City CNG จะไม่มากมายเท่า City รุ่นท็อป

มาตรวัดเรืองแสงสีฟ้า สวยงามจนเป็นเสน่ห์ของ City ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนตัดสินใจเลือกซื้อ

ใต้ช่องลมเครื่องปรับอากาศ มีสวิตช์ปรับกระจกมองข้างไฟฟ้า ถัดลงมาเป็นสวิตช์สลับการเลือกใช้น้ำมันกับ NGV พร้อมไฟแสดงระดับก๊าซที่เหลือในถัง

ช่องเก็บของด้านหน้า ลึกและจุค่อนข้างมาก

เครื่องเสียง วิทยุ เครื่องเล่น CD แบบพื้นฐาน ไม่มีจอภาพ  เครื่องปรับอากาศเป็นแบบสวิตช์บิดเลือก ไม่ใช่ระบบดิจิทัล

ปุ่ม Start / Stop สีแดงขนาดใหญ่  เกียร์อัตโนมัติแบบไม่ใช่แบบขั้นบันได

หลังเกียร์ มีช่องใส่ขวดน้ำ และช่องจ่ายไฟสำรอง พร้อมพอร์ต USB สำหรับเล่นเพลง MP3 จาก Flashdrive

ที่เปิดฝาช่องเติมน้ำมันและเปิดฝากระโปรงหน้ารถ คลำหาได้ไม่ยาก

ที่บังแดด มีกระจกส่องหน้าทั้ง 2 ฝั่ง

ประตูของฝั่งคนขับ ตกแต่งเป็นสีทูโทน

เข้าออกได้ค่อนข้างสะดวก พื้นที่วางขากว้างมากพอ

ประตูห้องโดยสารตอนหลัง มีติดตั้งลำโพงไว้ด้วย

เข้าออกห้องโดยสารตอนหลังได้สะดวก ประตูกว้างและบานใหญ่

เบาะหลังนั่งได้ 3 คน แต่ที่นั่งกลางไม่มีที่พิงศีรษะ

ด้านหลังเบาะหน้า มีช่องใส่หนังสือพิมพ์ นิตยสาร

ไฟส่องสว่างตรงกลางห้องโดยสาร  สังเกตว่าไม่มีไฟส่องแผนที่สำหรับคนขับ

มีที่ยึด Baby Seat ให้ด้วย

ไฟเบรคดวงที่ 3 และกระจกหลังแบบไล่ฝ้า

สวิตช์กดเปิดฝาท้ายสีดำขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลาง ใต้โลโก้ฮอนด้า ไม่ต้องคลำหา

พื้นที่วางสัมภาระท้ายรถ ก็ยังพอมีเหลือ แม้ว่าใช้พื้นที่ติดตั้งถังก๊าซ NGV 65 ลิตรไปแล้วส่วนหนึ่ง

มีไฟส่องสว่างห้องเก็บสัมภาระท้าย

ช่องเติมน้ำมันและก๊าซ NGV  สำหรับน้ำมันกำหนดให้ใช้น้ำมันที่มีค่าออคเทน 91 ขึ้นไป รองรับ E10 / E20  ไม่รองรับ E85 ซึ่งแตกต่างจาก City รุ่นปกติ

เครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร และเกียร์ CVT ใหม่ ให้กำลัง 120 แรงม้าที่ 6,600 รองต่อนาที ให้แรงบิด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รองต่อนาที

 ระบบความปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง
– ถุงลมคู่หน้า Dual SRS
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSA
– ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่ทางลาดชัน HSA
– สัญญาณเตือนไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
– ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
– ไฟเบรกดวงที่ 3

ข้อควรทราบสำหรับผู้ที่สนใจ Honda City CNG

• เครื่องยนต์ของ Honda City กับ City CNG นั้นไม่เหมือนกัน สเปคต่างกัน แต่ที่สำคัญคือ City CNG ไม่รองรับน้ำมัน Gasohol E85  แต่ City รุ่นปกติสามารถใช้น้ำมัน E85 ที่มีราคาลิตรละ 23-24 บาทได้ทันที  นั่นหมายความว่าทางเลือกที่ประหยัดที่สุดในการเลือกเติมน้ำมัน ก็คือ เติม Gasohol E20 ลิตรละ 33-35 บาทให้กับ City CNG
• ถังก๊าซ CNG ความจุ 65 ลิตร จะใช้เวลาเติมอัดก๊าซลงถังค่อนข้างนานเหมือน Taxi ที่เข้าคิวเติมก๊าซในปั้ม NGV
• เครื่องเสียงสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยระบบบลูทูธได้ แต่ไม่มีจอภาพระบบสัมผัส และไม่รองรับ SIRI
• อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีให้น้อย คล้ายกับการนำเอา City รุ่นเกรดล่างมาติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์
• มีกุญแจรีโมท และปุ่ม Start / Stop
• ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ทุกรุ่น
• มีระบบควบคุมการทรงตัว (VSA)
• มีระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• มีสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทัน (ESS)
• มีคานเสริมความแข็งแกร่ง (Cross Bar)
• ติดตั้งระบบก๊าซมาจากโรงงาน ครอบคลุมเงื่อนไขการรับประกัน ต่างจากการซื้อรุ่นปกติแล้วนำไปติดตั้งเอง

ทดสอบขับ

ทีมงานได้ทดสอบขับและใช้งาน Honda City CNG  ก็พบว่าสมรรถนะในการขับขี่นั้นใกล้เคียงกับ City ตัวธรรมดา ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับการเลือกใช้ก๊าซ NGV หรือการบังคับใช้น้ำมันอย่างเดียว   ก็ยังคงให้สมรรถนะที่แทบไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซง การออกตัว การทรงตัว  ซึ่งในรุ่น CNG จะมีน้ำหนักรถมากกว่าในส่วนท้าย  แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นการแบกน้ำหนักสร้างภาระให้รถแต่อย่างใด  จึงสรุปว่าในส่วนของสมรรถนะในการขับขี่นั้น แทบจะไม่แตกต่างกันเลย

อัตราสิ้นเปลือง    น้ำมัน  13.9 กม. / ลิตร,  CNG  10.2 กม. / กก.

แต่ความแตกต่างระหว่าง City CNG กับ City รุ่นปกติ ก็คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการเดินทาง  การใช้เชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซ NGV ที่มีราคาขายลิตรละ 10 บาทเศษ ทำให้ประหยัดอย่างมาก โดยเฉลี่ยเมื่อคำนวณแล้ว ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณกิโลเมตรละ 1 บาทเท่านั้น  เมื่อมีการสลับใช้น้ำมันบ้างเป็นระยะ ๆ โดยรวมก็ยังเฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงอยู่ที่กิโลเมตรละ 1 บาท  แต่หากเป็น City รุ่นปกติที่ใช้น้ำมัน Gasohol E20 ซึ่งเป็นเบนซินที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว  เฉลี่ยค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่กิโลเมตรละ 2.7 – 3.2 บาท (ขึ้นอยู่ลักษณะการขับขี่)  หรือสรุปง่าย ๆ ว่าการใช้ก๊าซ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงประมาณ 3 เท่า  สมมุติว่า จากเดิมที่เคยเติมน้ำมันเดือนละ 4,500 บาท เมื่อเปลี่ยนมาใช้ Honda City CNG วิ่งด้วยระยะทางเท่ากัน  ทั้งเดือนจะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของก๊าซและน้ำมันที่ใช้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท  ทั้งนี้รถยนต์ CNG จะต้องมีน้ำมันในถังประมาณ 1/4 ส่วนของถังเสมอ  สตาร์ทด้วยน้ำมันทุกครั้ง และสลับใช้น้ำมันบ้างเป็นระยะ  ซึ่งเติมน้ำมันไว้เล็กน้อยก็เพียงพอกับการใช้งานทั้งเดือนแล้ว

คู่แข่งในระดับเดียวกัน

Honda City CNG ในปัจจุบันไม่มีคู่แข่งในระดับเดียวกันเลย  ก่อนหน้านี้มี Chevrolet Aveo CNG ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกันเป็นอีกทางเลือก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเลิกจำหน่ายไปนานแล้ว  กลายเป็นว่าในตลาดรถยนต์ Segment นี้ ไม่มีตัวเลือกอื่นเลยนอกจาก City CNG

แต่เขยิบไปดูในตลาดรถยนต์ที่สูงขึ้นอีกหน่อย ที่ช่วงราคา 8-9 แสนบาท ก็มีตัวเลือกเป็น Toyota Altis CNG กับ Nissan Sylphy CNG  แต่นั่นเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่า ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 แสนกว่าบาท เมื่อเทียบกับราคาของ City CNG

ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจจะตัดสินใจซื้อ Honda City รุ่นปกติที่รองรับน้ำมัน Gasohol E85  แล้วนำไปติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์ LPG  เพื่อคาดหวังให้ประหยัดแบบสองต่อ คือ ราคาไม่แพงทั้งแก๊สและน้ำมัน เสียค่าใช้จ่ายติดตั้งระบบแก๊สอีก 2 หมื่นกว่าบาท  ก็ขอให้ศึกษาให้ดีก่อน เพราะถือเป็นการสิ้นสุดการรับประกันระบบเครื่องยนต์จากฮอนด้าในทันที  มีข้อดีข้อเสียหลายอย่างให้พิจารณา ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าบำรุงรักษา และออพชั่นของรถที่แตกต่างกัน

ดูรายละเอียด Honda City CNG เพิ่มเติมได้ที่

ใหม่ Honda City CNG ราคา ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

 ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ  ^__^