รีวิว Honda City 1.0 VTEC Turbo รุ่นท็อปสุด RS มีดีแค่ไหน? ถึงกล้าขาย 7.39 แสนบาท ไปดูกัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่สร้างกระแสอย่างร้อนแรงหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 25 พฤศจิกายน 2562 สำหรับ Honda City 1.0 VTEC Turbo ซึ่งโฉมนี้ถือเป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 5 เข้าไปแล้ว
โดยสิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจมากที่สุดก็คือการ Downsizing Engine ลดขนาดเครื่องยนต์ลงไปเหลือ 1.0 ลิตร (จากเดิม 1.5 ลิตร) แล้วการมาถึงของเทคโนโลยี Turbo พร้อมปรับตัวเองเป็น Eco Car
และในวันนี้ ทีมงาน 9carthai.com ได้มีโอกาสยืมเจ้า Honda City 1.0 VTEC Turbo รุ่นท็อปสุด RS มาทำการทดสอบสมรรถนะเพื่อรีวิวให้ได้รับชมกัน ซึ่งหากใครที่ติดตามข่าวสารจากเราก็พอจะได้ผ่านตากับรีวิวแบบ Group Test กันไปแล้ว ซึ่งครั้งนั้นยังไม่สามารถบอกสมรรถนะได้อย่างเต็มอารมณ์
และในบทความรีวิวนี้ เราจะนำไปเทียบกับ Nissan Almera คู่แข่งรายสำคัญกันให้ได้พิจารณาด้วย ว่าสุดท้ายแล้วรุ่นไหนน่าใช้หรือเหมาะกับใครมากกว่ากัน ว่าแล้วก็อย่ารอช้าไปติดตามกันได้เลย
เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลย โดยรุ่นท็อปสุด RS จะมาพร้อมกับชุดแต่งสปอร์ต และรายละเอียดในจุดต่างๆ ที่แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น
มิติตัวถังของ Honda City RS 1.0 VTEC turbo
จากสเปคมิติตัวถัง จะเห็นได้ว่า Honda City 1.0 VTEC Turbo นั้น มีขนาดมิติตัวถังที่กว้างขึ้น และยาวขึ้นโฉมก่อนอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ความสูงของตัวรถ และระยะต่ำสุดจากพื้นถูกปรับให้ต่ำลง เพื่อสร้างจุดศูนย์ถ่วงที่ดีขึ้นนั่นเอง
และถ้านำไปเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nissan Almera จะพบว่า มิติตัวถังของ Honda City นั้นมีความยาว ความกว้าง รวมถึงความสูงของตัวรถที่เหนือกว่าเล็กน้อย
แต่ทว่าระยะฐานล้อนั้น ทาง Nissan Almera มีระยะฐานล้อที่กว้างกว่า รวมไปถึงน้ำหนักตัวถังที่เบากว่า Honda City เกือบๆ 100 กก.
ซึ่งก็ต้องบอกว่ามีความได้เปรียบและเสียเปรียบกันไปคนละด้าน
สำหรับภายในรุ่น RS จะมาพร้อมกับห้องโดยสารดีไซน์สปอร์ต คุมโทนสีดำ วัสดุภายในเกรดพรีเมียม ตกแต่งด้วยวัสดุ Soft Touch ในบางจุด พร้อมเดินด้ายตะเข็บสีแดง
ตรงกลางติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPaly
เบาะนั่งเป็นแบบผ้าหนังกลับเดินด้ายตะเข็บสีแดงเต็มอารมณ์สปอร์ต เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง (ระบบแมนนวล) ส่วนผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังเดินด้ายตะเข็บสีแดงเช่นเดียวกัน, แป้นเบรก – แป้นคันเร่ง เป็นวัสดุโลหะ ส่วนเรือนไมล์นั้นจะส่องสว่างเป็นสีแดงบ่งบอกความเป็นรุ่นสปอร์ตอย่างเต็มตัว ส่วนรุ่นย่อยอื่นจะเป็นแสงสีขาว
และที่สำคัญ Honda City 1.0 VTEC Turbo รุ่นท็อปสุด RS จะมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control รวมถึงแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift มาให้ด้วย (รุ่นย่อยอื่นไม่มี)
ถ้านำไปเทียบกับ Nissan Almera ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า Nissan นั้น มีดีไซน์ภายในที่ดูหรูหรากว่า เล่นระดับด้วยสีทูโทน และวัสดุ Soft Touch ที่ดูมีอะไรมากกว่า
ซึ่งของ Honda City นั้น อาจจะดูเรียบหรู ธรรมดา หรือชินตาแบบเดิมๆ ไปหน่อย และอีกหนึ่งส่วนที่ดูว่า Nissan Almera ทำออกมาได้ดีกว่าก็คือในส่วนของหน้าปัดเรือนไมล์ที่ให้มาแบบจอ TFT ขนาด 7”
แต่รายละเอียดโดยรวม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้น ต่างก็มีมาให้ครบครันพอๆ กัน ก็คงขึ้นอยู่กับสไตล์แล้วว่าใครจะชอบแบบไหน
ส่วนห้องโดยสารแถวหลังในรุ่น RS นั้น บริเวณคอนโซลกลางออกแบบให้มีช่องวางแก้วน้ำ – ขวดน้ำ พร้อมออกแบบให้มีช่อง Power Outler 12V ให้ 2 ช่อง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งตรงกลางออกแบบให้มีพนักวางแขน (พับเก็บได้) พร้อมช่องวางแก้วน้ำให้อีก 2 ช่อง
สำหรับความกว้างขวางภายในห้องโดยสารของ Honda City 1.0 VTEC Turbo ต้องบอกเลยว่า นั่งสบายกว่าเดิม โดยเฉพาะกับผู้โดยสารตอนหลัง เพราะทาง Honda ได้มีการปรับเพิ่มพื้นที่ส่วนวางเท้าให้มากขึ้น ทัศนวิสัยในการมองเห็นโป่งโล่ง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งโอบกระชับรับกับสรีระได้ดี
หากเทียบถึงความกว้างขวางและนั่งสบายกับ Nissan Almera บอกตรงๆ ว่า ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดและมิติภายในห้องโดยสารตอนหลังที่กว้างพอๆ กัน
แต่ของ Honda City 1.0 VTEC Turbo จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายตอนหลังที่ให้มาเยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่องวางแก้วน้ำ พนักวางแขน รวมไปถึงช่องเสียบชาร์จไฟ Power Outlet 12V ถึง 2 ช่อง
ซึ่งทาง Nissan Almera นั้น จะมีให้แค่ที่เสียบ USB เพียงช่องเดียวเท่านั้น
ไฮไลท์สำคัญของ Honda City ใหม่ อยู่ที่ขุมพลังแบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร 12 วาล์ว DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันแบบ VTEC และระบบอัดอากาศ Turbo โดยจะมีอินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำคอยควบคุมอุณหภูมิให้ชุด Turbo โดยเฉพาะ และมีเวสเกตไฟฟ้าช่วยจัดการกับไอเสียส่วนเกินของ Turbo ให้อีกชั้นหนึ่ง
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT มอบสมรรถนะสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที
มีอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 23.8 กม./ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กม. ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20
ซึ่งถ้านำไปเทียบกับ Nissan Almera ว่ากันตามสเปค ที่มีเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo เหมือนกัน กลายเป็นว่า Honda City 1.0 VTEC Turbo นั้น มีแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
โดย Nissan Almera นั้น มีแรงม้าอยู่ที่ 100 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตัน-เมตร ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันนั้น ก็ทำได้เท่ากันตามมาตรฐาน Eco Sticker นั่นเอง
ระบบความปลอดภัย Honda City RS 1.0 VTEC Turbo
ด้านระบบความปลอดภัย แม้จะเป็นรองคู่แข่งอย่าง Nissan Almera อยู่บ้าง ซึ่งรายนั้นเขามี กล้องรอบคัน, ระบบช่วยเตือนป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบช่วยเตือนป้องกันการชนด้านหลัง, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนรถออกนอกเลน
แต่ Honda City 1.0 VTEC Turbo RS จะมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control รวมถึงแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ซึ่งเป็นสิ่งที่ Nissan Almera ไม่มี
เมื่อทราบถึงสเปคและข้อมูลพื้นฐานของ Honda City 1.0 VTEC Turbo RS กันแล้ว ก็ถึงคราวพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่กันบ้างว่าจะมีดีแค่ไหนกันเชียว ซึ่งจุดนี้หลายๆ ท่านก็อาจสงสัยและคาแคลงใจว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร Turbo ชุดนี้ มันจะเทียบเท่าหรือทดแทนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเดิมได้จริงหรือ?
จากที่ได้สัมผัสมาแล้ว ผู้เขียนขอยืนยันตรงนี้เลยว่า “ดีกว่าเดิม” โดยเครื่องยนต์ 3 สูบ Turbo บล็อคนี้ เป็นเครื่องยนต์ที่จี๊ดจ๊าด และให้สมรรถนะการขับขี่ดีกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเดิมด้วยซ้ำไป อัตราเร่งให้การตอบสนองที่ฉับไว ไม่มีอาการเทอร์โบแร็ค หรือรอรอบเลยแม้แต่น้อย สามารถเร่งแซง หรือเค้นพลังได้ในทุกช่วงเวลาที่ต้องการ
และถ้าอยากเพิ่มความสนุกในการขับขี่สามารถพลักคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง S หรือใช้แป้น Paddle Shift ในการเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้อีกด้วย
ซึ่ง Honda City RS 1.0 VTEC Turbo นั้น สามารถทำความเร็วได้เกินกว่า 200 กม./ชม. เลยทีเดียว ซึ่งน่าจะเป็น Eco Car ที่แรงและเร็วที่สุดในเวลนี้แล้วก็ว่าได้
ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากที่ได้นำมาทดสอบเป็นเวลา 5 วันเต็มๆ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13.9 กม./ลิตร ซึ่งถือว่ามีความประหยัดพอสมควร
และถ้าหากใช้งานในรูปแบบการขับขี่ปกติ (ไม่ใช่การขับเพื่อทดสอบสมรรถนะ) ผมว่าอาจจะทำได้ถึง 15-16 กม./ลิตร เลยทีเดียว
ส่วนระบบช่วงล่างของ Honda City RS 1.0 VTEC Turbo ต้องบอกว่าเป็น Eco Car ที่เซ็ทระบบช่วงล่างมาในค่ากลางๆ เน้นบาลานซ์ดีไว้ก่อน
เพราะ Honda City นั้น เป็นรถยนต์ที่มีฐานลูกค้าที่กว้าง ตั้งแต่เด็กมหาลัยไปยันผู้ใหญ่วัยเกษียณ ครั้นจะให้ช่วงล่างมันสปอร์ตจ๋าแข็งตึงเอาใจวัยรุ่นขาซิ่งเพียงอย่างเดียวมันก็คงจะไม่ใช่
Honda จึงทำช่วงล่างของ Honda City ใหม่ นั้น ให้มีความนุ่นนวล นั่งสบาย แต่ก็ยังคงรองรับการขับขี่ในความเร็วสูงๆ ได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีอาการย้วยและโยนหากเข้าโค้งแรงเกินลิมิตของมัน
ส่วนทัศนวิสัยในการมองเห็น จุดนี้ Honda เขาได้มีการปรับแก้ โดยการปรับย้ายตำแหน่งของกระจกมองข้างมาไว้ที่ประตูแทน เพื่อทำให้ลดจุดอับสายตาในเสา A ซึ่งก็ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยลดจุดอับสายตาได้จริง ด้านเสียงลมปะทะก็ลดน้อยลงด้วยหากเทียบกับโฉมก่อน
ข้อดีของ Honda City RS 1.0 VTEC Turbo
ข้อเสียของ Honda City RS 1.0 VTEC Turbo
บทสรุป
โดยรวมแล้วถือว่า Honda City 1.0 RS VTEC Turbo นั้น เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่น่าสนใจเอามากๆ แม้ว่าเครื่องยนต์จะถูกปรับลดลงเพื่อให้เข้า Eco Car Phase 2 แต่สมรรถนะนั้นยังทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ในหลายๆ รุ่น แถมยังประหยัดน้ำมันกว่าด้วย ซึ่งเครื่องยนต์ชุดนี้บอกเลยว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดในคลาส Eco Car ในเวลานี้แล้ว
ส่วนอุปกรณ์และฟีเจอร์ต่างๆ ก็ถือว่าให้มาไม่น้อยหน้าใคร และเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ Honda City 1.0 VTEC Turbo รุ่นย่อย RS มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 739,000 บาท ซึ่งถ้านำไปเทียบกับ Nissan Almera รุ่นท็อปสุดอย่างรุ่น VL ที่มีราคาจำหน่ายที่ 639,000 บาท ที่มีส่วนต่างห่างกันถึง 1 แสนบาท
โดยสิ่งที่คุณจะได้รับจากส่วนต่างตรงนี้ก็คือ สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นกว่า ดีไซน์ที่มีความสปอร์ตเร้าใจกว่า ส่วนความสะดวกสบายผมมองว่าใกล้เคียงกัน ด้านระบบความปลอดภัยอาจจะมีเป็นรองบ้างนิดหน่อย แต่ที่แน่ๆ ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ และภาพรวมในระยะยาว Honda ก็มีภาษีที่ดีกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวคุณเอง ว่าสิ่งไหนจะตอบโจทย์สำหรับคุณที่สุด ซึ่งส่วนต่างตรงนี้ ก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเหมือนกัน
ดูตารางผ่อนคลิก >> ใหม่ All-New Honda City 2020
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว Toyota Fortuner Legender ที่สุดของ PPV ขับหล่อก็ได้ ขับลุยก็ไปได้ดี
รีวิว All-New Suzuki XL7 อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องการไปได้มากกว่า
รีวิว All-New Toyota Corolla Cross ลองสั้นๆ ครั้งแรกในโลก บอกเลยดีเกินคาด!!
รีวิว : สัมผัสแรก Nissan Kicks e-Power ขับดีเกินคาด อัตราเร่งทันใจ ใช่เลย!!
รีวิว Toyota Hilux REVO Rocco 2020 บอกเลย Minorchange ครั้งนี้ เหนือกว่า All-New ค่ายอื่นเสียอีก
รีวิว All-New Mazda 3 ความลงตัวที่สง่างาม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ไม่ง้อขุมพลัง
รีวิว All-New Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในปฐพีนี้
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
#โปรโมชั่นฮอนด้า The City Turbo 2020#
***จองก่อนใช้รถก่อน***
-ฟรีประกันภัยชั้น 1 ซ่อมห้าง (ไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่)
-ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 1.89%
-ลูกค้าเก่า Honda loyalty ดอกเบี้ยลดลงอีก 0.15%
-หรือพบกับแคมเปญ #Doublesmile ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 9,000 บาท
-ฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 2,000บาท 12เดือน
-ชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน
-ส่วนลดจัดพิเศษ (ใช้เงินออกรถน้อย)
-ให้คำปรึกษาไฟแนนซ์ฟรี พร้อมช่วยดันไฟแนนซ์ทุกเคส (บริการไฟแนนซ์ถึงที่)
-รับจองออนไลน์ สะดวก ปลอดภัย (โอนเงินจองรถเข้าโชว์รูมเท่านั้น)
-เทิร์นรถคันเก่าได้ราคาดี
-รับรถเร็วทันใจ
*พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าที่แจ้งว่ามาจากเว็บไซด์ 9carthai รับ Collection Honda สุดพิเศษเพิ่มเติมครับ
ติดต่อสอบถามได้ที่
#เซลล์บอล Honda พระราม3 สำนักงานใหญ่ (สาขาสาธุประดิษฐ์)
☎️โทร : 085-082-2662(เซลล์บอล) *ประสบการณ์ขายกว่า 5 ปี*
Line ID : ballz12345. https://line.me/ti/p/Y31o13g_x6
แผนที่โชว์รูม https://goo.gl/maps/wp6taCfT7AA2
“โปรโมชั่นดี รับรถเร็ว”