รีวิว Honda CR-Z สปอร์ตไฮบริด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ฮอนด้า ซีอาร์-ซีร์ ยนตรกรรมสปอร์ตไฮบริด อัจฉริยะแห่งนวัตกรรมการขับเคลื่อน สัมผัสแห่งความสปอร์ตเร้าใจ โดดเด่นทุกมุมมองกับดีไซน์ และเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ โลดแล่นอย่างมั่นใจ เปี่ยมด้วยพลังแห่งการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีไฮบริด ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ กับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดการ ปล่อยไอเสียสู่ชั้นบรรยากาศ แสดงออกถึงความห่วงใยธรรมชาติอย่างแท้จริง
Honda CR-Z Hybrid มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว ราคาเดียว คือ 1,975,000 บาท โดยในปัจจุบันฮอนด้าได้ขยายการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเป็น 10 ปี (รับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบ ไม่จำกัดระยะทาง ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด พร้อมดูแลด้วยช่างผู้ชำนาญ และเครื่องมือพิเศษ ส่วน 5 ปีหลังครอบคลุมเฉพาะแบตเตอรี่ไฮบริด)
เริ่มต้นที่การดูดีไซน์ภายนอกกันก่อน
ไฟหน้าแบบ Projector
ไฟตัดหมอก
กระจังหน้าได้อารมณ์สปอร์ต
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และยางขนาด 195/55 R16 พร้อมดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ
ด้านข้างจะเห็นได้ว่ามีความโฉบเฉี่ยวแบบรถสปอร์ต
มือจับประตูสุดเท่
แนวหลังคาโค้งลาด
เส้นสายของส่วนท้าย สอดรับกับแนวหลังคา
กระจกหลังคาท้าย มีขนาดใหญ่ พร้อมกับระบบไล่ฝ้าและที่ปัดน้ำฝน
เสาอากาศแบบครีบฉลาม และที่ฉีดน้ำทำความสะอาดกระจก
ท้ายรถก็ดูสวยงาม แปลกใหม่แต่มีความลงตัว
ไฟท้ายสเป็นแบบ LED สีแดง
ไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมแหลมคม
สัญลักษณ์ไฮบริด
โลโก้ CR-Z
ส่วนล่างของกันชนท้าย มีทับทิมสะท้อนแสง และออกแบบให้ดูสปอร์ตแบบที่ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มแล้ว
อีกมุม เท่ ๆ
ตำแหน่งของฝาถังน้ำมัน ทั้งนีั้ CR-Z ไม่รองรับน้ำมัน E20
หน้าต่างทรงยาวแหลม อารมณ์สปอร์ตมาเต็ม ๆ
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED
มือจับประตูแบบใหม่ และวิธีเปิด
ประตูรถจะยาวตามสไตล์ของรถยนต์รูปทรง Coupe
ที่เปิดประตูด้านใน มือจับ และแผงปุ่ม
ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีโทนดำเทา
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
เบาะผ้าดีไซน์สปอร์ต
ปรับความสูงของเบาะที่นั่งคนขับได้
ที่พักเท้าซ้าย เบรค คันเร่ง และที่เปิดฝากระโปรงด้านหน้า
ที่นั่งโดยสารตอนหลัง เบาะเป็นแบบหลุม ติดตั้งลำโพงที่ผนังด้านข้าง
ที่บังแดดมีกระจกส่องหน้าและไฟส่องทั้งสองฝั่ง
ไฟส่องสว่างสำหรับห้องโดยสารตอนหน้า
ประตูสำหรับฝั่งผู้โดยสาร ซึ่งในการเข้าออกห้องโดยสารตอนหลัง จะต้องเข้าออกทางด้านนี้
คันโยกปรับเลื่อนเบาะ เพื่อให้เข้าออกห้องโดยสารตอนหลังอย่างสะดวก
พื้นที่สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ถือว่าไม่ได้แคบ นั่งได้ตามปกติเหมือนรถเก๋ง
เบาะที่นั่งทั้งหมดเป็นเบาะผ้าที่ไม่มีการตกแต่งด้วยลวดลายใด ๆ
คันโยกสำหรับเลื่อนเบาะ สามารถใช้งานได้ทั้งจากภายในและภายนอกตัวรถ
เบาะที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร จะไม่สามารถปรับความสูงได้
– เบาะที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร มีลักษณะรงหลุมลึกลงไป เนื่องจากหลังคาที่กดต่ำ
-ไม่สามารถปรับความสูงได้
– พนักพิงศรีษะไม่มี
– นั่งได้ 2 คน ตรงกลางนั่งไม่ได้
ฝาท้าย เปิดได้ง่าย มีโช้คอัพผ่อนแรง
มีหลุมมือจับสำหรับจับเพื่อปิดฝาท้าย
ช่องเก็บสัมภาระท้ายขนาดค่อนข้างใหญ่ พร้อมไฟส่องสว่าง
มีที่ยึดสำหรับ Baby seat
ยางอะไหล่และเครื่องมือเปลี่ยนล้อ
สามารถพับเบาะหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่วางสัมภาระท้ายได้อีก
ระดับของพื้นวางสัมภาระ จะราบไปในแนวเสมอกัน ไปจนถึงด้านหลังเบาะคู่หน้า
ไฟเบรคดวงที่ 3 แนวยาว มองเห็นได้ชัดเจน
กล้องมองหลัง
มุมมองด้านหลังขณะถอยหลัง หรือมองผ่านกระจกมองหลัง จะเห็นคานขวางตา
ผู้โดยสารตอนหลังสามารถหยิบของใช้ท้ายรถได้สะดวกพอสมควร
อุปกรณ์ภายในรถและทดสอบความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
แผงคอนโซลในแนวบุคลิกของรถสปอร์ต
พื้นที่จำกัด จอภาพและเครื่องเสียงจึงถูกเบียดไปอยู่ไกลจากคนขับพอสมควร
ทัศนวิสัยแบบรถสปอร์ต มุมมองต่ำลงมาใกล้พื้นถนนมากกว่ารถเก๋ง
หลุมใส่เครื่องดื่มและที่วางของ มีน้อยกว่ารถเก๋ง เพราะพื้นที่จำกัด
เบรคมือเป็นแบบปกติ ไม่ใช่สวิตช์ไฟฟ้า
พวงมาลัยแบบสปอร์ตพร้อมปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย
ช่องลมเครื่องปรับอากาศแบบไม่ค่อยสมมาตร เพราะพื้นที่มีจำกัดอีกเช่นกัน
เกียร์อัตโนมัติ กับดีไซน์ใหม่ที่มีปุ่มกดด้านบน ต่างจากรถทั่วไปที่มีปุ่มกดด้านขวา
ทดลองนั่งที่ห้องโดยสารด้านหลัง
ศีรษะติดเพดาน แม้ว่าโน้มคอลงมาแล้วก็ตาม จึงคิดว่าเบาะคู่หลัง น่าจะเหมาะกับเด็กเล็กมากกว่า
เข่าชนหลังเบาะหน้าพอดี
Leg room แคบ วางเท้าได้ไม่สะดวก
สรุปว่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่ไม่สามารถเข้าไปนั่งได้อย่างแน่นอน
ที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า ไม่ได้อึดอัดจนเกินไป วางขาได้ตามปกติ
ช่องแอร์สำหรับส่งผ่านความเย็นไปทั่วห้องโดยสาร
ช่องเก็บเอกสารได้เล็กน้อย มีขนาดเล็กมาก
มาตรวัดเรืองแสง มีจอแสดงความเร็วในแบบตัวเลขเห็นชัดเจนดีมาก
หน้าจอแสดงปริมาณของไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไฮบริด และสถานะการทำงานว่ากำลังชาร์จไฟเข้าหรือกำลังถูกใช้ไฟฟ้าเพื่อเสริมการขับเคลื่อน
หน้าจอแสดงระยะทาง และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในแบบขีด ไม่ใช่ตัวเลข
ไฟสีฟ้าเรืองแสงมากมาย ดูสวยงามในเวลากลางคืน
3 โหมดการขับขี่ให้เลือก, สวิตช์ปรับกระจกมองข้าง, สวิตช์ปรับระดับไฟตัดหมอกและการทรงตัว
ตำแหน่งของช่องกุญแจ
ปุ่มควบคุมระบบ Cruise control และ Paddle shift
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
ปุ่มเลื่อนหน้าต่างการแสดงข้อมูลบนจอภาพ
มาตรวัดนี้มีเพียงความเร็วรอบและความเร็ว เห็นได้ชัดเจน ย้ายสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ไม่ดูรก
จอแสดงผลมีความสว่างดี เห็นได้ชัด อ่านง่ายในทุกสภาวะ
ย่อส่วนปุ่มควบคุมเครื่องปรับอากาศไว้เหลือแค่นี้ ใกล้มือซ้ายของคนขับ
เครื่องเสียงและระบบนำทาง
จอภาพอยู่ไกลจากมือของคนขับไปหน่อย แต่ตัวอักษรที่ใหญ่พอ ทำให้กดได้ไม่มีพลาด อ่านง่าย
ช่องต่อ USB Flashdrive และช่องจ่ายไฟสำหรับ Car Charger
ถัดลงมาเป็นช่องใส่แก้วเครื่องดื่มขนาดเล็ก
ช่องเก็บแว่นตาหรือของใช้จุกจิก
วิธีกดปุ่มใช้งานเกียร์ ต้องให้นิ้วโป้งอยู่ด้านบนแบบนี้ ต่างจากเกียร์รถทั่วไป
ติดตั้งลำโพง Tweeter ไว้ใกล้ฐานเสาหลังคา
ม่านถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารและคนขับ
ม่านถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แยกอิสระ
มาดูกันที่ระบบเครื่องเสียง สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อควบคุมการสื่อสารได้จากในรถ
เมนูหลักของระบบนำทาง
แสดงพิกัดปัจจุบัน บอกทิศและปรับซูมได้
บันทึกคลื่นวิทยุที่ชื่นชอบได้รวม 12 คลื่นเหมือนรถทั่วไป
เมนูการตั้งค่า
มีเสียงทุกครั้งที่สัมผัสหน้าจอ สามารถเปิดหรือปิดได้
ตั้งค่าการเชื่อมต่อไร้สาย
ปรับเสียงทุ้มกลางแหลมได้ และบาลานซ์ของลำโพงทั้ง 4 ตำแหน่ง
ค้นหาสถานที่สำคัญจากระบบนำทางได้ มีฐานข้อมูลอยู่พอสมควร
ทดสอบไฟส่องสว่าง
ไฟหรี่ ไฟหน้า และไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอก
ไฟสูง
แสงไฟหน้าและไฟตัดหมอก เป็นโทนสีเดียวกัน ดูไม่ขัดแย้งกัน
ไฟท้ายและไฟเลี้ยว สว่างชัดเจน สวยงามมาก
กุญแจและห้องเครื่องยนต์
กุญแจรถแบบพับเก็บได้
ขับเคลื่อนสมรรถนะแห่งความสปอร์ตอย่างเต็มสูบ ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้นของเครื่องยนต์ SOHC 1.5 ลิตร i-VTEC 111 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ที่ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมความล้ำสมัยกับระบบการขับขี่แบบ 3 โหมด ตอบสนองทุกความต้องการ เพื่อทุกการขับขี่ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
ระบบไฮบริดของฮอนด้า ซีอาร์-ซีร์ เป็นเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกการขับเคลื่อนโดยมีเครื่องยนต์ เป็นแหล่งพลังงานหลัก พร้อมเสริมกำลังเพิ่มด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นการจัดการที่ยอดเยี่ยมเพื่อการใช้พลังงาน อย่างเต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญมอเตอร์ไฟฟ้าของฮอนด้า ซีอาร์-ซีร์ ได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด
ทดสอบการขับขี่
ทดสอบการขับขี่บนถนนนครอินทร์ ที่สามารถทำความเร็วได้ดี พบว่าความรู้สึกในการขับขี่นั้น ก็คล้ายกับ Honda City หรือ Jazz ที่ผสมผสานอารมณ์แบบความสปอร์ตเพิ่มเข้ามาอีกนิด มุมมองที่ต่ำใกล้พื้นถนนลงมา อัตราเร่งที่ทำให้ขับสนุกมากขึ้นกว่าซิตี้คาร์ทั่วไปเล็กน้อย เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อน เสริมพลังอีกแรงหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด ทำให้ใช้น้ำมันน้อยลง ประหยัดน้ำมันดีกว่า City / Jazz เล็กน้อย น่าจะเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กที่ถูกใจวัยรุ่น
สิ่งที่น่าประทับใจ
ข้อสังเกตุ
รถสปอร์ตขนาดเล็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Honda CR-Z สปอร์ตไฮบริด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม "