รีวิว Honda Freed อิสระลงตัวทุกรูปแบบการใช้ชีวิต
ฮอนด้า ฟรีด รถครอบครัว 7 ที่นั่งเอนกประสงค์ ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่มีครอบครัวและคนที่ต้องเดินทางไปกับกลุ่มเพื่อนหลายคน ออกแบบมาให้รถมีความยืดหยุ่นในการพับที่นั่ง เข้าออกได้สะดวก ใส่สัมภาระได้มากมายเป็นพิเศษ รวมทั้งใส่จักรยานไว้ในรถได้ด้วย
Honda Freed มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย มีราคาขาย ดังนี้ (29 พ.ค. 57)
SE 834,000 บาท
E 879,000 บาท
EL 959,000 บาท
หมายเหตุ : สีขาวออร์คิด (มุก-เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีดำคริสตัล (มุก-เพิ่มเงิน 6,000 บาท)
สำหรับรุ่นที่เรานำมารีวิว คือ New Freed EL ที่ใส่อุปกรณ์มาให้ในรถแบบครบครัน จัดเต็ม
รูปทรงของ Freed ดูเป็นรถมินิแวน ด้านหน้าลาดเอียง
ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งด้านซ้ายและขวา เป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนชื่นชอบ
เส้นสายด้านข้าง สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์
ด้านท้ายสวยงามทุกมุมมอง
ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ทุกรุ่น ไม่มีไฟหน้าแบบ Projector
ตำแหน่งไฟเลี้ยวอยู่ด้านในติดกับกระจังหน้า
กระจังหน้าโครเมียม แวววาว สวยงาม
กันชนไม่มีไฟตัดหมอก และไม่สามารถติดตั้งเพิ่มได้โดยตรง
ฝากระโปรงหน้าสั้นกว่ารถเก๋งทั่วไป
กระจกหน้าโค้งลาดเอียงรับกับแนวของฝากระโปรง ได้ผลดีตามหลักอากาศพลศาสตร์
ล้ออัลลอย 15 นิ้ว และยางขนาด 185/65 R15
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เฉพาะในรุ่น E กับ EL
มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
ฝาปิดถังน้ำมันทรงกลมอยู่ทางด้านซ้ายของตัวรถ
ร่องสไลด์ประตูไฟฟ้า ยาวไปถึงไฟท้าย
โคมไฟท้ายขนาดเล็ก เป็นหลอดไส้ทุกดวง ยังไม่ใช่ LED
ท้ายรถ ออกแบบมาค่อนข้างสวยในระดับหนึ่ง แต่ไฟท้ายดูเล็กมากจริงๆ
ที่ฉีดน้ำล้างกระจกหลัง ทำงานกับที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
เสาอากาศวิทยุอยู่ด้านขวาของหลังคารถ ไม่ได้อยู่ตรงกลาง
ที่ปัดน้ำฝนล้างกระจกด้านหลัง
โลโก้ Freed ขนาดใหญ่ และคิ้วท้ายโครเมียม
สปอยเลอร์มีให้ในรุ่น EL เท่านั้น
เหนือป้ายทะเบียนรถ มีที่เปิดประตูหลัง ไฟส่องป้ายทะเบียน และกล้องช่วยมองขณะถอยหลัง
ท้ายรถเปิดได้กว้าง มีโช้คอัพช่วยผ่อนแรง น้ำหนักไม่หนักเท่าไร
ท้ายรถเปิดได้สูง ระดับความสูงไม่ชนศีรษะ ลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะขนถ่ายสัมภาระ
เบ้ามือจับช่วยในการจับปิดท้ายรถ
มีที่วางสัมภาระได้พอสมควร
ึ7 ที่นั่ง แต่ที่นั่งกลางในแถวหลังสุด ไม่มีที่พิงศีรษะ หลังคาสูง ไม่มีปัญหาเพดานติดศีรษะในทุกที่นั่ง
เข้าออกได้ค่อนข้างสะดวกในทุกตำแหน่งที่นั่ง
เมื่อประตูไฟฟ้าเปิดออก ก็พบกับบันไดทางเข้าห้องโดยสาร
ที่นั่งในแถวที่สอง เป็นเบาะแยก ปรับได้อิสระ นั่งสบาย มีที่วางแขนพับได้ ทั้งแขนซ้ายและแขนขวา
เบาะหนังเทียม ทั้ง 7 ที่นั่ง
เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD ขนาด 9 นิ้ว 2 จอซ้ายขวา สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
พื้นที่วางเท้า เหลือเฟือ กว้างและเข้าออกได้สะดวก
ที่วางแขน พับเก็บได้ถ้ารู้สึกว่าเกะกะ
เบาะที่นั่งยกสูงกว่ารถเก๋งมาก นั่งได้นาน ไม่ค่อยเมื่อยขณะเดนทางไกล
ไม่ได้โอบรับกับแผ่นหลังตามสรีระเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เมื่อยหลัง
เบาะที่นั่ง วัสดุหนังเทียม นั่งสบายกว่ารถตู้โดยสารสาธารณะ ทัศนวิสัยดี มุมมองกว้าง ไม่รู้สึกอึดอัด
ช่องแอร์สำหรับผูโดยสารในแถวที่ 2-3 ปรับทิศทางลงได้
จอภาพ LCD ขนาด 9 นิ้ว 2 จอ ติดตั้งที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้า
จอภาพตัวซ้าย เป็นเครื่องเล่น DVD ในตัว ส่วนจอภาพตัวขวา จะทำหน้าที่เป็นจอภาพอย่างเดียว
สั่งงานด้วยระบบสัมผัสทุกจอภาพ
เลือก Input และตั้งค่าการแสดงผล
ปรับตั้งค่าการแสดงผลของจอภาพ
จอภาพตัวขวา ถูกต่อพ่วงภาพมาจากตัวซ้าย ภาพจึงปรากฎเหมือนกันเสมอ ถ้าไม่ได้ปิดจอภาพ
จอภาพตัวขวาไม่มีเครื่องเล่น DVD แต่ก็สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้เหมือนจอภาพตัวซ้าย
ปรับแรงลมของเครื่องปรับอากาศห้องโดยสารตอนหลังได้ 3 ระดับ ลมแรงมากพอ ไปถึงทุกที่นั่ง
ในขณะเล่น DVD ผู้โดยสารตอนหน้าก็สามารถเลือกรับชมได้ด้วยทั่วทั้งคันก็ได้
ไฟส่องสว่างห้องโดยสารที่เพดานรถ มีหลายจุด
ที่นั่งในแถวที่สอง มี Leg room ที่กว้างขวาง เหยียดเท้าได้ นั่งไขว่ห้างก็ได้ ไม่ชนด้านหลังเบาะหน้า
คันโยกเปิดประตูสไลด์ไฟฟ้า ด้านขวาเป็นปุ่มล็อคประตู ด้านล่างของคันโยก เป็นสวิตช์กระจกไฟฟ้า
จุดเด่นของ Honda Freed คือ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน เข้าออกได้สองฝั่ง
ที่นั่งในแถวสุดท้าย เหมาะสำหรับเด็กๆ นั่งได้สูงสุด 3 คน มีเข็มขัดนิรภัยทั้ง 3 ที่นั่ง
ผนังด้านข้างของที่นั่งในแถวหลังสุด มีติดตั้งลำโพงไว้
มีกระจกทรงให้มองข้างทางได้ ลดความรู้สึกอึดอัด
ที่พิงศีรษะ ปรับยกสูงได้สำหรับเด็กโต
Leg room ของที่นั่งแถวหลังสุด วางเท้าได้ เข่าชนเบาะแถวกลางพอดี นั่งได้ 3 คนแบบใกล้ชิด
ราวจับที่เพดานสำหรับที่นั่งแถวสุดท้าย ก็มีเช่นกัน
เข็มขัดนิรภัยของที่นั่งกลางในแถวสุดท้าย ถูกซ่อนไว้ในเบาะ
ที่นั่งในแถวที่ 2 จะโปร่งโล่งสบาย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เข้า-ออกจากรถได้สะดวกมาก
ปรับเอนหลังได้เยอะ
การเข้า-ออกที่นั่งในแถวหลังสุด ก็ไม่ลำบากนัก เด็กตัวใหญ่ก็ผ่านช่องนี้ได้
พรมปูพื้นห้องโดยสาร ถอดทำความสะอาดได้ง่าย
ดูดฝุ่น ทำความสะอาดได้ง่าย
ที่นั่งในแถวสุดท้าย สามารถพับประกบได้
พับแล้วยกขึ้นไปแขวนกับผนังได้เลย เพื่อใส่สัมภาระขนาดใหญ่
มีตะขอแขวนอยู่ที่ราวมือจับของเพดานทั้งสองข้าง
การพับ ยก แล้วเกี่ยวตะขอแขวนนั้น ไม่แนะนำให้เด็กเล็กทำเอง เพราะมีน้ำหนักมาก ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง
พื้นห้องโดยสารเมื่อยกที่นั่งขึ้นแขวนแล้ว ก็สามารถวางสัมภาระได้เยอะ
ทัศนวิสัยของผู้โดยสารที่นั่งในแถวหลังสุด ก็ยังพูดคุยหรือส่งของให้กันกับคนอื่นๆ ในที่นั่งแถวหน้าได้
มาดูห้องโดยสารส่วนหน้ากันบ้าง เปิดประตู ก็จะพบกับประตูแบบเรียบๆ
– หลังคาสูง บวกกับเบาะสีเบจ ทำให้ดูห้องโดยสารโปร่งโล่งอย่างมาก
– ที่วางแขนทั้ง 2 ที่นั่งสามารถพับได้
เข้า-ออกจากตัวรถได้สะดวกเหมือนรถเก๋ง ไม่ต้องปีนเหมือนรถตู้โดยสาร
พื้นที่วางของด้านหน้า กว้างมาก พร้อมหลุมใส่ขวดน้ำหรือแก้วเครื่องดื่ม
ผิวลื่น วางของได้ แต่ก็ลื่นหล่นได้ตามแรงเหวี่ยงการเคลื่อนที่ของตัวรถ
ที่ใส่ของและเอกสาร
ที่เปิดประตู สวิตช์กระจกไฟฟ้า และที่จับปิด-เปิดประตู ดีไซน์แบบเรียบๆ ดูเชยๆ ไปหน่อย
สามารถใช้ลมของเครื่องปรับอากาศ เป่าเครื่องดื่มให้รักษาความเย็นได้
เครื่องปรับอากาศและเกียร์อยู่ติดกัน
วิทยุ เครื่องเล่น และส่วนควบคุมการเล่น DVD รวมทั้งเป็นจอภาพช่วยมองด้านหลังขณะถอยจอดอีกด้วย
หลุมด้านหลังเกียร์ ใต้จอภาพ สามารถใส่หรือวางของเล็กๆ เช่น เหรียญหรือบัตรได้
ที่วางแก้วเครื่องดื่มสำหรับคนขับ
สาย USB ห้อยไว้ สำหรับเสียบ Flashdrive ที่มีไฟล์เพลง MP3
ช่องจ่ายไฟสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือในรถ
ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารส่วนหน้า
กระจกส่องหน้าในที่บังแดด มีให้ทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง
กระมองมองหลังแบบลอยตัว
ช่องว่างระหว่างคนขับและคนนั่ง สามารถวางของได้ หรือเป็นทางเดินสำหรับเด็กเล็กก็ได้
คอนโซลด้านหน้าที่วางของได้ ไม่ได้ยื่นเกะกะเท่าไรนัก มีระยะเหลือ ไม่ชนหัวเข่า
มาดูฝั่งคนขับกันบ้าง
ที่เปิดประตู ลำโพง สวิตช์กระจกไฟฟ้า สไตล์เรียบง่าย
มีช่องใส่เอกสารหรือของเล็กๆ ที่ประตูได้บ้าง
ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีเยี่ยม มองเห็นรอบทิศในมุมสูง เสาหลังคาทรงตัว A ไม่หนาจนบดบังสายตา
ตำแหน่งที่วางแขน เหมาะสมดี ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป
มาตรวัดเรืองแสง ดูทันสมัย
พวงมาลัยแบบ 3 ก้านตามสไตล์ของฮอนด้าที่คุ้นเคย
สวิตช์ปรับกระจกไฟฟ้า และสั่งงานเปิด-ปิดประตูสไลด์ไฟฟ้าได้
มีที่วางเครื่องดื่มอีก 1 ตำแหน่ง เยอะจุใจจริงๆ
มีที่พักเท้าซ้ายให้ด้วย
ตำแหน่งของเบรคมือ เบรค และคันเร่งตามลำดับ
กระจกมองข้าง มุมมองกว้างเพียงพอสำหรับการขับทั่วไป
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ตำแหน่งของเกียร์ เหยียดแขนออกไปจนเกือบสุด คนขับจะต้องปรับตำแหน่งเบาะให้เหมาะสม เพราะมีผลกับการใช้เกียร์ พวงมาลัย และสั่งงานจอภาพที่เครื่องเสียง
พวงมาลัยเล็กไปหน่อย จับไม่ถนัด ไม่พอดีมือ มีผลสำหรับการบังคับเลี้ยว
เครื่องเสียง มีจอภาพหลักเป็น LCD ขนาด 7 นิ้ว สั่งงานด้วยระบบสัมผัส ไม่มีโปรแกรมระบบนำทาง
ตัวอักษรขนาดใหญ่ อ่านได้ง่ายพอสมควร วิทยุรับสัญญาณได้ดี ค้นหาสถานีได้รวดเร็ว
เปลี่ยนคลื่นได้ด้วยการลากนิ้ว แล้วเลือกความถี่แบบละเอียด จากนั้นก็บันทึกเป็นสถานีโปรดไว้
เล่นไฟล์เพลง วิดีโอ ภาพถ่ายได้
ทดลองเปิดภาพยนตร์จากแผ่น DVD
ก็จะปรากฎภาพเหมือนกันทั้ง 3 จอภาพ รับชมได้ทั่วทั้งคัน ระบบเสียงดีเกินคาด
ในการสั่งงานลูกเล่นต่างๆ ของเครื่องเล่น DVD จะต้องสั่งงานจากจอภาพชุดหลังเท่านั้น จอซ้ายหรือจอขวาก็ได้
ความบันเทิงในรถยนต์ที่ทุกคนต้องชื่นชอบ เสียงดีทั้งการฟังเพลงและชมภาพยนตร์ ดังแบบทรงพลัง หนักแน่น ไม่น่ารำคาญ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนลำโพงหรือเพิ่มลำโพงอีกแล้ว
เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วย Bluetooth ได้
เมนูตั้งค่าหลักของเครื่องเสียง
ตั้งค่า Balance ของเสียง ปรับสมดุลระหว่างลำโพงคู่หน้าและคู่หลัง รวมทั้งปรับทุ้ม-แหลมได้หลาย dB
เปลี่ยนการแสดงผลได้ 4 ภาษา
ปรับความสว่างได้ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในเวลากลางวันและกลางคืน
สายสัญญาณเชื่อมต่อกับ iPod / iPhone / iPad รุ่นเก่า เข้าในช่อง Aux
ทดลองเปิดไฟหน้า
ไฟท้ายดวงเล็ก มองเห็นหลอดไฟ
ไฟท้ายมีขนาดเล็ก แต่ก็มีมุมของการมองเห็นได้กว้างพอสมควร
รางเลื่อนของประตูสไลด์ไฟฟ้า
ล้ออัลลอยที่ให้มา มีความแวววาวสวยงามคล้ายสแตนเลส เงางามกับแสงไฟ
ประตูสไลด์ไฟฟ้า ใช้เวลาปิดและเปิด ประมาณ 4 วินาที อาจจะช้า แต่เพื่อความปลอดภัย ป้องกันประตูหนีบหรือทับ
้Honda Freed ไม่มีช่องสำหรับติดตั้งไฟตัดหมอกเพิ่มเติม อาจจำเป็นต้องใช้ในบางโอกาส แต่หากใช้งานในเมืองกรุง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น
สเปคด้านเครื่องยนต์
มีให้เลือก 4 สี คือ สีเงิน สีดำ สีน้ำตาล และสีขาว
โดยรวมก็ถือว่า มีดีไซน์ภายนอกที่สวยงาม มีอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวทั้งจากฮอนด้าและผู้ผลิตรายอื่น
ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย มีมาให้แล้วจากโรงงานในทุกรุ่นย่อย
ปุ่มกดที่กุญญแจรีโมท
ด้านหลังของกุญแจรีโมท
เมื่อถอยหลัง จอภาพจะดึงภาพจากกล้องท้ายรถเข้ามา พร้อมเส้นกะระยะจอด จุดนี้อำนวยความสะดวกได้เยอะ
มาตรวัดเรืองแสง พร้อมแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน จากการทดสอบขับในย่านชานเมืองที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น วัดได้ 10.9 กิโลเมตร/ลิตร หากขับทางไกลที่ทำความเร็วได้ดีและใช้ความเร็วต่อเนื่อง จะประหยัดกว่านี้อีกมาก
ปุ่มสั่งงานจอภาพในมาตรวัดเรืองแสง
สรุปการทดสอบขับ
เราได้ทดสอบขับ Honda Freed บนถนนนครอินทร์และราชพฤกษ์ในเวลากลางวัน ที่มีการจราจรหนาแน่น อากาศร้อน แต่ก็มีความประทับใจหลายอย่างในรถคันนี้ และมีข้อสังเกตบางอย่างที่พบได้ ดังนี้
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
จุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง ที่มีเฉพาะใน Honda Freed ก็คือ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อได้ทันที โดยไม่เปรียบเทียบกับคู่แข่ง เป็นจุดเด่นที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้บางคนอาจจะขยับงบไปเลือก Honda CR-V หรือ Isuzu MU-X (ที่มีราคาเกิน 1 ล้านบาททั้งคู่) ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ว่าให้ความสำคัญกับเรื่องของจำนวนที่นั่ง หรือเครื่องยนต์ หรือความสะดวกในการเข้า-ออกจากตัวรถ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Honda Freed อิสระลงตัวทุกรูปแบบการใช้ชีวิต "