TEST DRIVE : รีวิว Honda HR-V EL ที่สุดของ Compact SUV ยอดนิยมในยุคนี้
ถือว่าฮอนด้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับการเปิดตัว Honda HR-V รถยนต์ Crossover ขนาด Compact SUV ได้ถูกช่วงถูกเวลา สร้างความฮือฮาตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว ยอดจองถล่มทลาย คิวส่งมอบยาวเหยียด เพราะผลิตไม่ทันขาย ตั้งแต่ไตรมาส 4/2557 มาจนถึงวันที่เขียนบทความรีวิวชิ้นนี้ก็อยู่ในช่วงไตรมาส 1/2558 กระแสความแรงก็ยังคงแรงดีต่อเนื่อง ใครสั่งตัว TOP ยังรอเป็นเดือนเลย ไม่มีแผ่วลง มั่นใจยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ 2558 เดือนเมษายนนี้ ก็ยังคงล้นทะลักเช่นเดิม
ด้วยราคาขายของ HR-V ที่ใกล้เคียงกับรถเก๋งอย่าง Honda Civic ทำให้หลายคนเริ่มคิด เริ่มเปลี่ยนใจไปใช้รถยนต์อเนกประสงค์สไตล์ SUV กันมากขึ้น เพราะให้ประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า ดูดี สวยงาม เหมาะกับการขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด บรรทุกสัมภาระได้มากกว่า พับเบาะหลังใส่รถจักรยานได้ทั้งคัน เป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนเริ่มสนใจรถยนต์ประเภท SUV แทนรถเก๋งกันมากขึ้น ในงบประมาณเท่าเดิม
ในบทความนี้ เป็นการรีวิวฮอนด้า เอชอาร์-วี รุ่น EL (ท็อปสุด) ราคา 1,045,000 บาท อาจจะมองว่าราคาแพงกว่าคู่แข่งมาก แต่ถ้าได้อ่านจนจบ ก็จะรู้ว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ออพชั่นที่มากกว่าและใช้ประโยชน์ได้จริง จึงทำให้ HR-V มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดรถ Compact SUV นอกจากนั้นก็ยังมีรุ่น S (890,000 บาท) กับ E (975,000 บาท) ให้เลือกเช่นกันตามแต่งบประมาณ
รูปลักษณ์ภายนอก สไตล์ Sport Crossover
เส้นสายด้านข้างตัวรถ ลากขึ้นไปถึงมือจับประตูด้านหลังที่ย้ายขึ้นไปในตำแหน่งใกล้หน้าต่างอย่างรถ Sport Coupe มาดูดีไซน์รอบคันในมุมกว้างกันก่อน
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้าสอดรับกับแนวกระจังหน้าแบบ H-Design
กระจังหน้าเป็นพลาสติกสีดำ มีแถบโครเมียมคาด ได้อารมณ์สปอร์ต
เส้นสายด้านข้างดูสวยงามลงตัว ฉีกแนวจากพี่ใหญ่ Honda CR-V
ไฟท้ายดีไซน์แปลกใหม่สำหรับคนไทย
เจาะลึกกันทีละส่วน เริ่มจากไฟหน้าตาเพชรคู่แบบ LED มีไฟ Daytime Running Light อยู่ที่ฐานของโคมไฟเช่นเดียวกับไฟเลี้ยวที่อยู่ใต้ไฟหรี่ขนาดใหญ่
ไฟท้ายแบบ Tube สไตล์รถยุโรป และไฟเบรคแบบ LED ส่วนไฟถอยหลังกับไฟเลี้ยวใช้หลอดไฟธรรมดา
กล้องมองหลัง ช่วยกะระยะถอยจอด เปลี่ยนมุมมองได้ 3 แบบ
มือจับประตูด้านหลังอยู่ใกล้หน้าต่าง เปิดได้ไม่ยาก
หลังคาแบบ Panoramic Sunroof
เปิดรับลม เปิดมาก-น้อยได้ความต้องการ ไม่ต้องเปิดจนสุดก็ได้ บางคนอาจจะชอบเปิดแง้มมากกว่า
แผ่นกันแสงทึบใต้หลังคาห้องโดยสารจะเลือกเปิดรับแสงแค่ไหนก็ได้เช่นกัน หากเปิดรับแสงจนสุด แสงภายนอกจะส่องเข้ามาถึงห้องโดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง ได้บรรยากาศที่กว้างกว่าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน จึงเรียกว่า Panoramic Sunroof นั่นเอง ในกรณีที่ต้องการรับแสงแต่ไม่รับลมจากภายนอก ก็ปิดกระจก Sunroof แล้วเปิดรับแสงเข้ามาอย่างเดียว น่าจะเหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยมากกว่า
รองรับน้ำมัน Gasohol E85 ก็เป็นอีกจุดเด่นที่คู่แข่งของ HR-V นั้นยังไม่มี
เสาอากาศวิทยุแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ใต้ท้องรถยกสูง 185 mm. ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางที่ให้มากับรถ มีขนาด 215/55 R17
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ SOHC 1.8 ลิตร i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลัง 141 แรงม้า ที่ 6500 รอบต่อนาที
ภายในห้องโดยสาร กว้างขวางหรูหราระดับ Premium
ทัศนวิสัยดี มุมมองกว้างไกล เสาหลังคาไม่ค่อยบดบังมุมมองขณะเลี้ยวเท่าไรนัก
เสาหลังคาด้านหลัง มีความหนา แต่ถอยจอดได้สะดวกด้วยกล้องมองหลัง ไม่ต้องหันกลับมามอง
กระจกมองข้าง มีขนาดเล็กและมุมแคบไปหน่อย
ผนังประตู ตกแต่งด้วยวัสดุที่ดี เป็นหนังเทียมที่มีความนุ่มน่าสัมผัส ทนทาน ทำความสะอาดง่าย
ปุ่มปรับกระจกมองข้างและหน้าต่างในฝั่งคนขับ มีโครเมียมล้อมกรอบลำโพงและที่เปิดประตู ดูหรูหราดีทีเดียว
เบาะหนังสีดำขนาดปกติ ไม่ใหญ่เท่า Accord หรือ CR-V
ความสบายในการนั่ง ก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง คล้ายกับ Civic
เบาะนั่งสามารถปรับความสูงได้หลายระดับ รองรับผู้ขับขี่ได้ทุกสรีระ
ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะคู่หน้ามาให้ด้วย
เข็มขัดนิรภัยปรับระดับความสูงตามระดับไหล่ได้
มือจับที่แนวเพดานห้องโดยสาร มีให้ครบทั้ง 4 ตำแหน่ง
ที่พิงศีรษะ ทำมุมเหมาะสม ไม่โน้มเอนเข้ามาทิ่มท้ายทอยจนรำคาญเหมือนฮอนด้าบางรุ่นในอดีต
มีม่านนิรภัย ติดตั้งไว้ที่เสาหลังคาด้วยเช่นกัน
มีลำโพงเสียงแหลมติดตั้ง ยิงเสียงสะท้อนมุมกับกระจกหน้ารถ เข้าหาผู้โดยสารและผู้ขับ พร้อม Rain Sensor ตรวจจับน้ำฝนบนกระจก สั่งให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ
มีที่พักเท้าซ้าย มีคันโยกเปิดฝาถังน้ำมันและฝากระโปรงหน้ารถอยู่ที่ด้านขวาของคันเร่ง
กระจกส่องหน้ามีไฟส่องสว่างทั้ง 2 ที่นั่ง
กระจกมองหลังแบบตัดแสงไฟสะท้อนอัตโนมัติ ปุ่มเปิดปิด Panoramic Sunroof ใช้งานได้สะดวก ไฟส่องแผนที่แบบ LED สีขาว ลำแสงยิงตรงส่องสว่างในระยะ 1 ฟุต
– มาดูกันต่อในส่วนของ Cockpit ตรงกลางพวงมาลัย ซ้ายมือ ปุ่มสั่งงานเครื่องเสียง และขวามือ เป็นปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control
– ถัดมาด้านล่าง ฝั่งซ้าย ปุ่มสั่งงานโทรศัพท์ วางสาย รับสาย และ ฝั่งขวาสั่งงานหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
มี Paddle Shift 7 Speed ขับสนุก พวงมาลัยหุ้มหนัง แต่จับไม่กระชับมือ เพราะมีขนาดเล็ก
Eco Coaching ไฟวงแหวนเปลี่ยนสีตามระดับการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน
ปุ่ม ECON ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ก็คงความแรง ขับสนุก
หน้าจอระบบสัมผัส แสดงข้อมูลการขับขี่และความบันเทิงภายในรถ เครื่องปรับอากาศใช้งานง่าย ปุ่มระบบสัมผัส หน้าจอสว่าง มองเห็นได้ชัดเจนดีทั้งกลางวันและกลางคืน ทางขวาของแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ เป็นปุ่มกดสตาร์ตเครื่องยนต์
เกียร์อัตโนมัติ CVT เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลพอสมควร
ปุ่ม Auto Brake Hold ช่วยให้ไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ในขณะจอดติดไฟแดง จะคลายเบรคอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่งออกตัว เบรคมือระบบไฟฟ้าเพียงแค่กดปุ่ม P
ช่องวางขวดน้ำ แก้วน้ำ และพนักวางแขน
ใต้ฐานเกียร์ มีช่องต่อ USB 2 ช่อง, HDMI 1 ช่องสำหรับส่งภาพไปแสดงผลที่หน้าจอหลักของ HR-V และช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ผู้โดยสารตอนหน้าเข้าออกได้สะดวก ไม่ต้องปีนขึ้นหรือย่อตัวลงมา
เบาะที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า ไม่สามารถปรับความสูงได้
ช่องเก็บของและเอกสาร
มาดูห้องโดยสารตอนหลังกันบ้าง
ประตูหลัง บานไม่ใหญ่ เพราะรถมีความยาวไม่มากนัก เปิดได้ไม่กว้างนัก ไม่มีปัญหาในการเข้าออกสำหรับผู้โดยสารที่มีสรีระปกติ เพดานห้องโดยสาร ไม่เตี้ยเกินไปจนอึดอัดหรือชนศีรษะ แต่ก็ไม่ได้สูงโปร่งโล่งสบายเท่าไรนัก
Leg room มากเหลือเฟือ ระยะห่างของหัวเข่าจนถึงเบาะหน้า ยังเหลืออีก 10 ซม. สอดเท้าใต้เบาะหน้าได้ มีช่องใส่หนังสือที่หลังเบาะคู่หน้าให้ด้วย
พื้นห้องโดยสาร มีพรมมาให้จากโรงงาน ดูเรียบร้อยดีมาก แต่ไม่มีช่องลมเครื่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
เบาะรองนั่ง ก็ไม่ได้สั้นเกินไป นั่งได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
มีที่วางแขนขนาดเล็กน่ารัก ๆ
ที่พิงศีรษะ ค่อนข้างนุ่มดี ปรับระดับหรือถอดออกก็ได้
เปิดดูห้องเก็บสัมภาระท้ายรถกันหน่อย เพราะพับเบาะหลัง เพิ่มพื้นที่การวางได้อีกเยอะ
ฝาท้ายมีช่องมีจับ น้ำหนักถือว่าค่อนข้างหนักเหมือนกัน โช้คช่วยผ่อนแรงได้ในระดับหนึ่ง
พื้นที่วางสัมภาระท้ายรถ ถือว่าไม่น้อย มีสวิตช์ไฟส่องสว่างให้ด้วย เปิดปิดเองตามความต้องการ
ยางอะไหล่และเครื่องมือเปลี่ยนล้อ อยู่ใต้พื้นห้องวางสัมภาระ
เพิ่มพื้นที่ในการจัดวางสัมภาระด้วยการพับเบาะหลังลงมา ให้สังเกตว่าพื้นเป็นระนาบเดียวกันพอดี
เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย
กุญแจอัจฉริยะ หากมีกุญแจอยู่ในรถ รถจะไม่ล็อคอัตโนมัติ ตำแหน่งที่อยู่ของกุญแจทำงานสัมพันธ์กับระบบล็อค
กล้องมองหลัง ช่วยกะระยะในขณะถอยจอดไปตามองศาการหักเลี้ยว เปลี่ยนมุมมองกล้องได้ 3 แบบ
เมนูหลักในหน้า Home ของระบบ Infotainment ซึ่งไม่มีระบบนำทาง
เก็บสถิติการขับขี่และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างละเอียด
คำนวณระยะทางที่วิ่งได้จากปริมาณน้ำมันที่คงเหลือในถัง
รองรับ Input มากถึง 8 ช่องให้เลือกใช้ ในส่วนของ HDMI จะมาทั้งภาพและเสียง
วิทยุ FM ทำงานได้รวดเร็ว ระบบสัมผัสของหน้าจอ ทำงานได้ดีมาก ดีกว่า Honda รุ่นก่อนหน้า
กำลังขับของเครื่องขยายเสียง มากเหลือเฟือ ปรับทุ้มแหลมเห็นผลได้ชัด
ปรับตั้งค่าได้มากมาย ความสว่างของหน้าจอ พอจะสู้แสงกลางแจ้งได้ดีขึ้นเล็กน้อย
รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi
ทดสอบขับฮอนด้า เอชอาร์-วี
ทีมงานได้ทดสอบขับ Honda HR-V EL บนถนนราชพฤกษ์ นครอินทร์ เลี่ยงเมืองนนทบุรี ไปจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ทดลองวิ่ง ซึ่งถนนสายใหม่เหล่านี้สามารถขับในความเร็วสูงได้ ใช้ทดสอบการเข้าโค้งและทดสอบเบรคกะทันหันได้ดี โดยไม่สร้างปัญหาให้กับเพื่อนร่วมทางและชุมชนข้างทางที่ส่วนใหญ่เป็นป่าหญ้า
สิ่งที่น่าประทับใจ
ข้อสังเกตุ
ตัวเลือกอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like + Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยครับ
หรือมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
อยากทราบเหตุผลของ บ.ฮอนด้า ประเทศไทย ทำไม HR-V จึงไม่มีสีแดง เหมือนต่างประเทศ
ข้อมูลละเอียดดีมากเลยค่ะ อ่านดูตรงไปตรงมาดี ถ้ามีข้อมูลรุ่น BR-V เมื่อไหร่ ลงให้อ่านกันจะมีประโยชน์และขอบคุณมากเลยค่ะ
ขอบคุณมากครับ K.ศมนรัตน์ อย่าลืมแวะมาบ่อยๆนะครับ ^__^