รีวิว Kawasaki Z900 แรดตัวใหม่ ทดแทน Z800 แรงขึ้น ควบคุมง่ายกว่าแถมเป็นมิตรกว่าเดิม
ย้อนกลับไปที่งาน EICMA 2016 ทาง Kawasaki ได้เปิดตัว KAWASAKI900 ใหม่ และหลังจากนั้นเพียง 2 วัน ทาง Kawasaki Motors ประเทศไทย ก็ได้เปิดตัวตามมาติดๆ ซึ่งสร้างความฮือฮา ให้นักบิดชาวไทยไม่น้อย ด้วยระดับราคาเริ่มไม่ถึง 4 แสนบาท กับพิกัดเครื่องยนต์เกือบเต็ม 1 ลิตร
และหลังจากที่ผ่านมาทาง 9carthai เราได้ประเดิมรีวิว 2017 Kawasaki Ninja 650 และ Z650 กันไปแล้ว ในวันนี้ขอมานำเสนอกันต่อกับรถที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากของค่ายยักษ์เขียวกันต่อกับ KAWASAKI Z900 แรดผู้พี่คันล่าสุดนี้กันครับ
สำหรับรถ Kawasaki Z900 ที่เราได้มาทดสอบคันนี้ เป็นสีเทาดำ PEARL MYSTIC GRAY / METALLIC FLAT SPARK BLACK ซึ่งมีราคา 3.99 แสนบาท ซึ่งเป็นสีไฮไลท์ของเจ้า Z900 เลยก็ว่าได้
รูปลักษณ์ภายนอก Kawasaki Z900 ใหม่ ถือเป็นรถที่มีรูปลักษณ์ในแบบ Super Naked ไซส์ Heavy Weight ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบตามหลัก “Sugomi” แปลว่า ดุดัน, โหดร้าย ในภาษาญี่ปุ่น เหมือนอย่าง Z Series คันอื่นๆ
มองผิวเผิน KAWASAKI Z900 มีขนาดตัวพอๆกับ KAWASAKI Z800 ด้วยทรงถังน้ำมันที่ขนาดใหญ่ ทำให้ Z900 คันนี้ ดูมีมัดกล้ามเนื้อ แกร่งและดุดัน
ไฟหน้าใหม่ อาจจะไม่เฉียบคมเหมือน Z800 ซึ่งบางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนไฟเลี้ยวหน้า ถูกยกขึ้นไปอยู่ทางด้านบน
ไฟท้ายแบบเดียวกับ Z650 ด้านเบาะท้ายมีขนาดเล็กลงกว่า Z800 อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทิศทางเป็นไปในแบบรถ Supersport
ตัวเบาะนั่งเป็นลวดลายคล้ายเกล็ดหนังงู แทนโลโก้ Z ที่พบใน Z800
สำหรับตัวเฟรม Z800 เดิมจะถูกชุดแฟริ่งปกคลุมอยู่ แต่ใน Z900 จะเปลือยให้เห็นเฟรมเหล็ก Trellis ในสีเทาดำคันนี้จะเป็นเฟรมสีเขียว ได้แรงบันดาลใจมาจาก Ninja H2R
ปลายท่อดีไซน์ใหม่ สวยงามกว่าเดิม ตกแต่งแผ่นกันความร้อนและขอบปลาย สแตนเลสที่ดูเงางามยิ่งขึ้น
ด้านยางยังใช้ซีรีย์เดิมจาก Dunlop Sportmax D214 หน้าขนาด 120/70 ZR17 หลังไซส์ 180/55 ZR17
มาตรวัด Z900 ใช้รูปแบบเดียวกับ Z650 แต่เพิ่มลูกเล่นตรงการแสดงผลมาตรวัดรอบเครื่อง ที่เป็นสเกล LCD ปรับรูปแบบแสดงผลได้ 3 แบบ และจะมีการกระพริบเตือนเป็น Shift Light Indicator ในตัวอีกด้วย โดยการกดปุ่มทั้งซ้าย-ขวา บนมาตรวัดพร้อมกัน
สวิทช์ไฟซ้ายให้ไฟฉุกเฉิน และไฟ Pass ในแบบที่ควรจะมี
ด้านก้านคลัทช์ และก้านเบรกปรับได้ 5 ระดับ
มิติรถ
Z900 ใช้เฟรมแบบใหม่ ซึ่งหนักเพียง 13.5 กก. (เฟรม Z650 หนัก 15 กก.) ทำให้ Z900 น้ำหนักตัวเหลือเพียง 210.5 กก. เบาลงกว่า Z800 ร่วม 20 กก. และหนักกว่า ER-6n เพียง 4 กก. เท่านั้น
ขนาดถังน้ำมันใหญ่และจุเหมือนเดิม 17 ลิตร
เบาะเตี้ยลงอยู่ที่ระดับ 794 มม. เหมาะสมกับสรีระนักบิดชาวเอเชียมากขึ้น
ท่านั่ง
ด้วยความสูงเบาะเพียง 794 มม. ทำให้ผู้เขียนที่สูง 174 ซม. ยืนเหยียบได้เต็มเท้าเข่างอเล็กน้อย ให้ความมั่นคงในการควบคุมเป็นอย่างดี
ตำแหน่งแฮนด์ เมื่อเทียบกับ Z650 จะเตี้ยกว่า และมีความยาวมากกว่า องศาใกล้เคียงกับ Z800
นั่นจึงทำให้วงเลี้ยวการขี่ซอกแซกจะสู้ Z650 ไม่ได้ แต่การขี่ทางยาวๆ จะเมื่อยแขนน้อยกว่า ด้วยตำแหน่งแฮนด์ที่ต่ำและยาวกว่า รวมไปถึงการออกแบบท่านั่งที่ตั้งตรงกว่า Z800 และ Z1000 ทำให้ไม่ต้องโน้มตัวเยอะ จึงทำให้สบายกว่าด้วย
เบาะท้ายนั้นกลับมีขนาดเล็กมาก (เล็กกว่า Z1000) หากขี่ซ้อนในเมืองเดินทางใกล้ๆ ก็น่าจะไม่เมื่อยอะไรนัก แต่ถ้าเดินทางไกล มีเมื่อยง่ามก้นกันบ้างแน่ๆ รวมไปถึงหากคุณแฟน ก้นใหญ่ ละก็อาจมีบ่นได้แน่นอน
มีจุดหนึ่งที่ผู้เขียนไม่ค่อยชอบนัก นั่นก็คือ กระจก Z-Series ที่เป็นเหมือนกันแทบทุกรุ่น ซึ่งดูจะหลุดง่าย หากขี่ด้วยความเร็วสูง รวมไปถึงจังหวะที่เข็นรถ และข้อศอกไปโดนทำให้ กระจกหลุดออกจากตำแหน่งล็อก และต้องขันใหม่ ซึ่งค่อนข้างลำบากทีเดียว
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง บล็อกใหม่ความจุสูงถึง 948cc (Oversized) DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ซึ่งมอบกำลังที่มากกว่า Z800 ถึง 12 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 15Nm ทำให้กำลังเครื่องบล็อกนี้อยู่ที่ 125PS@9,500rpm และแรงบิด 98.6Nm@7,700rpm
การเซ็ทอัตราทดเกียร์ ช่วงเกียร์ 1-5 ทดชิด และช่วงเกียร์ 6 เป็น Overdrive ซึ่งเน้นต้นที่จี๊ดจ๊าดเอาเรื่อง
เอาล่ะพร้อมแล้วติดเครื่องยนต์ทันที ลองเบิ้ลเครื่องฟังเสียงกันเสียหน่อย ช่วงรอบกลางถึงสูง ให้ซุ่มเสียงที่ดุดันเอาเรื่อง โทนทุ้มปนแหลมๆ บาดหูนิดๆ สร้างความเร้าใจ ให้หัวใจสูบฉีดเต้นแรงไม่น้อยเลย
ออกตัวกำคลัทช์เตะเกียร์ นิ่มนิ้วดีแท้ อานิสงค์จาก Assist &Slipper Clutch นั่นเองทำให้เราไม่ต้องเมื่อยนิ้วมือซ้ายอีกต่อไปแม้ต้องเจอกับการขี่ในเมืองที่รถติด การออกตัวในช่วงต้นนั้น ทำได้แบบนิ่มนวลในสไตล์เครื่องยนต์ 4 สูบ แต่แฝงด้วยซุ่มเสียงที่มีพละกำลังอย่างล้นเหลือ แต่ก็ต้องระมัดระวังอย่าเผลอกระแทกคันเร่งพรวดพราดเอาล่ะ อาจมีเหวอได้
แน่นอนว่ามันไม่ได้ออกตัวแบบดีด ในแบบเครื่องยนต์ 2 สูบ เนื่องจากสไตล์เครื่อง 4 สูบที่ออก Smooth แต่ทว่าการออกตัวยัดคันเร่งหนักๆ รอบกวาดระดับ 5,000rpm+ จะสร้างแรงดึงให้หวาดเสียวสันหลังเอาได้เหมือนกัน
จากที่ผู้เขียนได้เคยทดสอบ Z800 มาเมื่อราว 3 ปีครึ่งที่แล้ว ยังพอจำความรู้สึกได้ลางๆ เมื่อเทียบกับ Z900 คันนี้แล้ว แรงกว่า ให้อัตราเร่งที่จี๊ดจ๊าดดุดันกว่า พอควร ซึ่งได้อานิสงค์ทั้งจาก น้ำหนักที่เบาลง และอัตราทดเกียร์ 5 เกียร์แรกที่ชิดพอสมควร
นอกจากนี้ การกระแทกคันเร่งเพื่อแซง จากความเร็วในระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไป จากตำแหน่งเกียร์ 6 ถือว่าทำได้ดี ไม่จำเป็นต้อง Shift down เกียร์ลงมาเพื่อเค้นกำลังนัก
น่าเสียดายที่ผู้เขียนไม่มีโอกาสได้ลองรถยาวๆ อย่างเต็มที่นัก เนื่องจากเป็นข่วงที่ฝนตกทุกวัน จึงไม่มีโอกาสได้เดินทางไกล ได้แต่การใช้งานบริเวณในเมือง และรอบชานเมืองซึ่ง ความเร็วเดินทางส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 120-140 กม./ชม. ซึ่งพบว่าอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้นั้นจะอยู่ในช่วง 17-18 ก.ม./ลิตร กับการใช้งานในเมือง + ชานเมือง
ขณะที่ความร้อนนั้น ก็ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ของเครื่องยนต์รถญี่ปุ่นในรถระดับเกือบลิตร ร้อนพอสมควรแต่ก็ไม่มากจนอึดอัด ซึ่งโดยรวมหากขี่รถยุโรปมาก่อนแล้ว Z900 นี้ถือได้ว่าสบายๆ
ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า UpSideDown ขนาดแกน 41 มม. ปรับ Rebound ได้จากทางแกนโช้กฝั่งซ้าย และ Preload ได้จากทางแกนโช้กฝั่งขวา
ด้านหลังโช้กเดี่ยว Mono Shock วางนอนแบบ Horizon Back Link พร้อมกระเดื่องทดแรง วางอยู่บน swingarm อลูมีนัม ปรับ Rebound และ Preload ได้เช่นกัน
ช่วงล่างถือว่า เซ็ทออกมาให้ควบคู่กันทั้งสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ต และยังคงให้ความสะดวกสบายในการขี่อยู่ด้วยบ้าง
แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังดูแข็งและเฟิร์มกว่า Z650 อย่างชัดเจน สำหรับการขับขี่แบบทั่วๆ ไปนั้น จะค่อนไปทางแข็งเสียหน่อย แต่หากขี่ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น มันทำหน้าที่ได้อย่างค่อนข้างดีเลยทีเดียว ซึ่งสัมผัสได้ถึงการยึดเกาะที่ดีกว่า Z650 ที่เน้นไปในเชิงโดยสารอย่างผ่อนคลายเสียมากกว่า
อย่างไรก็ดีการควบคุมในการเข้าโค้งด้วยสไตล์รถที่มีบอดี้ขนาดใหญ่ แต่หัวเบา และตำแหน่งแฮนด์ที่ดูกางและเตี้ยอาจทำให้มันขี่เลี้ยวในวงแคบลำบากไปหน่อย ขณะที่ในโค้งความเร็วก็เหมาะแก่การเข้าโค้งในท่าทางแบบแบะแทงศอกเอาซึ่งดูเท่ไม่เบาทีเดียว
ระบบเบรก ABS ด้านหน้าใช้จานดิสก์หน้าคู่ขนาด 300 มม. ปั๊มเบรก Nissin 4 ลูกสูบ
เบรกหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 250 มม. คาลิปเปอร์ 1 สูบ จาก Nissin เช่นกัน
ด้วยการใช้ขนาดจานที่ใหญ่ขึ้นกว่า Z800 ทั้งหน้า-หลัง เพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการการชะลอความเร็ว จากกำลังที่เพิ่มขึ้น
ให้ความรู้สึกเบรกได้มั่นใจดีขึ้น และถ้าหากเทียบกับคลาส 650 ที่พึ่งทดสอบมาไม่นานพบว่า ประสิทธิภาพในปั๊มเบรก 4 สูบ นี้เมื่อต้องหยุดกำลัง 125 แรงม้า ทำได้ดีกว่า 2 ลูกสูบที่ต้องหยุดกำลังเพียง 68 แรงม้า อย่างรู้สึกได้
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ระบบเบรก ABS ที่มีเข้ามาใน Z900 ทำให้ คุณสามารถกดแรงเบรกได้เต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงเกรงว่าล้อจะล็อกแบบใน Z800 อีกต่อไป รวมไปถึงฟีลลิ่งของเบรกหลัง ที่ไม่รู้สึกได้ว่า ABS ทำงานไวจนน่ารำคาญ เหมือนอย่างที่พบใน Z650 อีกด้วย
สรุป
Kawasaki Z900 แรดผู้พี่คันใหม่ จาก Kawasaki ตัวตายตัวแทน Z800 แรงขึ้นแต่เป็นมิตรกว่าเดิม ทั้งในด้านของการควบคุม น้ำหนัก ความสูงเบาะ จึงทำให้ผู้ขี่ใช้งานทั่วไปมีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงให้ความคล่องแคล่วขึ้นกว่าเดิมพอสมควร แม้ว่าระบบเทคโนโลยีช่วยการขับขี่จะมีเพียง ABS เท่านั้น ก็ถือว่าเพียงพอกับสไตล์เครื่องยนต์ 4 สูบ อาจจะยังไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ระบบ TCS และ Riding Mode เข้ามานัก
โดยรวมแล้วกับการที่เป็นรถในระดับ 4 แสนบาท 4 สูบเรียงและมีกำลังสูงถึงเกือบๆ รถพิกัด 1 ลิตร ทำให้ผู้ที่มองหา Naked คลาส 1 ลิตร ยังต้องหันมามองเพราะมันราคาถูกกว่าถึงราว 2 แสนบาทเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่ต้องการรุ่นตกแต่ง ทาง Kawasaki Motors ประเทศไทยได้เพิ่มรุ่นพิเศษ Z900 HG ราคา 4.29 แสนบาท ที่มากับสีพิเศษ CANDY PLASMA BLUE/METALLIC GRAPHITE GRAY ให้เลือกอีกด้วย
จุดเด่น
ข้อสังเกต
ขอขอบคุณ Kawasaki Motaoholic สำหรับรถทดสอบ Kawasaki Z900 สีเทา/ดำ Pearl Mystic Gray/Metallic Spark Black
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver & Photo 9carthai
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Kawasaki Z900 แรดตัวใหม่ ทดแทน Z800 แรงขึ้น ควบคุมง่ายกว่าแถมเป็นมิตรกว่าเดิม "