Group Test : รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
แม้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 2562 จะถดถอยลงไปด้วยพิษเศรษฐกิจ แต่จากข้อมูลเชิงลึกพบว่ารถยนต์ในกลุ่ม SUV นั้น กลับมีการเติบโตสวนทางถึง 3% ซึ่งนั่นจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ Mazda เสริมทัพยนตรกรรม Compact SUV รุ่นใหม่ ลุยตลาดเมืองไทย
โดย Mazda ยกให้ All-New Mazda CX-30 นั้น เป็น Flagship โมเดล สำหรับตลาดรถในกลุ่ม SUV เลยทีเดียว
ทั้งนี้ Mazda CX-30 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ 2563 และถูกนำไปโชว์ตัวให้ลูกค้าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดที่ศูนย์บริการ Mazda ในวันที่ 14 – 15 มีนาคมที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในสถานการณ์ของเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ทว่า Mazda CX-30 กลับมียอดจองสูงถึง 1,500 คัน (ภายในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์) จากการจองผ่านช่องทางออนไลน์ skybooking.mazda.co.th
เหตุใด Mazda CX-30 จึงเป็นที่หมายปอง และได้รับกระแสตอบรับที่ดี วันนี้ทีมงาน 9carthai.com ได้ไปทดลองขับมาแล้ว จะชี้แจงให้ได้ทราบกัน
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ทางทีมงาน 9carthai.com ถูกจัดให้ได้ขับ Mazda CX-30 รุ่น SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด
โดยใช้เส้นทางทดสอบจาก จ.พิษณุโลก – จ.ขอนแก่น วิ่งผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องขับขึ้นเขา – ลงเขาแบบสองเลนสวน เพื่อทดสอบสมรรถนะของอัตราเร่ง และมีโค้งซ้าย-ขวาให้ได้ทดสอบระบบช่วงล่างไม่ต่ำกว่า 200 โค้ง โดยมีระยะทางรวมกว่า 300 กม.
จุดเด่นและไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ใครหลายคนเลือก Mazda CX-30 อย่างไม่ลังเลใจเลยก็คือ ดีไซน์การออกแบบที่พิถีพิถัน สะท้อนภาพลักษณ์อันสง่างามของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี โดยยังคงมาพร้อมปรัชญาการออกแบบ KODO: Soul of Motion ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mazda
Mazda CX-30 มาพร้อมกับตัวถังแบบ Compact SUV 5 ประตู หลังคาท้ายลาดสไตล์รถสปอร์ตคูเป้
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED Signature สอดรับกับกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตพร้อมกรอบโครเมียม
กันชนหน้า – กันชนท้ายสีดำตัดกับสีตัวถัง เข้าชุดกับคิ้วล้อที่ช่วยบ่งบอกความเป็นรถ SUV
สปอยเลอร์ท้ายสีดำ, ประตูท้ายเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ไฟท้ายดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบ LED Signature
ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18″ รัดด้วยยาง Dunlop 215/55R18
มิติตัวถังของ Mazda CX-30
นอกจากดีไซน์ภายนอกที่ดูดีมีระดับแล้ว ภายในของ Mazda CX-30 ยังมาพร้อมกับความหรูหรา ด้วยห้องโดยสารสีทูโทน (ดำ – น้ำตาลเข้ม) ตกแต่งด้วยวัสดุ Soft Touch เกรดพรีเมียมคุณภาพสูง
เบาะนั่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อโอบกระชับและรองรับกับสรีระในท่วงท่ากับขับขี่ที่เป็นธรรมชาติที่สุด ช่วยลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง
สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอล TFT แสดงข้อมูลผ่านจอ LCD ขนาด 7″ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งของดีที่มีให้เฉพาะรถยนต์ Mazda เท่านั้น
ส่วนด้านบนคอนโซลหน้ามาพร้อม Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว สั่งการผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay
แต่ไฮไลท์เด็ดสุดเห็นทีจะเป็นระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ซึ่งจุดนี้บอกเลยช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ได้ดีเป็นอย่างมาก ระบบเสียงยกให้เป็นที่สุดในคลาสเลยทีเดียว อีกทั้ง Mazda CX-30 ยังมาพร้อมกับหลังคา Panoramic Sunroof
ส่วนห้องโดยสารตอนหลังนั้น บอกตรงๆ ว่ายังมีขนาดที่แคบและเล็กกว่าเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน แต่ยังคงให้ท่วงท่าการนั่งที่สบาย
ช่องว่างระหว่างหัวเข่าของผู้เขียนเหลือระยะแบบพอดิบพอดี ส่วนความสูงระหว่างศรีษะก็ยังเหลือพอให้หายใจได้สะดวกไม่อึดอัด (ผู้เขียนสูง 168 ซม.)
แต่สำหรับผู้โดยสารที่มีขนาดตัวที่ใหญ่และสูงระดับ 180 ซม. อาจจะนั่งอึดอัดเล็กน้อย ซึ่งก็ต้องยอมแลกมาด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว ซึ่งจุดนี้คนที่ซื้อ Mazda ต่างก็ยอมรับและเข้าใจกันดี
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกสบายตอนหลังจะมีพนักวางแขน พร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้ รวมถึงช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่คอนโซลกลาง และเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40
Mazda CX-30 มาพร้อมระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่ครบครันที่สุดในคลาส โดยมีมากถึง 12 ระบบ ได้แก่
ขุมพลังยกมาจาก Mazda 3 กับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Dive 6 สปีด รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E85 โดยทาง Mazda เคลมว่ามีอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 15.4 กม./ลิตร
แม้จะเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน ที่มีแรงม้าและแรงบิดเท่ากันก็ตาม แต่ทว่าฟิลลิ่งของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนั้น จะแตกต่างกันจนรู้สึกได้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากน้ำหนักตัวถังที่ต่างกัน รวมไปถึงจุดศูนย์ถ่วงของรถ Center of Gravity (CG) ที่ต่างกัน
อีกทั้งยังมีการปรับจูนในรายละเอียดของเครื่องยนต์เล็กน้อย ซึ่ง Mazda ระบุว่า เครื่องยนต์ของ Mazda CX-30 นั้น มีการปรับจูนใหม้เพื่อให้ได้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด และเพื่อให้ได้ค่าไอเสียที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน Co2 นั่นเอง
โดยสมรรถนะด้านอัตราเร่งของ Mazda CX-30 นั้น จะเป็นรถที่มีคาแรคเตอร์ในการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า ไม่กระโฉกโฮกฮากเหมือน Mazda 3 ที่จะดึงๆ และให้อารมณ์การขับที่สปอร์ตกว่า
ซึ่งอัตราเร่งของ Mazda CX-30 จะมาแบบเรียบร้อย แต่ถ้าก้มมองการขยับของเข็มไมล์จะรู้ได้เลยว่าไม่ได้ช้าอย่างที่คิด ออกตัวจากไฟแดงแบบนุ่มๆ รอบเกียร์ขยับเปลี่ยนที่ช่วง 3,500 รอบ/นาที ใช้เวลาไม่กี่อึดใจความเร็วก็พุ่งทะลุหลัก 120 กม./ชม. ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องออกแรงเค้น
ซึ่งถ้าอยากซิ่งขึ้นมาหน่อยก็ให้ปรับโหมดไปที่ Sport ซึ่งรอบเครื่องยนต์จะถูกดันให้สูงขึ้นเล็กน้อย และลากรอบได้ยาวขึ้น แต่ก็ไม่ได้ดึงจนหลังติดเบาะนะบอกไว้ก่อน
แม้คันเร่งจะมาแบบนุ่มลึก แต่ก็ยังแฝงฟิลลิ่งความสปอร์ตเอาไว้ให้ได้สัมผัสกันเล็กๆ น้อยๆ โดย Mazda CX-30 นั้น จะมาพร้อมกับซุ้มเสียงอันดุดันเร้าใจจากปลายท่อไอเสียคู่ ซึ่งจุดนี้ช่วยสร้างความฮึกเหิมในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ส่วนอัตราเร่งในการเร่งแซง หรือในช่วงขึ้นเนินชันๆ นั้น ต้องบอกว่าต้องออกแรง Kick Down หรือเชนจ์เกียร์ที่ Paddle Shift ช่วยสักหน่อยนะ เพราะดูเหมือนว่าจังหวะที่จะเร่งแซงจริงๆ มันดูไม่ค่อยจะทันใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเผื่อระยะให้มากความ ยังคงอยู่ในจุดที่รู้สึกได้ว่าแซงได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่ค่อยทันใจวัยรุ่นก็เท่านั้นเอง
ด้านระบบช่วงล่างของ Mazda CX-30 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแชร์แพลตฟอร์มใหม่ Skyactiv-Vehicle Architecture ร่วมกัน แต่จะมีการปรับจูนในส่วนของ Damper และ คอยล์สปริงใหม่ ให้เหมาะสมกับน้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งหากเจาะลงไปให้ลึกต้องบอกว่าช่วงล่างของ Mazda CX-30 กับ Mazda 3 นั้น แม้จะมีลักษณะที่เหมือนกัน แต่ไม่สามารถใช้อะไหล่ทดแทนกันได้เลย ซึ่ง Part Number ของช่วงล่างนั้นไม่ตรงกันสักชิ้น จะมีก็แต่จานเบรก และปั้มเบรกหลังเท่านั้นที่ใช้ร่วมกันได้
แต่ถึงอย่างนั้น สมรรถนะในการยึดเกาะถนนของ Mazda CX-30 ก็ไม่ได้เป็นรอง หรือด้อยไปกว่า Mazda 3 เลยแม้แต่น้อย ซึ่งถ้าจะให้เทียบผมบอกเลยว่าช่วงล่างของ Mazda CX-30 นั้น ดีเป็นอันดับต้นๆ ของรถในระดับเดียวกัน
โดยไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ตัวรถมีความยึดเกาะถนนสูงก็คือ ระบบช่วยเหลืออย่าง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) หรือ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ซึ่งจะเข้ามาปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนการทำงานของระบบช่วงล่างจริงๆ นั้น ต้องบอกว่ามีการเซ็ทที่นุ่มนวล นั่งสบาย ซึ่งจะแตกต่างกับ Mazda 3 ที่จะเซ็ทไว้ให้รองรับกับการขับขี่ที่สปอร์ตกว่า โดยช่วงล่างของ Mazda CX-30 นั้น ให้การซับแรงกระแทกได้ดีกว่า แต่บางสถานการณ์ก็อาจจะนิ่มเกินไปจนรู้สึกว่าย้วยๆ ไปบ้าง หากขับด้วยความเร็วที่สูงเกิน แต่ถ้าขับใช้งานในชีวิตประจำวันปกติ ผมบอกเลยว่ามันเพียงพอต่อการใช้งาน
สุดท้ายของเรื่องของระบบเบรก จุดนี้ผู้ขับต้องปรับตัวเข้าหารถสักเล็กน้อย เพราะเบรกของ Mazda CX-30 นั้น ถูกเซ็ทมาเพื่อให้กดลงไปลึกๆ (กันการเบรกหัวทิ่ม) ซึ่งแรกๆ ของการขับอาจจะไม่ชิน และมีอาการเหวอๆ กันบ้าง แต่ถ้าปรับตัวได้ก็ถือว่าปกติ เอาอยู่ทุกสถานการณ์ เพียงแต่ต้องเหยียบลงไปลึกกว่าปกติทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ด้าน Handling ของพวงมาลัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ Mazda CX-30 ถ่ายทอดออกมาได้ดี พวงมาลัยมีความเฉียบคม จังหวะการเข้าโค้งแคบๆ หรือกลับรถ U-Turn ไม่ต้องสาวพวงมาลัยกันหลายรอบ น้ำหนักพวงมาลัยกำลังดี ไม่หนักหรือเบาเกินไป ผู้หญิงขับสบาย ผู้ชายขับสนุก
บทสรุป
ราคาจำหน่าย All-New-Mazda CX-30 ดังนี้
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รีวิว All-New Isuzu D-Max แอ่วเหนือ สัมผัส “พลานุภาพ พลิกโลก”
รีวิว Toyota Yaris Cross อีโคคาร์สไตล์ครอสโอเวอร์หนึ่งเดียวในคลาส ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิต
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกความเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ
รีวิว Honda City 1.0 VTEC Turbo โอโหแรงจริง! ขับดีเกิน Eco Car
รีวิว MG HS ยนตรกรรม SUV สุดคุ้ม ขับสนุก..นั่งสบาย อ็อพชั่นจัดเต็ม ภายในหรูหราอลังการยิ่งกว่ารถยุโรป
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เทคโนโลยีเหนือชั้นกว่าเดิม ประหยัดมันสูงสุดในคลาส
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Group Test : รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต "