รีวิว MG3 Hatchback X น่ารัก ขับสนุก หัวใจสะอาดด้วย E85
MG Sales Thailand ได้แนะนำ MG3 ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่งาน Motor Expo 2014 ด้วยการเปิดตัวพร้อมกัน 2 รูปโฉม Hatchback และ Xross ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในช่วงเดือน มีค. ที่ผ่านมานี้ โดย MG3 ถือเป็นรถยนต์ B-Car (Sub-Compact) ที่จะเข้ามาทำตลาดด้วยระดับราคาที่น่าสนใจ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ร่วมกับรูปลักษณ์ที่น่ารักโดนใจ วัยรุ่น โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น 4 ราคา ได้แก่ C ราคา 479,000 บาท, D 509,000 บาท, X Sunroof 559,000 บาท และ Xross X 595,000 บาท
ซึ่งวันนี้ทาง 9carthai ของเราจะขอมานำเสนอรีวิว MG3 Hatchback X Sunroof ตัวท๊อปกันครับ
ภายนอก ของ MG3 เน้นความกระทัดรัด แถมด้วยดีไซน์สุดเก๋ แต่ยังคงความทันสมัยอยู่ด้วย ไฟหน้าโคมดำที่มีเส้นสายโฉบเฉี่ยว ไฟ DRL แบบ LED ได้ติดตั้งอยู่ทางด้านล่างของกันชน ทางด้านท้ายรูปทรงแปลกตา ด้วยไฟท้ายเรียงยาวลงตามแนวเสา C ทั้ง 2 ฝั่ง ท่อไอเสียทรงเหลี่ยมออกทางด้านซ้าย ที่ดูปลายท่อมีขนาดเล็กไปนิด แต่ถ้ามองโดยรวม จะพบว่ามุมมองทางด้านท้ายรถ ดูโดดเด่นสะดุดตา ขณะที่ล้ออัลลอยขอบ 15” ลวดลายแบบ 4 ก้านคู๋ ถูกสวมยางไซส์ 185/65/R15 จาก Maxxis MA-P1
MG3 Hatchback มีสีให้เลือก มากถึง 6 สี โดนใจวัยมันส์ ขณะที่คันทดสอบนี้เป็นรุ่น X Sunroof นี้ใช้สีแบบทูโทน เหลือง หลังคาดำ (Tudor Yellow – Black Top) มาพร้อม Sunroof ปรับด้วยไฟฟ้า นอกเหนือกจากนี้ ยังมีระบบปัดน้ำฝนออโต้ และไฟหน้าเปิด-ปิดออโต้ อีกด้วย
ด้านมิติตัวถัง MG3 Hatcback มี ความยาวxกว้างxสูง = 4,018 x 1,728 x 1,517 มม. มีระยะฐานล้อ 2,520 มม. และน้ำหนักตัวที่ 1.22 ตัน
ภายใน MG3 ตกแต่งเบาะนั่งด้วยวัสดุหนังแท้ปนหนังสังเคราะห์สีดำ ที่ดูเรียบง่าย พวงมาลัยหุ้มหนังเดินด้ายแดง มาพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง ที่ส่งกำลังขับผ่านลำโพง 6 ตำแหน่ง ผ่านเครื่องเล่นเพลง ที่รองรับ CD, MP3 โดยมีช่องเสียบ USB และ AUX in ภายในช่องเก็บของเหนือคอนโซลด้านบน
แผงแดชบอร์ดของ MG3 อาจดูโบราณไปนิด แสดงผลด้วยไฟสีแดง บอกอัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางคงเหลือ, Odometer
การจัดวางปุ่มต่างๆ ในการใช้งานอาจต้องปรับตัว เรียนรู้กับปุ่มที่มีอยู่สักระยะ เริ่มตั้งแต่ ปุ่มปลดล๊อกประตู จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับระบบปรับอากาศ สวิทช์ไฟฉุกเฉินกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งด้านข้างเบรกมือ ซึ่งอาจจะใช้งานได้ไม่ทันท่วงที โดยมีปุ่มปิด TCS อยู่ติดกัน
ภายในห้องโดยสารของ MG3 ยังใช้เทคโนโลยี NVH (Noise, Vibration and Harshness) ในการออกแบบ ซึ่งจะขจัดเสียงรบกวน และลดการสั่นสะเทือน ภายในห้องโดยสาร ซึ่งเราพบว่า MG3 นี้ให้ความเงียบ ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
พวงมาลัยหุ้มหนังเดินด้ายสีแดง รูปทรง แบบ 3 ก้าน ปลายตัน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงทางด้านซ้าย ขณะที่ทางด้านขวาเหมือนจะรองรับปุ่มสวิทช์ฟังก์ชั่นได้เพิ่มเติม ด้วยตัวพวงมาลัยที่มีขนาดใหญ่อวบอิ่มฝ่ามือ และมีพื้นที่รองรับนิ้วหัวแม่มือ จึงทำให้พวงมาลัยที่ดูเรียบง่ายวงนี้ จับได้กระชับมือไม้ดีขึ้น พื้นที่ห้องโดยสารตอนหน้าก็ไม่เล็กมากนัก มีพื้นที่เหยียดขาได้ด้วยระยะ 1,062 มม. แต่น่าเสียดายตรงที่ไม่มีที่เท้าแขนมาให้ จึงอาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้ เมื่อเดินทางไกล
พื้นที่ห้องโดยสารทางด้านท้าย มีพื้นที่อยู่ในระดับรถ Sub-Compact ทั่วๆไป นั่งโดยสารที่เบาะหลัง 3 คน หากตัวไม่ใหญ่มากก็จะพอนั่งได้ไม่อึดอัด แต่ถ้าผู้โดยสารตัวใหญ่ อาจจะมีไหล่ชนกัน สำหรับพื้นที่ Legroom นั้น ก็อยู่ในระดับไม่มากไม่น้อยไป อยู่ที่ 875 มม. ยังพอมี Space ในการวางหัวเข่าไม่ให้ติดกับเบาะนั่งด้านหน้าได้บ้าง ขณะที่ Headroom ตอนหลังพบว่าอยู่ที่ 972 มม. จากรูปทรงรถแบบท้ายเหลี่ยมตัด ทำให้มีพื้นที่เหนือศรีษะ อยู่พอสมควร มากกว่ารถที่มีรูปทรงท้ายแบบเอียงลาด
เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ช่วยให้การเก็บวางของที่มีขนาดยาวสามารถทำได้ในรถ Hatchback ท้ายสั้นคันนี้ พร้อมด้วยถาดวางของที่ห้องสัมภาระท้าย และยังมีกล่องเก็บแว่นให้ที่ควรจะเป็นตำแหน่งมือโหนประตูฝั่งคนขับ
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผันคู่ VTi-TECH พิกัดเต็ม 1,500 ซีซี กำลังสูงสุด 106 แรงม้า@6,000rpm มีแรงบิดสูงสุด 135 Nm@4,500rpm รองรับน้ำมัน E85 โดยมีความจุถังน้ำมันที่ 45 ลิตร
ในด้านของการขับขี่นั้น ถือได้ว่า MG3 มีสมรรถนะของเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับรถ B-Car ที่ใช้เครื่องพิกัด 1.5 ลิตร คันอื่นๆ การขับขี่ด้วยความเร็วในระดับ 150 กม./ชม. เมื่อเดินทางไกล ในพื้นที่โล่ง ยังไม่ถือว่ายากเย็นสำหรับ MG3 Hatchback คันนี้ ขณะที่อัตราเร่งโดยรวมถ้าไม่เครียดเค้นจนเกินไป ก็ถือว่าเป็นรถที่มีอัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากรถแบกน้ำหนักตัวถึง 1.22 ตัน เทียบเท่าน้ำหนักตัวรถ C-Car เลย
มีจุดสังเกตุหนึ่งที่เราพบ เมื่อคุณขับขี่โดยใช้รอบเครื่องต่ำมาโดยตลอด แล้วหากกด Kick Down โดยทันที เครื่องยนต์อาจจะตอบสนองต่อแป้นคันเร่งช้าไปเสียหน่อย และเมื่อเร่งเครื่องถึงราว 6,000rpm คุณอาจจะได้กลิ่นไหม้ ซึ่งมีกลิ่นคล้ายน้ำยาทำผม เข้ามาในห้องโดยสารทางด้านหน้าเล็กน้อย ซึ่งอาการนี้ผู้ทดสอบ เคยพบในรุ่น MG6 โฉมก่อน Minor Changed มาแล้วด้วย แต่เมื่อขับด้วยโหมด S แล้วใช้รอบเครื่องที่สูงในการเร่งแซง อย่างต่อเนื่องจะไม่ได้กลิ่นดังกล่าวที่ว่า
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเราพบว่า สามารถทำได้ที่ระดับ 14 กม./ลิตร เมื่อขับออกทางไกล โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยที่ระดับ 100 กม./ชม.
เกียร์ Selemetic (AMT) 5 Speed ซึ่งเป็นการทำงานในรูปแบบเกียร์ธรรมดา (Automatic Manual Transmission) แต่ต้องเหยียบคลัช เนื่องจากเป็นคลัชไฟฟ้า เราจึงเห็นตำแหน่งเกียร์ของรถคันนี้ดูแปลกๆ ไม่เหมอืน AT ทั่วไป ที่มีตำแหน่ง P R N D
ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจ เมื่อในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ เราจะพบอาการ ดึงกลับ เหมือน Engine Brake ในชั่วขณะนึง คือ “วืด”ชั่วขณะ เหมือน จังหวะเราเหยียบคลัชเพื่อโยกเข้าเกียร์ จริงๆ ok จริงที่ในบางจังหวะที่จะเร่งแซง อาจต้องเผื่อระยะก่อนจะ Kick Down ทุกครั้งเนื่องจากการตอบสนองมันจะไม่ว่องไวเหมือนอย่าง AT ทั่วไปแน่ๆ
แล้วข้อดีของมันล่ะทาง MG ได้บอกว่า การที่ระบบส่งกำลังเป็นในลักษณะเดียวกับเกียร์ธรรมดา จะช่วยให้การส่งกำลังถูกถ่ายทอดได้อย่างเต็มพละกำลัง สูญเสียกำลังน้อย ในการเปลี่ยนเกียร์ จึงเหมาะกับเครื่องยนต์บล๊อกเล็กอย่าง MG3 ที่ใช้เครื่องพิกัดเพียง 1.5 ลิตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Mode ไว้ให้กด เพื่อปรับเป็นโหมดการขับแบบ Sport อีกด้วย
ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮดรอลิก ที่มีรัศมีวงเลี้ยว 5.6 ม. มันอาจจะดูมีน้ำหนักมากไปหน่อยในช่วงออกรถเคลื่อนตัว นั่นจึงอาจทำให้การขับขี่ในเมือง และการสาวจอดรถ ไม่คล่องตัวนัก แต่เมื่อความเร็วถึงระดับหนึ่ง ก็มีความหนืด หนักหน่วงมือพอเหมาะ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ แต่การขับขี่ย่านความเร็วสูงอาจพบว่าพวงมาลัยที่มีระยะฟรี ค่อนข้างมากนี้ อาจมีอาการไวไปหน่อย ซึ่งอาจต้องประคองพวงมาลัยให้มั่นคง นอกจากนี้การขับขี่ผ่านเส้นทางที่ไม่ราบเรียบนัก ก็ควรประคองพวงมาลัยที่อาจดิ้นตามสภาพผิวถนนด้วยเช่นเดียวกัน
ระบบกันสะเทือน MG3 ยังคงใช้ช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม H-Type
ซึ่งเซ็ทระบบช่วงล่างนี้ ยังคง Concept ของ Brit Dynamic ได้เป็นอย่างดี ช่วงล่างแน่นปึ้ก เข้าโค้งหนักๆ ยังไม่พบอาการหน้าดื้อนัก ช่วงล่างด้านหลังแบบ H-Type ให้ความยืดหยุ่นทางด้านท้ายได้ดีกว่ารถคานแข็งรุ่นอื่นๆในไซส์เดียวกัน
แต่มีจุดสังเกตุหนึ่ง หากเราเข้าด้วยความเร็วสูงเกินไป อาการจะถูกส่งออกมาที่บริเวณตัวยาง เริ่มส่งเสียงกรีดร้อง ว่าอาจเกินขีดความสามารถของตัวรถแล้ว
ระบบเบรก ถือเป็นอีกจุดที่เป็น Key Hilight ของสมรรถนะ Brit Dynamic MG3 ด้วยระบบเบรกดิสก์ 2 ล้อหน้า และ ดรัมเบรก ที่ 2 ล้อคู่หลัง ที่ให้ความนุ่มนวลในการชะลอ ความเร็ว และมันสามารถหยุดพละกำลังเครื่องยนต์เท่าที่มี ได้อย่างรวดเร็ว ให้ความมั่นใจได้ดีเยี่ยม
มาตรฐานปลอดภัยมีให้ครบครัน MG3 ในทุกรุ่นย่อย จะมาพร้อมระบบต่างๆ ได้แก่ ระบบช่วยเบรก ABS, EBD, BA, CBC-Curve Brake Control (ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง)
ระบบ ESC (ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว), TCS (ระบบป้องกันล้อลื่นไถล), HSA (ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน), MSR-Motor Control Slide Retainer (ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเปลี่ยนเกียร์ลง), แอร์แบ็กคู่หน้า, กุญแจ Immobilizer ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือได้ว่า MG3 ได้ให้มาแบบจัดเต็มไม่แพ้รถยนต์ D-Segment เลยด้วยซ้ำไป
สรุป รถยนต์ MG3 Hatchback รถไซส์เล็ก ในพิกัด B-Car ที่มีรูปลักษณ์โดนใจ น่ารักสดใส และสีสันที่สะดุดตา แถมเป็นรถที่มาพร้อม Sunroof ไฟฟ้า ที่มีราคาจำหน่ายถูกที่สุดในบ้านเรา
แม้ภายในห้องโดยสาร อาจจะดูแปลกไปสักเล็กน้อยในหลายจุด แต่ถ้ามองข้ามไปที่ สมรรถนะ MG3 โดดเด่นที่ช่วงล่าง ช่วยให้ขับสนุกตามคอนเซ็ปต์ Brit Dynamic เครื่องยนต์ ทำหน้าที่ได้ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าใช้ระบบเกียร์ Torque Converter (AT ทั่วไป)
ขณะที่ราคาของ MG3 Hatchback ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มันแพงกว่ารถยนต์ Eco Car ในพิกัด 1.2 ลิตร เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเริ่มต้นที่ 4.79 – 5.59 แสนบาท เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอ พิเศษ สำหรับผู้ออกรถ MG3 ในวันนี้ จะได้รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2015
การวางตำแหน่งเกียร์ ที่แตกต่างจากรถ AT ทั่วไป ซึ่งใครไม่คุ้นชินกับเกียร์แบบนี้ต้องระมัดระวังในการเข้าเกียร์
ขอขอบคุณ MG Sales ประเทศไทย สำหรับรถทดสอบ MG3 Hatchback X ราคา 5.59 แสนบาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
ดูรายละเอียดตารางผ่อน MG3 เพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ
ใหม่ All New MG3 2015-2016 ราคา เอ็มจี 3 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
อยากทราบค่ะว่าออกรถต้องใช้งินเท่าไหร่วันออกรถและอยากทราบว่าส่วนลดเท่าไหร่ค่ะต้องดาวน์เท่าไหร่
pu_cp1519@hotmail.com
โปรโมชั่น MG3 เดือนกุมภาพันธ์ 2559
ประกันชั้น 1 + พรบ ของ LMG 1 ปี
ชุดหน้าจอ DVD+NAVI+กล้องหลัง หรือ รับส่วนลด 10,000 บาท
ฟิลม์กรองแสง AA
กล้องหน้ารถ(ต้องติดฟิลม์ยี่ห้อAAเท่านั้น)
สติ้กเกอร์หลังคา
พรมปูพื้น MG
ผ้ายางลายกระดุมสีดำ
กรอบป้ายทะเบียน
น้ำมัน 300
ถาดท้าย
สคัพเพลท
รับประกันตัวรถ 4 ปี
ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 10000-50000 กม.
พ่นกันสนิท
ขัดเคลือบสีสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณบี MG สาขาเพชรเกษม 65 บางแค
ติดต่อ 084-0050440 ไอดีไลน์ : beblaire
จะชื้อสดงบประมาณหกแสบาทค่ะ ครั้งแรก
สนใจสอบถามได้เลยนะคะ
คุณบี MG สาขาเพชรเกษม 65 บางแค
ติดต่อ 084-0050440 ไอดีไลน์ : beblaire
รวยครับ