รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
เรียกได้ว่าเป็นรถที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับค่าย Mazda อย่างแท้จริง สำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก New Mazda 2 (โมเดลปี 2019) ที่ล่าสุดพึ่งกวาดยอดขายไปทั้งสิ้นกว่า 36,260 คัน ครองเบอร์ 1 รถเก๋งเล็ก 3 ปีติดต่อกัน
และในวันนี้ ทางทีมงาน 9carthai.com จึงขอนำเสนอบทความรีวิวแบบจัดเต็ม New Mazda 2 รุ่น 1.3 SP (ท็อปสุดเบนซิน) มาให้ทุกท่านได้พิจารณากัน ซึ่งคราวนี้จะเป็นการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน หลังจากที่เคยได้ไปพิสูจน์สมรรถนะมาแล้วบน Track สนาม Chang International Circuit จ.บุรีรัมย์ เมื่อครั้งก่อน
บทความรีวิว New Mazda 2 บน Track สนาม Chang International Circuit จ.บุรีรัมย์
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าเหตุใด Mazda 2 ถึงครองเบอร์ 1 รถยนต์นั่งขนาดเล็กได้ถึง 3 ปีติดต่อกัน
โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ Mazda 2 ยืนหนึ่งในรถยนต์นั่งขนาดเล็กนั้น ก็คือ “เครื่องยนต์” ซึ่ง Mazda ตั้งใจที่จะรวมเอาสมรรถนะของรถยนต์ระดับ B-Segment และความประหยัดของ Eco Car เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นรุ่นเดียวในคลาสที่มี “เครื่องยนต์ดีเซล” ให้เลือกใช้งาน โดยมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 26.3 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงที่สุดในคลาส
ส่วนปัจจัยอื่นๆ คงต้องยกให้กับเรื่องดีไซน์การออกแบบ ที่มีความพิถีพิถันตามแบบฉบับ KODO Design ที่สะท้อนความหรูหรา และแฝงความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว รวมไปถึงเทคโนโลยี และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน จน C-Segment ในบางค่าย ยังสู้ไม่ได้เลยทีเดียว
สำหรับ New Mazda 2 นี้ ถือเป็นโฉม Minor Change ที่ออกมาคั่นกลางก่อนจะมีการเปลี่ยนเจเนอร์เรชั่นใหม่ ซึ่งมีการปรับโฉมภายนอกใหม่เล็กน้อย เริ่มจาก กระจังหน้าแบบใหม่ ที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ Mazda 3, ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น, ออกแบบกันชนหน้าใหม่ เพิ่มเส้นสายโครเมียมแนวนอนที่กันชนส่งผลให้ตัวรถดูกว้างขึ้น
กันชนหลังดีไซน์ใหม่ เพิ่มเส้นสายโครเมียมแบบเดียวกับด้านหน้า ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว (รุ่นล่างลงมาจะเป็นล้อขนาด 15 นิ้ว) ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ซึ่งจะมีเฉพาะในตัวถังแบบ Hatchback 5 ประตู เท่านั้น
* ส่วนรุ่น 4 ประตูยังคงเป็นไฟท้ายดีไซน์เดียวกับโฉมก่อนอยู่
มิติตัวถังของ New Mazda 2 รุ่น 1.3SP
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น มีการปรับปรุงใหม่ให้สปอร์ตเร้าใจยิ่งขึ้น เริ่มจากห้องโดยสารสีใหม่ที่มาในแบบทูโทนสีดำ-เทา โดยคอนโซลจะเป็นวัสดุแบบ Soft Touch สีเทาดีไซน์ใหม่, ช่องแอร์ทรงกลมกรอบโครเมียม, เบาะนั่งมีการออกแบบใหม่ให้มีความกระชับและรองรับกับสรีระมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งในส่วนของเบาะนั่งยังได้มีการเพิ่มพื้นที่ของหนัง Alcantara ที่ให้ความรู้สึกที่สปอร์ต และช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control และแป้น Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย บนกระจกหน้าออกแบบให้มีหน้าจอ Active Driving Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
ส่วนตรงกลางคอนโซลหน้ามาพร้อมหน้าจอ Center Display ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay สั่งการผ่านปุ่ม Center Commander ซึ่งจุดนี้เป็นไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ Mazda มีภายในห้องโดยสารที่หรูหรา และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหนือกว่าคู่แข่งในรถระดับเดียวกัน
ส่วนห้องโดยสารตอนหลัง มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบเดียวกับด้านหน้า รองรับผู้โดยสารได้ 3 ที่นั่ง แต่ตรงนี้จะไม่มีพนักวางแขนหรือที่วางแก้วน้ำตรงกลางให้ เบาะนั่งหลังสามารถพับแยกได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ
ทั้งนี้ในส่วนของห้องโดยสารตอนหลัง ต้องบอกตรงๆ ว่า มีขนาดค่อนข้างเล็ก และแคบกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะด้วยความที่ Mazda ตั้งใจออกแบบตัวรถให้มีความโฉบเฉี่ยวและสปอร์ต
เราจึงสัมผัสได้ว่าพื้นที่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ Mazda หลายๆ รุ่นนั้น จะมีห้องโดยสารตอนหลังที่ค่อนข้างแคบ ซึ่งคนที่ใช้ Mazda อยู่จะรู้กันดี แต่มันก็แลกมาด้วยดีไซน์ที่สวยสะดุดตา ถ้าคุณรับได้ในจุดนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
สำหรับขุมพลังของ New Mazda 2 นั้น ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากโฉมก่อนแต่อย่างใด ซึ่งรุ่นที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ที่มีขนาด 1.3 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
โดยมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 23.3 กม./ลิตร หรือตามมาตรฐาน ECO Sticker นั่นเอง
สำหรับฟิลลิ่งการขับขี่ของ New Mazda 2 นั้น ทางทีมงาน 9carthai.com เคยมีโอกาสได้ไปทดลองขับบน Track สนามช้างฯ มาแล้วทั้ง 2 เครื่องยนต์ โดยจะสรุปให้ฟังง่ายๆ ก็คือ
เครื่องยนต์ดีเซลนั้น มีอัตราเร่งที่ปู๊ดป๊าดกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหยียบเป็นมา และยิ่งใช้ Paddle Shift ช่วย ยิ่งทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินนั้น แม้อัตราเร่งจะเป็นรองนิดหน่อย ไม่รวดเร็วทันใจเท่า แต่ก็ได้มาด้วยสมรรถนะการเข้าโค้งที่ทำได้เนียนกว่า ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนมองว่าน้ำหนักตัวถังที่ต่างกันมีส่วนสำคัญ โดยในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะให้การขับขี่ที่นุ่มนวล สุขุม แต่กำลังเครื่องยนต์ก็ยังคงสามารถพาคุณไปได้ทุกที่ทุกทางอย่างไม่เป็นปัญหา
ด้านสมรรถนะการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น ต้องบอกว่า New Mazda 2 เป็นรถที่มีความคล่องตัวสูง สามารถขับขี่ใช้งานในเมืองได้อย่างตอบโจทย์
ส่วนระบบช่วงล่าง บอกตรงๆ ว่า New Mazda 2 เป็นรถที่เซ็ทช่วงล่างที่ค่อนข้างเฟิร์มมาแต่ไหนแต่ไร สามารถรองรับกับการขับขี่ที่สปอร์ต หรือเข้าโค้งความเร็วสูงก็เอาอยู่ โดยช่วงล่างจะออกแนวแข็งๆ ตึงๆ เพื่อป้องกันการย้วยเวลาเข้าโค้งแรงๆ แต่ถ้าถามว่านั่งสบายไหม ก็ยังอยู่ในพื้นฐานของความนั่งสบาย แต่อาจจะนุ่มนวลแพ้รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นอื่นๆ นิดหน่อย
ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย จุดนี้ Mazda เอง ตั้งใจใส่มาให้ครบ โดยไฮไลท์หลักๆ ก็จะมี
และที่สำคัญสุด ก็คือระบบระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC-Plus ที่ยกมาจากรุ่นพี่ Mazda 3 โดยมีรายละเอียดการทำงานของระบบดังนี้
ข้อดี New Mazda 2
ข้อเสีย New Mazda 2
บทสรุป
New Mazda 2 ถือเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กของคนยุคใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว อุปกรณ์ภายในที่ครบครัน เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย รวมไปถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจเกินรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
ทั้งนี้ New Mazda 2 นั้น มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 546,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดของเบนซินที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้มีราคาจำหน่ายที่ 690,000 บาท
ดูตารางผ่อน New Mazda 2 เพิ่มเติม คลิก!!
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รีวิว All-New Isuzu D-Max แอ่วเหนือ สัมผัส “พลานุภาพ พลิกโลก”
รีวิว Toyota Yaris Cross อีโคคาร์สไตล์ครอสโอเวอร์หนึ่งเดียวในคลาส ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิต
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกความเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ
รีวิว Honda City 1.0 VTEC Turbo โอโหแรงจริง! ขับดีเกิน Eco Car
รีวิว MG HS ยนตรกรรม SUV สุดคุ้ม ขับสนุก..นั่งสบาย อ็อพชั่นจัดเต็ม ภายในหรูหราอลังการยิ่งกว่ารถยุโรป
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เทคโนโลยีเหนือชั้นกว่าเดิม ประหยัดมันสูงสุดในคลาส
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน "