blank

TEST DRIVE : รีวิว NEW SUBARU XV เติมเต็มความอ่อนหวาน ผสานความอเนกประสงค์ ลงตัวด้วยความแข็งแกร่ง

โพสโดย : rapee / วันที่ : 23 มิถุนายน 2018

TEST DRIVE : รีวิว NEW SUBARU XV เติมเต็มความอ่อนหวาน ผสานความอเนกประสงค์ ลงตัวด้วยความแข็งแกร่ง

NEW SUBARU XV

หลังจากที่กลุ่มตันจง-มอเตอร์ อิมเมจ ตัดสินใจทำตลาดยานยนต์สไตล์ครอสโอเวอร์อย่าง Subaru XV ในประเทศไทยช่วงปี 2012 ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสความนิยมในแบรนด์นี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นแบบชัดเจน ด้วยยอดจำหน่ายที่หลายคนไม่คิดว่าจะทำได้ดีแบบเกินคาด จากแต่ก่อนต้องเป็นกลุ่มคนอินดี้หรือเป็นสาวกเฉพาะเท่านั้น

โดยช่วงแรกเปิดตลาดด้วยราคา 1.35 ล้านบาท ก่อนปรับราคาลงมาแบบไม่คาดคิดจนลูกค้ากลุ่มแรกบ่นกันระนาว แต่ทว่ายอดขายก็ยังเพิ่มจำนวนได้เรื่อยๆ

และล่าสุดก่อนเปิดตัวเจเนอเรชันใหม่ ในรุ่นเดิมตัวเริ่มต้นทำราคาไม่ถึงล้านบาท ด้วยค่าตัวที่ยั่วใจภายใต้สมรรถนะแบบคุ้มๆ เพื่อระบายของเก่าออกไป พร้อมๆ กับการดันโมเดลใหม่ลุยตลาดเอสยูวีเต็มตัวท่ามกลางการแข่งขันอันแสนดุเดือด

[FULL HD]  รีวิว NEW SUBARU XV 2018 รุ่น 2.0i-P

IMG_0220

โดยช่วงเดือนมีนาคม 2017 Subaru ได้เผยโฉม New Subaru XV อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงาน Geneva Motor show ส่วนในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีการเปิดตัวอีกครั้งที่ไต้หวันในช่วงเดือนมิถุนายน ขณะที่ประเทศไทยได้เผยโฉมคันจริงของ New Subaru XV เจเนอเรชั่นที่ 2 ช่วงปลายปีในงาน Motor Expo 2017 โดยทำตลาด 2 รุ่นย่อยคือ 2.0i ราคา 1,159,000 บาท และ 2.0iP และรุ่น 2.0i-P ราคา 1,259,000 บาท

2018-Crosstrek-Safety-Advanced-Ring-shaped-Reinforcement-Frame

123

New Subaru XV ครอสโอเวอร์รุ่นล่าสุดจากค่าย Subaru มาพร้อมกับโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ (Subaru Global Platform) นับเป็นโครงสร้างใหม่ที่จะถูกใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ของซูบารุหลายๆ รุ่น เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น โดยโครงสร้างตัวถังมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่ารถรุ่นก่อนหน้า 70% และในบางจุดอยู่ที่ 100% อีกทั้งโครงสร้างใหม่นี้ยังสามารถรับแรงกระแทกดีกว่าเดิมถึง 40%  โดยได้ถูกจัดวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นรถ Crossover ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง B-segment และ C-segment มาพร้อมกับปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นภายใต้การปรับเปลี่ยนในหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ แพล็ตฟอร์มตัวถัง เครื่องยนต์-สมรรถนะ ระบบเกียร์ รวมถึงระบบขับเคลื่อน หรือเรียกง่ายๆ ว่าเปลี่ยนใหม่ทั้งคัน โดยครั้งนี้ทีมงาน 9Carthai ได้นำมารุ่น 2.oiP มาทำการรีวิว

IMG_0187
รูปลักษณ์ภายนอก เชื่อว่าหลายคนที่เห็นแบบผ่านๆ หรือมองผิวเผินอาจคิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเจนฯ แรกเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้เจาะรายละเอียดก็เห็นได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของดีไซน์และมิติตัวถัง เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่เป็นลายรังผึ้งสีดำขนาดช่องใหญ่กว่าเดิม ถูกคาดด้วยแถบ 2 ชั้นโครเมียมและแถบเปียโนแบล็ค ส่วนตรงกลางแปะทับด้วยโลโก้ดาวลูกไก่

IMG_0185

สำหรับไฟหน้าดีไซน์เล็กเรียวกว่าเดิมมาในรูปแบบของ LED Projector พร้อมไฟ DRL แบบ LED ทรงตัวแอลอยู่ในโคมเดียวกัน (เฉพาะรุ่น 2.0iP) ซึ่งสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้อัตโนมัติ ทั้งนี้ข้อดีของมันก็เพื่อป้องกันแสงไฟไปแยงตาคนขับรถที่สวนทางมา นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น โดยชุดไฟสามารถปรับองศาได้ตามทิศทางการเลี้ยว ซึ่งแปรผันตามทิศทางพวงมาลัย ช่วยให้ทัศนะวิสัยการมองดีขึ้นโดยเฉพาะเวลายามค่ำคืน ส่วนไฟตัดหมอกเป็นหลอดฮาโลเจน นอกจากนี้ยังติดตั้งที่ฉีดล้างไฟหน้าอัตโนมัติมาให้อีกด้วย

IMG_0178
 กระจกมองข้างเป็นแบบสีเดียวกับตัวรถประกบชายด้านล่างด้วยพลาสติกสีดำพร้อมไฟเลี้ยว 
IMG_0211
เซ็นเซอร์ Keyless Entry ที่มือจับประตู
ถัดขึ้นมากระจกมองข้างเป็นแบบสีเดียวกับตัวรถประกบชายด้านล่างด้วยพลาสติกสีดำพร้อมไฟเลี้ยว มือจับประตูสีเงิน (ไม่ใช่โครเมียม) มาพร้อมเซ็นเซอร์ Keyless Entry เมื่อเจ้าของรถพกกุญแจ (รีโมตกุญแจ Smart Key) แล้วเดินเข้าใกล้รถ เมื่อระบบตรวจพบสัญญาณจากกุญแจ ก็จะเตรียมเปิดไฟในรถให้สว่างขึ้น จากนั้นยื่นมือไปจับที่เปิดประตู ระบบจะปลดล็อคให้ประตูทั้ง 4 บาน
IMG_0216
โป่งซุ้มล้อเป็นพลาสติกสีดำเหมือนเจนฯ แรก แต่มีการดีไซน์ให้เรียวและขยายความกว้างช่วงโค้งดูลงตัวกว่าเดิม ล้อแม็กขนาด 17 ลายใหม่แบบทูโทน ดูมีมิติมากขึ้น
IMG_0214
กรอบประตูเสริมแถบโครเมียมเพิ่มหรูหราสอดรับกับแร็คหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลามพร้อมสปอยเลอร์สีดำบริเวณขอบหลังคา ไฟท้ายเป็นแบบ LED ตัวกรอบสีแดง-ขาว ดีไซน์ล้ำโฉบเฉี่ยวขึ้น ไฟเบรกเป็นตัวซี มุมชายกันชนขนาบข้างด้วยไฟตัดหมอก ล้อแม็กขนาด 17 ลายใหม่แบบทูโทน ดูมีมิติมากขึ้น ยาง Continental Max Contact MC5 ขนาด 225/60R17 (รุ่นเดิม 225/55R17)
IMG_0204
เสาอากาศแบบครีบฉลามพร้อมสปอยเลอร์สีดำ
IMG_0206
ไฟท้ายเป็นแบบ LED
IMG_0202
IMG_0198
ด้านมิติตัวถัง New XV มีความยาวตัวถัง 4,465 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,615 มม. (รวมแร็คหลังคา) ความยาวฐานล้อ 2,665 มม. ความกว้างช่วงล้อคู่หน้า 1,550 มม. ด้านหลัง 1,555 มม. ส่วนระยะห่างจากพื้นถนนจนถึงพื้นใต้ท้องรถ (Ground Clearance) 220 มม. ความจุถังน้ำมัน 63 ลิตร น้ำหนักตัวรถรุ่น 2.0 i 1,435 กก. และรุ่น 2.0 iP 1,439 กก. ซึ่งเมื่อเทียบกับ XV เจนฯ แรก รุ่นปัจจุบันนั้นยาวขึ้น 15 มม. กว้างขึ้น 20 มม. ความสูงตัวรถแบบไม่รวมแร็คหลังคาเพิ่มขึ้น 25 มม. และมีฐานล้อยาวขึ้น 30 มม. แต่อย่างไรก็ดีความสูงตัวรถเมื่อรวมกับแร็คหลังคาระยะ Ground Clearance หรือระยะห่างจากพื้นถนนจนถึงพื้นใต้ท้องรถนั้นเท่าเดิม
IMG_0244
ภายในห้องโดยสาร ใหม่หมดจด ! พร้อมกับเพิ่มรายละเอียดและมีจุดดึงดูดสายตามากขึ้น โดยดีไซน์ของแผงแดชบอร์ดหน้าตาเรียกแทบเหมือน Impreza แต่มีการเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นโดยการเดินตะเข็บคู่ด้วยด้ายสีส้มตั้งแต่มุมกรอบแอร์ซ้าย-ขวา ลากยาวไปถึงใต้คอนโซลกลางและคอนโซลเกียร์ ส่วนแผงประตูบริเวณมือเปิดด้านในเติมเต็มอารมณ์ความสปอร์ตด้วยกรอบวัสดุลายคาร์บอนขนาบคู่กันด้วยพลาสติกสีเทา ถัดลงมาเป็นสวิตช์ควบคุมกระจกมองข้าง ล็อค-ปลดล็อคประตู สวิตช์เปิด-ปิดกระจกคู่หน้า (ขึ้น-ลงได้แบบจังหวะเดียว) กระจกคู่หลังและล็อคกระจก และต่อเนื่องเป็นที่ท้าวแขนซึ่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่อ่อนนุ่มพอประมาณ และมีการเดินตะเข็บด้วยด้ายส้ม
IMG_0255
จอขนาด 6.3 นิ้ว แสดงการทำงานของระบบ X-Mode
IMG_0258กลางคอนโซลหน้ามีจอขนาด 6.3 นิ้ว แสดงการทำงานของระบบ X-Mode แต่ถ้าไม่กดสวิตช์ X-Mode จอก็จะแสดงผลสถานะระบบปรับอากาศ ความเร็วเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือ อุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ถัดลงมาบริเวณกลางคอนโซลเป็นจอแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ตกแต่งกรอบด้วยวัสดุเปียโนแบล็คและพลาสติกสีเงิน ซึ่งชุดเครื่องเสียงใช้งานได้ทั้ง USB-AUX-HDMI พร้อมลำโพง 6 ตัว มีฟังก์ชั่นระบบนำทาง อีกทั้งจอนี้ก็ยังทำหน้าที่แสดงภาพกล้องมองหลัง/เส้นกะระยะ
IMG_0259
ส่วนระบบปรับอากาศสามารถแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้ Dual Zone (เฉพาะรุ่น 2.0iP) ตัวสวิตช์เป็นทรงกลม 3 อันใช้งานได้แบบบิดและกด ถัดลงมาใต้คอนโซลหน้ามีพอร์ต USB 2 ช่องพร้อมช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ ในขณะที่คอนโซล-คันเกียร์นับดีไซน์หรูดูแพงขึ้น โดยมีการเลือกใช้พลาสติกสีเปียโนแบล็คกับพลาสติกสีเงินมาเป็นองค์ประกอบเพื่อเพิ่มความพรีเมียม
IMG_0263
ถัดมาเป็นสวิตช์สำหรับเปิด-ปิดระบบการทำงานของ X-MODE สวิตช์หยุดรถบนทางชัน และเบรกมือไฟฟ้า รวมทั้งมีหลุมสำหรับวางแก้ว 2 ช่อง แต่ไม่มีฝาสไลด์ปิด ต่อเนื่องไปที่กล่องเก็บของขนาดกะทัดรัด มีฝาปิดซึ่งบุค่อนข้างหนาขณะเดียวกันทำหน้าที่เป็นพนักท้าวแขนไปในตัว ส่วนด้านในยังมีพอร์ท USB 2 ช่องจ่ายไฟ 12 โวลท์ติดตั้งมาให้ด้วย
IMG_0245
พวงมาลัยทรง 3 ก้านดีไซน์สปอร์ตขึ้น ตรงกลางเป็นทรงกลมประดับด้วยโลโก้แบรนด์ โดยก้านพวงมาลัยมาพร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชั่น ฝั่งซ้ายเป็นสวิทช์ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง สวิตช์ INFO สวิตช์รับ-วางโทรศัพท์ ด้านขวาเป็นสวิตช์ครูสคอนโทรล ด้านหลังมีแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์ และสวิทช์ i-Set สำหรับเลือกการแสดงผลของจอ MID แบบ TFT 4.2 นิ้ว ซึ่งแสดงผลทั้งระยะที่ขับได้ อัตราสิ้นเปลืองแบบเฉลี่ย-เรียลไทม์ ส่วนตัวเรือนไมล์ดีไซน์เรียบทรงกลม 2 ช่องซ้ายวัดรอบเครื่องยนต์ด้านขวาระดับความเร็ว เข็ม-ตัวเลขเป็นไฟสีขาว ที่ดูแล้วไม่หวือหวาเท่าไหร่นัก
IMG_0280
IMG_0278
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงคือ ก้านไฟเลี้ยวย้ายมาฝั่งซ้ายตามสไตล์รถยุโรป ต่อเนื่องที่ใต้ช่องแอร์ฝั่งคนขับ มีสวิตช์ปรับความสว่างของแผงมาตรวัด สวิตช์เปิดปิดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Traction Control และสวิตช์ SRH Off สำหรับปิดการทำงานของระบบไฟหน้า ที่ขยับตามทิศทางการเลี้ยวของพวงมาลัย SRH-Steering Responsive Headlights
IMG_0270
IMG_0272
ตัวเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าในทุกรุ่น ซึ่งนับดีไซน์ให้ความรู้สึกสปอร์ตขึ้นและปีกเบาะสูงกว่าเดิม ตรงกลางออกแบบให้เป็นลายตาข่าย พร้อมกับเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้มเพื่อเติมเต็มความโดดเด่น ส่วนท่าทางการนั่งนับว่ามีความสบายไม่อึดอัดหรือบีบกับสรีระเกินไป นอกจากนี้หมอนรองศีรษะก็สามารถปรับขึ้น-ลง และเอนมาข้างหน้าได้ ขณะที่ตัวฐานเบาะค่อนข้างยาวมาด้านหน้า จึงทำให้รองรับส่วนใต้ท้องขาได้พอดี ส่วนการปรับตำแหน่งเบาะสามารถระดับสูง-ต่ำ เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ด้วยระบบ​ไฟฟ้า 8 ทิศทาง แต่ด้านฝั่งผู้โดยสารยังเป็นแบบคันโยกเช่นเดิม สำหรับพื้นที่เหนือศีรษะหรือระยะเฮดรูมยังมีช่องว่างเหลือพอสมควรประมาณ 2 ฝ่ามือในแนวนอน (ตำแหน่งความสูงเบาะตรงกลาง)
IMG_0268สายเบลท์สามารถปรับระดับได้เพื่อรองรับกับสรีระของผู้ขับหรือผู้โดยสารที่แตกต่างกันไป
IMG_0318
ม่านบังแดดทั้ง 2 ฝั่งมีกระจกส่องซึ่งพร้อมไฟกับส่องสว่าง ช่องใส่เอกสารหลังเบาะมีฝั่งผู้โดยสารเท่านั้นเหมือนรุ่นเดิม
IMG_0299 IMG_0293สำหรับเบาะหลังลวดลายเหมือนกับเบาะหน้า พร้อมจุดยึดเบาะสำหรับเด็ก Iso Fix พนักพิงมีองศาเอียงกำลังดี ไม่ตั้งชันจนเกินไปและมีหมอนรองศีรษะ 3 ตำแหน่ง ส่วนตรงกลางดึงแยกออกมาเป็นพนักท้าวแขนและมีหลุมวางแก้วหรือขวดน้ำไซส์เล็ก 2 ช่อง ตัวฐานเบาะนับว่าดีไซน์พอดิบพอดี ทำให้คนรูปร่างสูงขายาวนั่งได้สบายโดยไม่ต้องกังวลว่าท้องขาจะล้นออกมา ขณะเดียวกันพื้นที่ระยะห่างระหว่างหัวเข่ากับพนักพิงหลังของเบาะคู่หน้า ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่โดยเข่าไม่ได้ดันติดกับเบาะ
IMG_0305
พนักพิงเบาะสามารถพับได้ 40-60 เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
IMG_0300 IMG_0306

ส่วนพื้นท้ายเก็บสัมภาระด้านท้ายแทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก โดยความจุเก็บของรวมอยู่ที่ 350 ลิตร และถ้าพับเบาะหลังลงสามารถเพิ่มความจุได้ถึง 1,240 ลิตร (เพิ่มจากเดิม 40 ลิตร)

IMG_0228 IMG_0230
เครื่องยนต์ รหัส FB20 บล็อกเดิม เป็นแบบ 4 สูบนอน BOXER DOHC 16 วาล์ว 1,995 ซีซี. อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 แต่มีการพัฒนาใหม่โดยเปลี่ยนระบบจ่ายเพลิงเป็นแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ (Direct Injection) ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที (เพิ่มขึ้น 6 แรงม้า) ส่วนแรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ( 20.0 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดเท่าเดิม (แต่มาในรอบที่เร็วขึ้นกว่าเดิม 200 รอบ/นาที) อัตราเร่งที่ทดสอบจากผู้ผลิต 0-100 กม./ชม ทำได้ในเวลา 10.4 วินาที และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ (CO2) 162 กรัม/กม. นอกจากนี้ทีมวิศวกรของ Subaru เผยว่าแม้เสื้อสูบนั้นเป็นบล็อกเดิม แต่มีชิ้นส่วนต่างๆ ที่เป็นองค์ประกอบถึง 80% ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ ส่วนแคมชาฟท์แบบแปรผันองศาทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย (Dual AVCS) ซึ่งใน XV เจนฯ แรกมีเฉพาะฝั่งไอดีเท่านั้น อย่างไรก็ดีผลจากการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในใหม่นี้ยังทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิมถึง 12 กก.

สำหรับระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผัน Lineartronic CVT ลูกใหม่ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode มีน้ำหนักเบาลงกว่าเกียร์รุ่นเดิม 7.8 กก. อัตราทดเกียร์ D ปกติ 3.600-0.512 ส่วนในโหมดเกียร์ธรรมดา เกียร์ 1 : 3.600 เกียร์ 2 : 2.155 เกียร์ 3 : 1.516 เกียร์ 4 : 1.092 เกียร์ 5 : 0.843 เกียร์ 6 : 0.667 เกียร์ 7 : 0.557 เกียร์ถอยหลัง 3.687 อัตราทดเฟือง 3.900 โดยการทำงานของเกียร์ลูกนี้ใช้โซ่ขับเคลื่อนเกียร์เช่นเดิม ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบสี่ล้อกระจายแรงบิดอัตโนมัติ

การขับทดสอบ เน้นการใช้งานเหมือนปกติ คือ ขับขี่ในเมืองเพื่อพิสูจน์ความคล่องตัวตลอดจนความสะดวกสบายในการใช้งาน ต่อเนื่องด้วยการขับทางยาวบนถนนหลวงชานเมืองเพื่อสัมผัสอัตราเร่ง ประสิทธิภาพเครื่องยนต์รวมไปถึงการทำงานของระบบช่วงล่าง เริ่มต้นด้วยการขับในเมือง จุดเด่นที่ New XV ถ่ายทอดออกมาให้สัมผัสอย่างชัดเจนคือ การพัฒนาให้ใช้งานในเมืองได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับบรรดาคุณผู้หญิงทั้งหลาย เนื่องจากพวงมาลัยที่เปลี่ยนเป็นพาวเวอร์ไฟฟ้า ทำให้การเปลี่ยนช่องทางหลบรถช้าหรือว่าแซงรถคันหน้าออกไปสู่ทางลื่นไหลกว่าทำได้อย่างเบามือ รวมถึงมีการปรับอัตราทดให้ตอบสนองได้ไวกว่าเดิม ก็ยิ่งทำให้การกลับรถหรือการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดทำได้ง่ายภายใต้วงเลี้ยวแคบสุด 5.4 ม.

ในส่วนของทัศนะวิสัยการขับก็ดีขึ้นชัดเจน ด้วยการออกแบบให้คอนโซลหน้าลึก จึงช่วยมุมมองด้านหน้าดูโปร่งโล่ง อีกทั้งเสาหลังคาคู่หน้า (A-Pillar) มีขนาดเรียวเล็กกว่าเดิม ทำให้สามารถลดมุมอับสายตาเมื่อมองจากมุมเอียงด้านข้าง สำหรับการเก็บเสียงภาพรวมถือว่าดีขึ้นในระดับหนึ่ง เสียงจากลมที่มาปะทะกับกระจกหน้า-เสาหน้า รวมไปถึงกระจกมองข้างยังมีอยู่บ้างแต่ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้านับว่าลดลงแบบรู้สึกได้ แต่สิ่งที่ยังมีให้ได้ยินคือเสียงยางที่สะท้อนขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อวิ่งอยู่บนผิวถนนที่เป็นคอนกรีต

ต่อเนื่องสู่การขับบนทางโล่งช่วงชานเมือง สามารถขยับเพิ่มความเร็วได้มากขึ้น แต่สิ่งที่รู้สึกว่า New XV ทำได้ไม่ดีนักคืออัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึงช่วงความเร็วประมาณ 30-40 กม./ชม. รู้สึกได้ชัดว่ารถมีการสะดุดและกระตุกอยู่บ้าง ซึ่งหากขับในเมืองรถติดๆ ขยับเขยื้อนทีละนิดทีละหน่อย ก็สามารถสร้างความรำคาญได้พอสมควร แต่เมื่อความเร็วไต่ไปถึง 50 กม./ชม. อัตราเร่งก็ตอบสนองได้ลื่นไหล สามารถขยับไปแตะ 100-140 กม./ชม. แบบไม่ต้องขยี้คันเร่งจนเหนื่อย อีกทั้งการเติมคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วในช่วงรอบเครื่องลอยตัวอยู่ ก็ถ่ายทอดออกมาได้แบบต่อเนื่องเนียนๆ แต่ก็ไม่ถึงกับทะยานแบบพุ่งพรวด เพราะรถไม่มีเทอร์โบชาร์จมาเป็นตัวช่วย และเมื่อทำงานผสานกับเกียร์ลูกใหม่ที่มาพร้อมกับนิสัยใจคอค่อนข้างเอียงไปทางผู้ดีซะหน่อย จึงรู้สึกว่าความจัดจ้านนั้นลดน้อยลงไป แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ได้ทดแทนเข้ามาคือความนุ่มนวลในการถ่ายทอดกำลัง

ความประหยัด หลายคนคงคาดหวังว่าจะดีขึ้นจากการที่เครื่องยนต์มีการปรับเปลี่ยนใหม่ในหลายๆ จุด โดยสเปกที่เคลมจากโรงงานระบุไว้ในเมือง อัตราสิ้นเปลือง 10.8 กม./ลิตร นอกเมือง 17.5 กม./ลิตร สิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.2 กม./ลิตร ซึ่งหากดูจากตัวเลขนี้ต้องบอกเลยว่าสวยหรู แต่เมื่อใช้จริงหน้าปัดที่แสดงบนจอในรถคือ 8.7 กม./ลิตร (เมื่อวิ่งในเมืองรถติดๆ ระยะทาง 65 กม.) ส่วนนอกเมืองอยู่ที่ 12-13 กม./ลิตร (ระยะทาง 80 กม.) ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (รวมการขับทั้ง 2 รูปแบบ) 10-11 กม./ลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบขับสี่ล้อตลอดเวลา ภายใต้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
IMG_0209
ระบบกันสะเทือน เป็นแบบอิสระ ด้านหน้าแม็คเฟอสันสตรัท หลังปีกนกคู่วิชโบน ซึ่งก็มีการเซ็ทให้ช่วงล่างให้มีความแน่นและหนึบมากกว่าเดิมพอสมควร อีกทั้งยังสัมผัสได้ว่านุ่มกว่าเดิมแบบชัดเจน สามารถเก็บแรงสะท้อนจากพื้นถนนได้ค่อนข้างทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการรูดผ่านลูกระนาดหรือพื้นผิวถนนต่างระดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากแก้มยางที่สูงขึ้น รวมถึงการเข้า-ออกโค้งด้วยความเร็วก็ยังให้ความมั่นใจว่าคุมอยู่ อันเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะที่มีอยู่ใน XV ตั้งแต่เจนฯ แรก และสิ่งสำคัญที่เป็นตัวแปรซึ่งทำให้ New XV ขับขี่ได้ดีกว่าเดิมคือ โครงสร้างของตัวรถมีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึง 70% และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ซึ่งส่งผลให้สมรรถนะการขับขี่เปลี่ยนแปลงในเชิงบวกชัดเจน สำหรับการหยุดยั้งความเร็วมาในรูปดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ซึ่งการทำงานถือว่าคาลิเปอร์จับได้ค้อนข้างไว ที่สำคัญผู้ขับไม่ต้องกดแป้นเบรกลึกมากนักกลางๆ ก็สัมผัสได้ ทำให้การเบรกแต่ละครั้งรู้สึกว่าสามารถว่าควบคุมความเร็วได้แบบชัวร์ๆ

13
ให้การขับบนทางออฟโรดมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบ X-MODE ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ให้กับคนขับทุกคนบนถนนหลากรูปแบบ เพียงแค่กดปุ่ม X-MODE ก็จะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เบรก และอุปกรณ์อื่นๆ ช่วยให้ผู้ขับสามารถขับฝ่าเส้นทางที่ไม่เอื้ออำนวย พื้นถนนลื่น หรือแม้แต่ทางลาดชันไปได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ เมื่อ X-MODE ทำงาน ระบบช่วยควบคุมการลงทางลาดชันจะช่วยรักษาระดับความเร็วให้คงที่โดยอัตโนมัติขณะขับลงทางลาดชัน จึงทำให้ผู้ขับสามารถมุ่งความสนใจไปที่ความปลอดภัยในการเข้าโค้งขณะขับลงทางลาดชัน

2018-Crosstrek-Safety-VDC

เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วยระบบ VDC หรือระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง เป็นระบบที่ทำหน้าที่ประเมินการควบคุมรถและวิเคราะห์ ว่ารถกำลังแล่นไปตามเส้นทางที่คนขับควบคุมหรือไม่โดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่จุดต่างๆ ถ้าอยู่ในสภาวะที่อาจสูญเสียเสถียรภาพการควบคุมขณะเข้าโค้ง หรือเมื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง การกระจายแรงบิดของระบบควบคุมการขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังเครื่องยนต์และเบรกของแต่ละล้อจะถูกปรับเพื่อช่วยให้รถอยู่ในเส้นทางต่อไป

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานจัดมาให้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยหัวเข่าสำหรับคนขับ ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยระดับศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า/หลัง และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (TRC) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก-ระบบเสริมแรงเบรก และระบบป้องกันคันเร่งค้าง

สรุป : หลังจากได้สัมผัส SUBARU New XV สิ่งแรกที่ประทับใจคือ ดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวและสะดุดตามากขึ้นตั้งแต่หน้าจรดท้าย เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม พร้อมกับภายในที่ได้รับการปรับลุคซ์ให้ดูทันสมัยมีสไตล์มากกว่าเดิม รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายที่จัดมาให้แบบคุ้มๆ ห้องโดยสารที่กว้างขึ้นรองรับการใช้งานอย่างอเนกประสงค์ อีกทั้งสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่พัฒนาอีกขั้นพร้อมกับเกียร์ลูกใหม่ ผสานกับระบบขับเคลื่อนแบบ X-Mode ซึ่งช่วยให้สามารถขับขี่ได้สนุกคล่องตัวสมบุกสมบันขึ้น เมื่อเทียบกับราคา 1.259 ล้านบาท ในรุ่น 2.0ip จัดว่าคุ้มค่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

สิ่งที่ควรปรับปรุง : สมรรถนะอัตราเร่งในช่วงออกตัวอืดและจังหวะคันเร่งไม่เรียบเนียน

สิ่งที่อยากให้มี : เทคโนโลยี EyeSight® Advanced Driver Assist System, เบาะหุ้มหนัง

ขอขอบคุณ : ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เอื้อเฟื้อรถในการรีวิว

ผู้เขียน/ถ่ายภาพ : ระพี มาประสพ

IMG_0220IMG_0224IMG_0180IMG_0185IMG_0211IMG_0187IMG_0214IMG_0216IMG_0215IMG_0190IMG_0201IMG_0202IMG_0234IMG_0198IMG_0204IMG_0206IMG_0195IMG_0193IMG_0189IMG_0244IMG_0253IMG_0327IMG_0325IMG_0245IMG_0249IMG_0257IMG_0255IMG_0258IMG_0287IMG_0259IMG_0280IMG_0264IMG_0263IMG_0267IMG_0270IMG_0272IMG_0278IMG_0318IMG_0268IMG_0322IMG_0277IMG_0293IMG_0299IMG_0312IMG_0305IMG_0300IMG_0306IMG_0228 IMG_020913


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TEST DRIVE : รีวิว NEW SUBARU XV เติมเต็มความอ่อนหวาน ผสานความอเนกประสงค์ ลงตัวด้วยความแข็งแกร่ง "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

Sales ประจำเว็บนะครับ

blank
BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
blank
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
blank
GWM ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
blank
Haval ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
blank
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
blank
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
blank
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
blank
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
NETA K.จูน
082-625-3991 / LINE : 0826253991
blank
Nissan K.ดาว
065-625-9988 / LINE : soidao7117
blank
Ora ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
blank
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
blank
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด