รีวิว New Yamaha Xmax Connected 2023 ขับมันส์ นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มหนึบมาก!!

รีวิว New Yamaha Xmax Connected 2023 ดีไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง!!

หลายคนอาจจะพอรู้ข้อดีของ Yamaha Xmax อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่แน่ใจในความใหญ่ของมัน วันนี้ 9Carthai จะพาเพื่อน ๆ ไปหาคำตอบกันว่าควรเปลี่ยนไปใช้ BigScooter ดีไหม ??

โดยขอเล่าถึงข้อดีแบบสั้น ๆ ก่อนเริ่มรีวิวเลยว่า New Yamaha Xmax Connected 2023 นั้น

• เป็นรถ BigScooter class 300 เครื่องยนต์แรงดีไม่มีตก เร่งแซงที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ได้ไม่มีปัญหา
• เป็นรถ BigScooter ที่มีช่วงล่างนุ่มนวล ขับขี่ทางไกลสบาย และมั่นคงทั้งในโค้งและความเร็วสูง
• เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ สามารถเปิดแผนที่บนหน้าจอขนาด 4.2 นิ้วบนรถได้เลย
• มีช่องเก็บของใต้เบาะใหญ่มาก เก็บหมดทุกสัมภาระ

แต่แน่นอนว่ารถทุกคันไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน New Yamaha Xmax Connected 2023 จะเป็นอย่างไรนั้น เรามาเริ่มรีวิวกันเลยครับ

---

ชุดไฟหน้า

New Yamaha Xmax Connected 2023 ปรับโฉมโดยใช้ไฟใหม่ทั้งคันแบบ Full LED สูสี Honda Forza แล้ว

ชุดไฟหน้าใหม่มาพร้อมกับการปรับแฟริ่งส่วนหน้าให้ดูสปอร์ต มีเหลี่ยมสันยิ่งขึ้น

ดูกันชัด ๆ จะเห็นว่า ไฟหน้ามีเส้น DRL ด้านล่างเชื่อมต่อกับไฟใหญ่ด้านบนอีกข้างกลายเป็นรูปตัว X ขนาดใหญ่สอดคล้องกับชื่อรุ่น

ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นรุ่นใหม่อย่างแน่นอน และการที่ไฟหน้าใหญ่ขึ้น ก็ทำให้สัดส่วนด้านหน้าของรถดูลงตัวกว่าเดิม

ไฟเลี้ยวเปลี่ยนมาใช้แบบ LED และย้ายตำแหน่งจากแฟริ่งด้านล่างมาเป็นแผ่นไฟเลี้ยวขนาดใหญ่ด้านบนใกล้กระจกบังลม นอกจากจะออกแบบมาสวยงามแล้วยังทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้นอีกด้วย

มาพร้อมกับไฟฉุกเฉิน ทำให้รถดูดีขึ้นอย่างมาก โดยรวมแล้วเน้นความสปอร์ตดุดัน ซึ่งต่างจาก Honda Forza ที่จะเน้นความสปอร์ตหรูหรา

---

ชุดไฟท้าย

ด้านท้ายของตัวรถยังคงความใหญ่อลังการบนท้องถนน ปรับมาเป็นไฟแบบ Full LED

มีการปรับดีไซน์ไฟท้ายเล็กน้อย

ไฟท้ายแบบ 2 โคมแยกซ้ายขวา มีเส้น LED ด้านล่างสวยงาม โคมมีลักษณะแบนและกว้างออก ดูสปอร์ตเข้ากับตัวรถดีมาก

ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ LED อยู่ตรงกลางในโคมเดียวกันกับไฟท้าย และไฟเบรกอยู่ทางด้านบน รวมกันแล้วมีความเฉียบคมสวยงามมากขึ้น

สังเกตบริเวณท้ายเบาะ จะมีตรา Yamaha ทำสีคล้ายโลหะ ดูแล้วเป็นจุดดึงดูดที่สวยงามและทำให้รถดูพรีเมียมขึ้นอีกระดับนึงเลยทีเดียว

---

ดีไซน์ภายนอก

ตัวรถโดยรวมยังคงคล้ายทรงเดิม มิติตัวรถกว้าง × ยาว × สูงอยู่ที่ 795 × 2,180 × 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 1,540 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 135 มม.

New Yamaha Xmax Connected 2023 มีการปรับแฟริ่งส่วนหน้าและด้านข้างเพื่อรีดความร้อนจากเครื่องยนต์ไม่ให้โดนคนซ้อน ปรับบังโคลนหน้าให้มีความลู่ลมมากขึ้น

มากับล้อสีน้ำเงินเอกลักษณ์ของ Yamaha ที่ช่วยสร้างความโดดเด่นให้รถอย่างมากเลยทีเดียว

บริเวณแผงหม้อน้ำมีการติดแผ่นพลาสติกมาให้จากโรงงาน นอกจากความสวยงามแล้วสิ่งที่สำคัญเลยคือการป้องกันจากหินหรือสิ่งอื่น ๆ ซึ่งหากเกิดความเสียหายขึ้นมาบอกเลยว่างานใหญ่แน่นอนครับ

ถือว่าดีมากที่ติดมาให้จากโรงงาน

ขยับมาทางด้านท้ายมีตรา X MAX ตัวนูนสีน้ำเงินเข้ากับล้อ

ให้มาแบบนี้ดูสวยงามกว่าสติ๊กเกอร์ธรรมดาชัดเจน

ก้านกระจกมองข้างเปลี่ยนวัสดุก้านเป็นอลูมิเนียมสีเทาสวยงามและดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวลู่ลมกว่าเดิม จากที่รุ่นเก่าเป็นแท่งเหล็กกลม ๆ ดูแล้วน่าถอดทิ้งสุด ๆ แต่ยังติดอยู่ที่แฮนด์จึงพับเก็บไม่ได้

ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างจาก Honda Forza ที่มีกระจกข้างติดอยู่ที่แฟริ่งด้านหน้า สามารถพับเก็บได้

กระจกบังลมดีไซน์ใหม่ช่วยตัดลมดีขึ้น เมื่อทดสอบขับขี่พบว่าลมที่เข้ามาปะทะลำตัวน้อยมาก ทำให้เมื่อขี่ในความเร็วสูงไม่รู้สึกเหนื่อย และเมื่อขี่ในเมื่อก็ยังมีลมแทรกเข้ามาเล็กน้อย ไม่ถึงกับไม่มีลมจนร้อน

ความสูงของกระจกบังลมอยู่ในระดับที่พอดีไม่ว่าจะปรับแบบไหน ผู้ขับขี่สูง 170 ซม. ไม่ได้รู้สึกเกะกะหรือบังสายตาขณะขับขี่ โดยจะยังมีลมพัดเข้ามาที่ศีรษะอยู่ แต่เพียงแค่ก้มลงเล็กน้อยลมก็จะถูกตัดข้ามศีรษะไปทันที

กระจกบังลมดีไซน์ใหม่นี้สามารถปรับได้ 5 ซม. โดยการขันน้อต (Honda Forza ปรับได้ถึง 12ซม. ด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งสะดวกกว่า)

---

มุมมองผู้ขับขี่

ด้านบนสุดเป็นกระจกบังลมความสูงพอดีไม่เกะกะสายตา ถัดลงมาเป็นหน้าจอใหม่ 2 จอ ตามด้วยกระจกมองข้างและปุ่มสวิตช์ต่าง ๆ บนแฮนด์ ล่างสุดมีช่องเก็บของ 2 ช่องทางซ้ายและขวา ส่วนตรงกลางเป็นชุดกุญแจ Smart Key

---

สวิตช์ประกับแฮนด์

ประกับแฮนด์ทางซ้ายนอกเหนือจากสวิตช์มาตรฐานแล้ว มีการเพิ่มไฟ pass อยู่ในปุ่มเดียวกับไฟสูง มีปุ่มควบคุมหน้าจอขึ้นลง ปุ่มตกลง และปุ่มย้อนกลับซึ่งใช้งานได้ง่ายมาก

ประกับแฮนด์ทางขวา มีปุ่มสตาร์ท off-run แบบในรถบิ๊กไบค์และไฟฉุกเฉิน ดูมีความพรีเมียมขึ้นระดับนึงและต้องบอกเลยว่าความรู้สึกในการกดปุ่มดูมีความแข็งแรงกว่าในรถคลาสเล็กกว่านี้ ดูมีคุณภาพกว่ากันเยอะ

---

หน้าจอ

เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดจากเดิมแบบผสมมาเป็นแบบ Digital ทั้ง 2 จอ แบ่งเป็นด้านบนขนาด 3.2 นิ้ว และด้านล่าง 4.2 นิ้ว

เวลาเปิดรถจะมีข้อความขึ้นมาแบบนี้สวยงามมาก

ด้านบนเป็นจอ Digital LCD บอกความเร็ว ระดับน้ำมันคงเหลือ และระยะทางรวม

ด้านล่างเป็นจอสี TFT แสดงข้อมูลต่าง ๆ ของรถซึ่งควบคุมด้วยสวิตช์ที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย สามารถเลือกดูข้อมูลต่าง ๆ เช่น อัตราการบริโภคน้ำมัน อุณหภูมิหม้อน้ำ วัดไฟแบตเตอร์รี่

มีฟังก์ชันควบคุมการทำงานของระบบตัวรถอย่าง Traction Control ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ โดยเมื่อสตาร์ทรถใหม่ระบบจะทำการเปิดไว้เสมอเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อรถกับโทรศัพท์มือถือได้ โดยเชื่อมต่อผ่านแอพลิเคชัน Y-Connect ซึ่งจะแสดงผลผ่านทางหน้าจอของรถ ทำให้เราเข้าถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น

การรับสายโทรศัพท์ โดยต้องเชื่อมต่อบลูธูทกับหูฟังอีกทีเพื่อสนทนา

การเลือกเพลงเอาไว้ฟังขณะขับขี่ โดยเปลี่ยนเพลงจากสวิตช์ทางซ้ายได้เลย

หรือแม้กระทั่งการเปิดแผนที่ผ่านหน้าจอจากแอปพลิเคชัน Garmin Street Cross ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ละเอียดเท่า Google Map แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน

แม้จะมีราคาแพงกว่า Honda Forza แต่ก็ให้เทคโนโลยีหน้าจอและการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่ทันสมัยกว่า Honda Forza ที่ยังเป็นจอผสมแบบเข็มอยู่เลย

---

กุญแจ Smart Key

New Yamaha Xmax Connected 2023 มาพร้อมกับกุญแจ Keyless เพียงแค่พกไว้ก็สามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถได้

โดยกุญแจจะมีสัญญาณเตือน หากเปิดระบบใด ๆ ก็ตามทิ้งไว้แล้วเดินออกห่างจากตัวรถ จะมีเสียงสัญญาณเตือนให้ผู้ใช้กลับไปปิดระบบให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการโจรกรรม

การใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถสามารถทำได้ผ่าน Smart Key ตรงกลาง โดยการกด 1 ครั้ง แล้วบิดไปยังฟังก์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดถังน้ำมัน ล็อคคอ เปิดเบาะและที่เก็บของหน้ารถ ง่ายและสะดวกมาก ๆ

---

ถังน้ำมัน

ถังน้ำมันอยู่บริเวณกลางรถ สามารถเติมน้ำมันได้ง่ายไม่ต้องเปิดเบาะออก มากับความจุ 13 ลิตรซึ่งถือว่าใหญ่มาก ถังนึงวิ่งได้มากกว่า 300 กม. เลยทีเดียว

---

ที่เก็บของด้านหน้ารถ

ทางซ้ายมีขนาดไม่ลึกมาก สามารถใส่ I Phone 11 pro ได้ โดยต้องปลดล็อคช่องนี้ที่ชุดกุญแจ Smart Key ก่อน ภายในมีช่องจ่ายไฟ 12V ต้องหาตัวแปลงเพื่อมาใช้งานชาร์จอุปกรณ์อีกที

ช่องทางขวาไม่สามารถล็อคได้ มีขนาดเท่ากับอีกฝั่ง เมื่อเทียบกับคู่แข่งจะพบว่าทาง Honda Forza จะมีช่องเก็บของด้านซ้ายฝั่งเดียวที่มีความลึกมากกว่า มาพร้อมกับจุดจ่ายไฟแบบ USB type C ไม่ต้องหาตัวแปลงให้ยุ่งยาก

---

พื้นที่ใต้เบาะ

ด้วยความที่เป็นรถ Big Scooter ก็ทำให้มีพื้นที่ใต้เบาะที่ใหญ่ขนาดไซส์ xl ตามไปด้วย สามารถเก็บหมวกแบบเต็มใบได้ถึง 2 ใบ

ภายในมีไฟ LED ช่วยส่องสว่างเวลาหาของตอนกลางคืน ดีกว่า Honda Forza ที่ยังไม่มีมาให้สักที

ตรงกลางมีรูปแนะนำการเก็บหมวกมาให้ สังเกตว่าแม้จะเก็บหมวกไปถึง 2 ใบแล้ว แต่ก็ยังเหลือพื้นที่เก็บของอื่น ๆ อีก

ข้อสังเกตเล็กน้อยคือเวลาขับขี่จะเกิดความร้อนสะสมในที่เก็บของ จึงไม่ควรเก็บของที่ไม่ชอบความร้อนไว้ใต้เบาะ

นอกจากนี้บานพับเบาะทำมาแข็งแรงดี ดีดขึ้นและค้างไว้ทันทีเมื่อเปิด และเวลาปิดก็จะลงล็อคได้ง่ายไม่มีเอียงซ้ายขวาเลย ถือว่าใส่ใจในคุณภาพดีมาก

---

เบาะผู้ขับขี่

สิ่งที่ปรับมาดียิ่งขึ้นคือเบาะ โดยมีความสูงเท่าเดิมที่ 795 มม. แต่ปาดเว้าช่วงหว่างขามากขึ้นทำให้เท้าลงพื้นเต็มกว่าเดิม

ผู้ทดสอบสูง 170 ซม. สามารถวางช่วงปลายเท้าได้พอดี ไม่ถึงกับต้องใช้นิ้วจิก แต่ด้วยความที่เบาะกว้างก็จะทำให้ส้นเท้าลอยเล็กน้อย

ตัวเบาะไม่แข็งมาก หากขยับไปด้านหลังจะกว้างและนั่งสบายขึ้น ช่วงกลางแบ่งระดับทำหน้าที่เป็น lumbar support ในตัว แต่ตรงนี้ผู้ทดสอบรู้สึกว่าจะเตี้ยและเอียงมากไปทำให้ไม่รู้สึกว่าได้รับการ support มากเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

เบาะคนซ้อน มีความกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าเบาะผู้ขับขี่ มีที่จับกันตกใหญ่ เมื่อรวมกับช่วงล่างนุ่ม ๆ แล้วให้ความสบายดีกว่ารถคลาสเล็กกว่านี้มาก

แต่มีจุดสังเกตคือเบาะสูงทำให้ไม่สามารถเหวี่ยงขาขึ้นคร่อมได้ทันที ต้องเหยียบพักเท้าเพื่อปีนขึ้นแบบบิ๊กไบค์ ใครที่ไม่ชินอาจจะต้องฝึกสักเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย

---

ท่าการขับขี่ 

รถ Big Scooter มาพร้อมกับที่วางเท้าและเบาะกว้าง สามารถขยับเปลี่ยนท่าทางได้มากตามสรีระแต่ละคน แฮนด์กว้าง 795 มม. กำลังดี ทำให้ควบคุมตัวรถได้ง่าย ขับขี่ทางไกลท่านี้ไม่รู้สึกเมื่อยมาก

แม้จะไม่ได้กว้างเกินไปแต่แฮนด์และกระจกมองข้างจะมีความสูงพอดีกับรถยนต์ SUV และรถกระยกสูงหรือรถตู้ ทำให้เวลามุดช่องการจราจรต้องระวังมากขึ้น

เราสามารถยกเท้ามาพักตรงที่วางด้านบนและขยับตัวไปติดกับ lumbar support ได้เพื่อยืดขา แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าพักเท้าด้านบนค่อนข้างสูงอาจจะไม่สบายมากนัก หากเทียบกับ Yamaha Nmax จะวางขาได้สบายกว่า และแฮนด์ไม่ได้เยื้องมาด้านหลังมาก ทำให้ต้องก้มตัวเอื้อมจับแฮนด์มากขึ้น รู้สึกไม่ถนัดหากต้องขี่ท่านี้นาน ๆ

ทั้งนี้แต่ละคนอาจมีสรีระและท่าขับขี่ที่ถนัดไม่เหมือนกัน แต่รถรุ่นนี้มีข้อดีคือมีของแต่งเยอะ สามารถหาเบาะแต่งตามที่ชอบได้ไม่ยาก

ขอเสริมเรื่องการขึ้นขาตั้งคู่ แม้รถจะมีน้ำหนักมากถึง 181 กก. แต่จัดสมดุลย์คานมาดีมาก ๆ ทำให้ขึ้นขาตั้งคู่ง่าย ง่ายกว่ารถที่น้ำหนักเบากว่านี้บางรุ่นด้วยซ้ำ

---

ระบบเบรก

มีการปรับจุดหมุนและระยะของก้านเบรก ทำให้เบรกได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น เป็นความรู้สึกที่ค่อย ๆ ไล่น้ำหนัก ไม่กระด้าง กรอเบรกในความเร็วต่ำก็สมูทและเบรกในความเร็วสูงก็ยังเอาอยู่ รู้สึกชัดเจนว่าสามารถบีบก้านเบรกหน้าได้นุ่มกว่ารุ่นก่อน

ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 267 มม. ทำงานกับปั๊มเบรก 2 พอต ทำงานร่วมกับระบบ ABS เหมือนเดิม

ด้านหลังดิสก์เบรกเดี่ยว มาพร้อมกับระบบ ABS ชะลอความเร็วได้ดี รู้สึกว่าจะกระด้างกว่าเบรกด้านหน้าเล็กน้อย แต่ก็เอาอยู่เหมือนกัน

---

ช่วงล่าง

ด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค ด้านหลังเป็นโช๊คอัพคู่สามารถปรับพรีโหลดได้

ถือเป็นช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ซับแรงได้ดี ช่วยลดความทรมาณจากถนนในกรุงเทพได้เยอะมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ย้วยเลยแม้แต่น้อย กลับกันคือเข้าโค้งแรง ๆ หรือขับขี่ในความเร็วสูงได้มั่นใจเลยทีเดียว

เมื่อเทียบกับ Honda Forza นั้นจะมีช่วงล่างแข็งและดีดกว่านี้ ส่วนตัวค่อนข้างชอบช่วงล่างของ Yamaha Xmax มากกว่า เรียกว่าเดิม ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนเลย แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ชอบช่วงล่างในสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปก็สามารถหาของแต่งสำหรับทั้ง 2 รุ่นได้ไม่ยากเลยครับ

---

เครื่องยนต์และการขับขี่

เครื่องยนต์ Blue core 1 สูบ 292 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำตัวเดิม ให้กำลัง 28 PS ที่ 7,250 รอบ/นาที แรงบิด 29 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ/นาที

เริ่มจากการขับขี่ช่วงการจราจรติดขัด แม้เครื่องยนต์จะมีกำลังสูงกว่ารถทั่วไปในท้องตลาด แต่กลับสามารถไล่น้ำหนักคันเร่งได้อย่างดี กรอคันเร่งในความเร็วต่ำได้ราบเรียบ ไม่กระชากจนตกใจ กะจังหวะได้ง่าย ต้องชมว่าตรงนี้ทำมาได้ดีมาก

แต่ด้วยความที่มิติตัวรถมีขนาดใหญ่ บวกกับแฮนด์และกระจกสูงเท่ากับรถ SUV ทำให้การแทรกผ่านระหว่างรถทำได้ช้า ยิ่งถ้าต้องมุดซ้ายขวาที่แคบจะลำบากมาก ๆ ส่วนตัวจะหาช่องกว้าง ๆ แล้วพยายามขับแทรกไปเรื่อย ๆ จะยากน้อยกว่าการเปลี่ยนช่องมุดซ้ายขวา

ผ่านช่วงรถติดมาแล้วแต่ยังอยู่ในเขตชุมชนอยู่ พอเริ่มใช้ความเร็วได้ น้ำหนัก 181 กก.ก็จะรู้สึกเบาไปเลย ถึงตรงนี้ขนาดตัวรถก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดแล้ว สังเกตไฟหน้าที่ปรับมาใหม่นี้ ดูสวยงามโดดเด่นดีจริง ๆ

การขับขี่ในเขตชุมชนทำได้ดี พลิกซ้ายขวาในความเร็วกลางได้ง่ายกว่าที่คิด ควบคุมได้อย่างเป็นธรรมชาติ หากต้องการเร่งแซงก็ไม่ต้องใช้คันเร่งเยอะ เรียกได้ว่าเริ่มสัมผัสได้ถึงความแรงของตัวรถ

ออกสู่ถนนใหญ่และเริ่มใช้คันเร่งได้เต็มที่ อัตราเร่งไม่ได้กระชากจนตกใจ เน้นดึงยาว ๆ ตั้งแต่ 0 – 120 กม./ชม. มารวดเร็วแบบไม่รู้ตัว คือตัวเลขขึ้น 120 แล้วแต่ยังรู้สึกช้าอยู่เลย เนื่องจากช่วงล่างนิ่งและมั่นคงในความเร็วสูงมาก อีกทั้งยังพลิกเลี้ยวได้ง่าย ไม่รู้สึกหนักหรือขัดอะไรเลย

อธิบายเพิ่มเติมเรื่องเครื่องยนต์ ด้วยความที่มีซีซีมากขึ้น ทำให้พบแรงสั่นสะเทือนได้มากขึ้นเล็กน้อย เรียกว่าพอให้ได้รู้ว่าคันนี้ใหญ่กว่าเดิม แต่ถือว่าคุ้มค่ากับความแรงที่ได้รับ เพราะตั้งแต่ 0- 120 กม./ชม. จะมีกำลังให้ใช้อย่างต่อเนื่องไม่มีตก หากต้องการเร่งแซงที่ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. ก็ยังทำได้ อัตราเร่งลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความเร็วสูงสุดคันนี้เดิม ๆ ทำได้มากกว่า 150 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับสภาวะภายนอกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องการเร่งแซงเลยครับ เอาอยู่แน่นอน

ด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 181 กก. ก็มีส่วนช่วยในความนิ่งได้ประมาณนึง เวลาลมพัดแรง ๆ หรือขับผ่านรถยนต์ก็ไม่รู้สึกส่าย เหมาะกับสายเดินทางไกลมาก ๆ จากภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องที่ติดไว้บนลำตัว ถ้าเป็นมุมมองจริงกระจกบังลมจะต่ำกว่าระดับสายตา ไม่เกะกะ

นอกจากจะเหมาะกับสายเดินทางแล้ว ยังเหมาะกับสายท่องอวกาศไปยังดวงดาวที่มีหลุมบ่อ เพราะช่วงล่างซับแรงจากรอยต่อถนนได้ดีจริง ๆ ถือเป็นจุดเด่นของ Yamaha Xmax เลยก็ได้ แต่ก็ไม่ได้แนะนำให้นำไปขับขี่ทางดินนะครับ แค่ถนนทั่วไปที่ขรุขระก็พอแล้ว

สังเกตที่ชุดแฟริ่งขนาดใหญ่ด้านหน้า นอกจากความดุดันแล้วยังช่วยกันไม่ให้ลมตีขาที่ความเร็วสูงอีกด้วย

และอีกจุดหนึ่งคือกระจกบังลมหน้าอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา ทำให้ลมปะทะลำตัวน้อยลง ลดความล้าจากการต้านแรงลมได้ แต่ยังมีลมพัดเข้าหน้าอยู่ดี

หากอยากจะหลบลม ก็สามารถก้มหมอบลงไปแบบนี้ก็จะไม่โดนลมเลยแม้แต่น้อย เอาไว้ใช้ตอนเร่งแซงความเร็วสูงก็พอ เพราะทำท่านี้แล้วไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่นัก

แต่สิ่งที่จะทำให้คุณสบายใจได้ก็คือถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร เติมที่เดียวเที่ยวได้ไกลถึง 300 กม. และยังมาพร้อมกับอัตราการบริโภคน้ำมันเพียง 28.8 กม./ลิตร (ขับขี่ในช่วงที่รถไม่ค่อยติด ใช้ความเร็ว 80 – 120 กม./ชม. และเร่งแซงในความเร็วสูง) แน่นอนว่าต้องกินน้ำมันมากกว่ารถไซส์เล็กกว่านี้ แต่ได้ประมาณนี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว

ถ้าเทียบกับ Honda Forza นั้นอาจมีความประหยัดที่สู้ Honda Forza ไม่ได้ ทั้งนี้ก็ถือว่ามีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ใกล้เคียงกันแล้ว ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละคน

การเบรกกระทันหัน ดูจากภาพขี่มาด้วยความเร็ว 60 – 70 กม./ชม. มีรถตัดหน้าจนต้องเบรกเหลือ 40 กม./ชม. และลดลงเรื่อย ๆ จนปลอดภัย เรียกได้ว่าหากต้องเบรกฉุกเฉินก็บีบเบรกได้เต็มที่ เพราะมีระบบ ABS ช่วยเหลืออยู่ ผมยังรอดกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ก็ถือว่าเบรกตัวนี้เอาอยู่ครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินว่าเราเหมาะกับ Big Scooter อย่าง Yamaha Xmax ไหมนั้นก็คือที่จอดรถ ต้องกว้างพอในการเข้าออก และไม่ให้คนอื่นมาเฉี่ยวชนเอาได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะจอดในบ้านหรือตามห้างร้านต่าง ๆ ก็อย่าลืมพิจารณาถึงจุดนี้กันด้วยนะครับ

---

เทียบกับรุ่นอื่น ๆ เป็นอย่างไร

Honda Forza 350 จะมีจุดเด่นในเรื่องการปรับกระจกบังลมที่สะดวกกว่ามาก สามารถพับกระจกมองข้างได้ และมีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ดีกว่าเล็กน้อย รวมถึงมีราคาต่ำกว่าประมาณ 10,000.

ส่วน Yamaha Xmax จะโดดเด่นในเรื่องหน้าจอและการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ มีไฟ LED ภายในช่องเก็บของใต้เบาะ รวมถึงมีช่วงล่างที่นุ่มกว่าอีกด้วย

Yamaha Nmax รุ่นน้องพิกัด 155 ซีซี ราคาต่างกันเริ่มต้นเกือบ 92,000. โดยมีราคาอยู่ที่ 98,500. มากับน้ำหนักตัวและมิติตัวรถที่เล็กกว่า ทำให้กับขี่ในช่วงการจราจรติดขัดได้ง่ายกว่ามาก รู้สึกเหมือนเบาะจะนุ่มกว่าเล็กน้อย ท่าการขับขี่สบายดี ขับขี่ทางไกลได้ดีระดับนึงแต่อาจจะไม่เท่ารุ่นพี่ และประหยัดน้ำมันมากกว่า

ส่วน Yamaha Xmax มากับราคา 189,900. มีความแรงและมั่นคงกว่ามาก ช่วงล่างนุ่มสบายกว่า เก็บของใต้เบาะได้เยอะกว่า เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้

---

Yamaha Xmax น่าจะเหมาะกับ/ข้อดี

• ผู้ที่ชอบความแรง เร่งแซงที่ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม.
• ต้องการที่เก็บของใต้เบาะที่ใหญ่กว่าคลาสไม่เกิน 160 ซีซี
• ผู้ที่ชอบเทคโนโลยี เชื่อมต่อรถกับโทรศัพท์มือถือ
• ผู้ที่ชอบช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ยังมั่นใจในการเข้าโค้ง

---

Yamaha Xmax น่าจะไม่เหมาะกับ/ข้อจำกัด

• ผู้ที่ขับขี่ในเขตเมืองแล้วต้องการลัดเลาะตามช่องการจราจรอย่างคล่องแคล่ว
• ผู้ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน
• ผู้ที่ไม่ถนัดการขับขี่รถขนาดใหญ่

---

สรุป

New Yamaha Xmax Connected 2023 มากับราคา 189,900 บาท มีการปรับปรุงในหลายจุดไม่ว่าจะเป็นไฟ LED รอบคัน ปรับดีไซน์ไฟเลี้ยว แฟริ่ง บังโคลน และกระจกบังลมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น

ที่โดดเด่นที่สุดเลยคือหน้าจอคู่ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อรับโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือเปิดแผนที่บนหน้าจอรถเลยก็ได้

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ABS, Traction Control ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้น และยังขับขี่สนุกด้วยเครื่องยนต์ที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวล แต่มีกำลังมาเรื่อย ๆ จนถึง 120 กม./ชม. ขึ้นไปก็ยังมีกำลังอยู่ ที่สำคัญเลยคือช่วงล่างที่ให้มาเอาอยู่ทุกย่านความเร็ว บิดถึง 100 กม./ชม. แบบไม่รู้ตัว และยังมอบความสบายขณะเดินทางได้ดีกว่า Honda Forza

สุดท้ายนี้ New Yamaha Xmax Connected 2023 เป็น Big Scooter ที่ดีคันหนึ่ง เป็นรถที่มีลักษณะการใช้งานที่หลากหลายขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความถนัดของแต่ละบุคคล

อ่านรีวิวเพิ่มเติมที่ 9Carthai

---

อ่านรีวิวรถใหม่ ที่น่าสนใจ…
รีวิว Vespa LX 125 i-Get รถที่ขายดีที่สุดของ Vespa แต่ราคาราคาเฉียดแสน คุ้มหรือไม่?
รีวิว Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS เครื่องแรงใช้ได้ แต่ราคาแรงกว่า แล้วมันน่าซื้อไหม?
รีวิว Vespa Primavera Color Vibe 150 i-Get ABS ขับสนุกจริง จนท้าให้ลอง
รีวิว Honda Scoopy Minions Limited Edition ลายใหม่สุดคูล ใช้งานได้คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน
รีวิว Yamaha Grand Filano เท่ห์กว่าเดิม มาพร้อมสีใหม่
รีวิว Yamaha Fazzio 2023 เครื่องไฮบริด แรงพอได้ ประหยัดดี
รีวิว Honda LEAD 125 ตัวใหม่ เน้นใช้งาน หน้าตาพิมพ์นิยม
รีวิว Honda Click 160 นำหน้าอย่างจ่าฝูง
รีวิว Yamaha NMAX Connected 2023 เบาะนุ่ม แรงกำลังดี คันเดียวจบทุกเส้นทาง
รีวิว Yamaha Xmax Connected 2023 ขับมันส์ นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มหนึบมาก!!

---