รีวิว Nissan Juke สปอร์ต ร้อนแรง สะกดทุกสายตาให้เหลียวมอง
นิสสัน จู๊ค รถยนต์แบบ Sport Crossover ที่มีสไตล์ Unique สวยงาม แปลกตา เท่ล้ำสมัย โดดเด่นบนท้องถนน ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวมองกับผลงานชิ้นเอกที่นิสสันกล้าฉีกกฎเดิม ๆ ของการออกแบบรถยนต์ ในทุกมุมมองไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้าย ก็ไม่เหลือเค้าโครงของรถยนต์ Crossover เชย ๆ ที่ปกติแล้วจะดูเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม ทำให้รูปโฉมของ Juke สะดุดตา และในวันนี้สิ้นสุดการรอคอย Nissan ได้นำเข้า Juke มาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ในราคาไม่แพงเกินไป
ทำไมต้องเหมือนใคร เข้ามาท้าทายทุกความต่าง กับนิสสัน จู๊ค รุ่น 1.6V ราคา 858,000 บาท และอีกทางเลือกกับรุ่น 1.6E ราคาต่ำลงเหลือเพียง 819,000 บาท
สำหรับในการรีวิวทดสอบขับครั้งนี้ ได้เลือก Juke 1.6V สีแดงสดใส ซึ่งเหนือกว่ารุ่น 1.6E ตรงที่มีเซ็นเซอร์ถอยหลังและตกแต่งห้องโดยสารภายในโทนสีดำแดง ดูร้อนแรงแบบสปอร์ต
ดีไซน์ภายนอกรอบคัน
นิสสันท้าทายให้หลุดออกจากกรอบความคิดเดิม ๆ แบบที่ไม่เคยพบเห็นในรถยนต์ Crossover ระดับนี้มาก่อน
ปราดเปรียว โดดเด่น ได้อารมณ์สปอร์ต และพร้อมลุยใน (เกือบ) ทุกเส้นทาง
ด้านหน้า กับดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แยกเอาไฟเลี้ยว-ไฟหรี่ ออกจากโคมไฟหน้า แบบอิสระ
นี่คือไฟเลี้ยวและไฟหรี่ ที่อยู่ในโคมเดียวกัน มีสไตล์เฉพาะตัว ดูคล้ายดวงตาของสัตว์อะไรสักอย่าง
ไฟหน้า ดีไซน์กลมโต ส่องสว่างชัดเจน อยู่ในระดับความสูงที่เหมาะสม
กระจังหน้า
ไฟตัดหมอกหน้า
กันชนหน้า
รวมกันได้อย่างลงตัว ดูไม่ขัดตา กลายเป็นความเท่ ที่ไม่เหมือนใคร
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายเดียวกันทั้งรุ่น 1.6E และ 1.6V
รถทดสอบ มาพร้อมกับยาง Bridgestone Turanza GR-90 ขนาด 215/55 R17
ลองดูห้องเครื่องยนต์กันบ้าง
ฝากระโปรงและเหล็กค้ำยันเหมือนรถทั่วไป ยังไม่ได้ใช้โช้คช่วยผ่อนแรงในการเปิด
เครื่องยนต์เบนซินรหัส HR16 แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1,598 ซีซี ให้กำลัง 116 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ ใช้เกียร์ XTRONIC CVT
มาดูดีไซน์ด้านข้างตัวรถกันต่อ
ไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถ
กระจกมองข้างแบบไม่มีไฟเลี้ยว
มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
เก๋ไม่เหมือนใครกับมือจับประตูของห้องโดยสารตอนหลังย้ายไปไว้หน้าต่าง
สปอยเลอร์หลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และเสาอากาศแบบสั้น
เติมน้ำมันฝั่งขวาของตัวรถ รองรับน้ำมัน E20 ด้วย
ไฟเบรคดวงที่ 3 พร้อมที่ฉีดน้ำล้างกระจก
ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้ายดีไซน์แปลกใหม่
คิ้วขอบประตูท้ายโครเมียม และโลโก้ XTRONIC CVT
เซ็นเซอร์ถอยหลัง 2 จุด
ท่อไอเสีย
โลโก้ Juke ได้อารมณ์ความรู้สึกของชาติญี่ปุ่น
บังโคลนหลัง
ฝาท้ายป่องเล็กน้อย เพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระขนาดใหญ่
ฝาท้ายเปิดได้กว้างและสูง น้ำหนักเบา มีโช้คอัพช่วยผ่อนแรงได้มาก
หลุมสำหรับจับเพื่อปิดฝาท้าย
พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย กว้างขวางพอสมควร มากกว่ารถ Hatchback
มีกระบะใส่ของซ่อนอยู่ข้างล่างอีกชั้น ทำให้ท้ายรถดูไม่เกะกะ
ยกกระบะออกมาทำความสะอาดได้ง่าย แข็งแรงทนทานดีมาก มองดูคล้ายอ่างพลาสติกที่ลอยน้ำได้
มียางอะไหล่ซ่อยอยู่ใต้กระบะใบนั้น
มีกล้องช่วยมองขณะถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารผสานความสปอร์ต
Nissan Juke 1.6V มีการตกแต่งภายในห้องโดยสารให้เป็นโทนสีดำแดง ส่วนรุ่น 1.6E จะเป็นสีโทนดำ ซึ่งดูเรียบ ๆ
เข็มขัดนิรภัยปรับระดับความสูงได้
กระจกมองข้างขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ ขยายมุมมองให้เห็นได้กว้างมากประมาณสองเท่าเมื่อเทียบกับ Eco Car
ทัศนวิสัยดีกว่ารถเก๋งทั่วไป เพราะตัวรถยกสูง เบาะที่นั่งสูง ทำให้มองเห็นพื้นถนนและมุมมองโดยรอบได้กว้างมาก
ประตูฝั่งคนขับมีที่วางแขนบุด้วยผ้าสีแดงเข้ม
ที่เปิดประตูทำสีโครเมียม
สวิตช์หน้าต่าง ลำโพง และช่องใส่ขวดน้ำดื่ม
เข้าออกได้ง่าย ไม่ต้องปีนและไม่ต้องก้มตัว อยู่ในระดับที่พอดี ๆ
ภายในห้องโดยสารตอนหน้า
กระจกมองข้างบานใหญ่มาก พับเก็บได้อัตโนมัติ
เบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ต
มีโลโก้ Juke ด้วย
เบาะสีดำ ผิวมัน เย็บด้วยด้ายสีแดง นั่งแล้วรู้สึกแข็งเหมือนรถสปอร์ต ไม่ใช่สไตล์นุ่มสบายแบบรถหรู
ที่พักเท้าซ้ายมีให้เล็กน้อย ที่เปิดฝากระโปรงหน้าและฝาถังน้ำมันซ่อนอยู่ตรงนี้
พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต
มาตรวัดและจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่
ช่องลมเครื่องปรับอากาศ คล้ายกับของรถเมล์ปรับอากาศสีส้มบางรุ่น
ปุ่มควบคุมความบันเทิงและหน้าจอ อยู่ที่ฝั่งซ้ายของพวงมาลัย
สวิตช์ที่ปัดน้ำฝนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
สวิตช์ไฟส่องสว่างด้านหน้าและไฟเลี้ยว เหมือนกับรถยนต์นิสสันรุ่นอื่น ๆ
พวงมาลัยหุ้มหนัง ยังไม่กระชับมือเท่ารถยุโรป และมีความลื่นมันเกินไปหน่อย
สวิตช์ปรับกระจกมองข้าง
ที่บังแสงเหนือมาตรวัด ดีไซน์แปลก ดูคล้ายฝาปิด แต่ปิดไม่ได้ มีช่องให้แสงลอดผ่านเข้ามาได้บางส่วน
ไฟส่องแผนที่ 3 ทิศทาง และกระจกมองหลัง
ที่บังแดด มีกระจกส่องหน้าทั้ง 2 ที่นั่ง
เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ และระบบควบคุมการขับขี่
เครื่องเสียงสามารถเสียบ USB Flashdrive ได้ทันทีที่ด้านหน้า
วิทยุ FM บันทึกได้ 12 คลื่นสถานีโปรด
เครื่องเสียงเป็นระบบ Android แกนหลักของระบบดูคล้ายกับโทรศัพท์มือถือที่หลายคนคุ้นเคยดี
เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตอลพร้อมปุ่มควบคุมการขับขี่ รวมไว้ในเครื่องเดียว
ช่องจ่ายไฟสำหรับ Car Charger
ปุ่ม Start อยู่ใกล้สวิตช์ที่ปัดน้ำฝน
เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมปุ่ม Kick down
หลุมวางเครื่องดื่ม ออกแบบได้ดี ไม่ชิดกันเกินไป
ที่วางแขนผู้โดยสารและคนขับ
สามารถพับขึ้นหรือเปิดออกมาใส่ของได้
ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า กว้างเป็นพิเศษ
ใกล้ฐานของเสาหลังคา ติดตั้งลำโพง Tweeter เอาไว้ ถัดมาทางขวาเป็นช่องเก็บถุงลมนิรภัย ที่ออกแบบมาไม่ให้วางของบนนั้นได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ไม่ให้มีอะไรมาขัดขวางการพุ่งออกมาของถุงลมนิรภัย
กุญแจรีโมท
ดึงกุญแจออกได้ เพื่อเปิดประตูรถเมื่อรีโมทใช้งานไม่ได้
สถานะปกติ เป็นเครื่องปรับอากาศ
กดสลับมาที่ D-MODE จะกลายเป็นการควบคุมฟังก์ชั่นการขับขี่ จะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์หรือข้อความที่กำกับไว้ที่ปุ่มทั้งหมด จะเปลี่ยนไป
เปลี่ยนโหมดการขับขี่เป็นแบบสปอร์ต เพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้สูงสุด
ในโหมด Eco มีการบันทึกสถิติการใช้น้ำมันในแต่ละวันเอาไว้ดูย้อนหลังได้ ให้คะแนนการขับขี่แบบประหยัด
บันทึกความเร็วเฉลี่ยและระยะทางการขับขี่
ปรับตั้งค่าความสว่าง หน่วยวัด ระบบไฟส่องสว่างทั้งหมดของรถคันนี้ได้จากแผงควบคุมนี้
มาดูฝั่งผู้โดยสารกันบ้าง
เบาะผู้โดยสาร ปรับความสูงไม่ได้
ที่พิงศีรษะ ทำมุมได้เหมาะสม ไม่โน้มเอนไปข้างหน้าหรือข้างหลังมากเกินไป
ห้องโดยสารตอนหลัง เข้าออกได้ลำบากเล็กน้อย เพราะตัวรถไม่ได้ยาวเหมือนรถเก๋งซีดาน
เพดานห้องโดยสารเทลาดต่ำ ทำให้ผู้โดยสารที่มีความสูง 180 ซม. ขึ้นไป จะมีปัญหาศีรษะชนเพดานแน่นอน
ประตูติดตั้งลำโพงเอาไว้ด้วยเช่นกัน
เบาะหนังผิวเรียบ สีดำมัน
ไม่มีช่องลมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้องโดยสารตอนหลัง
เบาะนั่งรองก้น ไม่ได้สั้นเกินไป นั่งได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่เน้นเอาใจวัยรุ่นเป็นพิเศษ
ที่พิงศีรษะ มีให้ครบทุกที่นั่ง
เข็มขัดนิรภัยก็มีให้ครบทุกที่นั่ง
สอดเท้าเข้าไปใต้เบาะหน้าได้แบบไม่อึดอัด
Leg room หรือพื้นที่วางขา กว้างเพียงพอ
ไม่มีที่วางแขนมาให้
ลูกเล่นด้านความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวก
เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง
รองรับ Multitouch เต็มรูปแบบ สั่งงานได้ทั้ง 2/3/4 นิ้ว
ใช้งาน Wi-Fi ได้ด้วย
ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ออกมาให้กับอุปกรณ์อื่นได้
เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธได้ง่ายกว่ารถยนต์บางยี่ห้อ
ปรับ Balance และ Preset EQ พร้อมระดับเสียงทุ้มแหลมได้
ปรับความสว่างหน้าจอได้ แต่หน้าจอไม่ตัดแสงสะท้อน จึงสู้แสงแดดจ้าไม่ได้เลย
แสดงผลได้ทั้งภาษาอังกฤษและไทย
รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
เครื่องเสียงสามารถถอดออกได้
ถอดและใส่เข้าไปได้ไม่ยาก
ปุ่มกด เพื่อถอดชุดเครื่องเสียงออกมา
มือจับที่หลังคาใกล้บานประตู ทั้งคันมีเพียง 1 ตำแหน่ง ในฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าเท่านั้น
ด้านหลังเบาะหลัง สามารถวางทิชชู หมวก หรือร่มได้
พรมรองพื้นที่แถมมากับตัวรถ ตรงกลางพื้นจะนูนขึ้นมาเล็กน้อย
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ค่อนข้างแคบ และแสดงอัตราสิ้นเปลืองในหน่วย l/100km ไม่ใช่ km/l
ทดสอบไฟส่องสว่าง
ไฟท้ายและไฟเลี้ยว
ไฟเบรคดวงที่ 3
ไฟท้ายมีขนาดเล็กไปหน่อย ทั้งที่ตัวรถมีขนาดใหญ่
ไฟตัดหมอกหน้า
ไฟหน้าแบบฮาโลเจน
ไฟหรี่และไฟเลี้ยว
ยังไม่มีไฟ Daytime Running Lights ที่เป็น LED ในรุ่นปัจจุบัน
กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะห่างกับรถคันหลัง ช่วยให้ถอยจอดอย่างสะดวก
ทดสอบขับ
ผลการทดสอบขับทางไกลในโหมด Sport เน้นความเร็ว เร่งแซงแบบวัยรุ่นที่ต้องการรีบขับไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 9.0 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 11.11 กิโลเมตร/ลิตร
แต่ถ้าขับในโหมด Eco แบบขับไปเรื่อย ๆ ความเร็วคงที่ ไม่มีการเร่งแซงแบบปรู๊ดปร๊าดสไตล์วัยรุ่น ก็สามารถทำได้สูงสุด 6.7 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 14.92 กิโลเมตร/ลิตร เป็นข้อมูลจากสถิติอัตราสิ้นเปลืองที่ Juke บันทึกเอาไว้ในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่เป็นการทดสอบขับในโหมด Normal หรือ Sport มากกว่า จึงทำให้ใน 3 วันล่าสุด ทำได้ 11.11 กิโลเมตร/ลิตร
สิ่งที่ประทับใจ
สิ่งที่ยังไม่ประทับใจ
คู่แข่ง
ดูรายละเอียด สเปคและรายละเอียดตารางผ่อนของ Nissan Juke ได้ที่
ใหม่ Nissan Juke 2014-2015 ราคา นิสสัน จู๊ค ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Nissan Juke สปอร์ต ร้อนแรง สะกดทุกสายตาให้เหลียวมอง "