รีวิว Porsche 718 Boxster ใหม่ สัมผัสแรกสปอร์ตเปิดประทุนตัวล่าสุด ขับดีขึ้นแต่ราคาเป็นมิตรกว่าเดิม ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน Big Motor Sale 2016

รีวิว Porsche 718 Boxster ใหม่ ลองขับก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Big Motor Sale 2016

เมื่อวันที่ 29 กค. ที่ผ่านมา ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้จัดกิจกรรม เชิญสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะ Posche 718 Boxster ใหม่ ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

การทดสอบในครั้งนี้เราได้ทดสอบรถ 2016 Porsche 718 Boxster ใหม่ ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อต้นปีที่งาน 2016 Geneva Motor Show และในประเทศไทยจะมีกำหนดเปิดตัวในงาน Big Motor Sale 2016 ที่จะมีถึงเดือนนี้

ก่อนมาเข้าตัวรีวิว เราจะมาเท้าความถึงแตกต่างของรุ่น Cayman กับ Boxster กันก่อน Cayman เป็นหลังคาแข็ง Hard Top  ส่วน Boxster เป็นแบบเปิดประทุนหลังคาผ้า (Convertible) สังเกตุง่ายๆ Cayman จะมีการเปิดประตูท้ายแบบยกขึ้นทั้งบานกระจกหลัง ตัวองศาหลังคาเทลาดไปด้านท้าย ขณะที่ Boxster จะมีเพียงเสา A เท่านั้น หลังคาผ้าใบ ฝากระโปรงหลัง แบนราบ

รูปลักษณ์ Porsche 718 Boxster ใหม่  แม้ว่าเป็นการปรับปรุง Minor Changed จาก Boxster 981 แต่ก็มีรายละเอียดแตกต่างไม่น้อย ซึ่งหลักๆ เห็นจะเป็นไฟหน้า ที่มากับไฟ DRL LED ในโคม 4 ดวง

ไฟท้ายใหม่ ตำแหน่งสปอยเลอร์ใหม่ และเพิ่มไฟทับทิม

ด้านข้าง ช่องลมที่บริเวณประตูแบบใหม่ นอกจากนั้น รายละเอียดของตัวรถอีกหลายส่วนก็ได้ปรับปรุงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง กระจกบังลมหน้า ภายในของหลังคาประทุน

สำหรับภายในห้องโดยสาร

จุดต่างหลังๆ คือ รูปแบบพวงมาลัย 3 ก้าน ใหม่ ที่เพิ่มปุ่มวงกลมสำหรับปรับโหมดการขับขี่ได้อยากสะดวก รวมไปถึงชุดแผงหน้าปัดและคอนโซลที่ได้รับการดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด

ที่แผงคอนโซลกลางใต้คันเกียร์ยังพบปุ่มปรับฟังชั่นต่างๆ อาทิ ปุ่มปรับช่วงล่างไฟฟ้า, ระบบ Tracton Control, Auto Start/Stop, ปรับระดับ Spoiler และหลังคาเปิดประทุน

สมรรถนะในการขับขี่ Porsche 718 ได้ทำการ Downsized เครื่องยนต์ลงจากตัวก่อน ซึ่งใน Boxster คันนี้ จะใช้เครื่องยนต์ Boxer 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.0 ลิตร วางกลาง MR  ใช้เครื่องยนต์ Boxer 6 สูบ เรียงนอน ความจุ 2.7 ลิตร ให้พละกำลัง 300 แรงม้า@6,500rpm และแรงบิด 380Nm@1950-4,500rpm ส่งกำลังผ่านเกียร์ PDK 7-Speed อันเลื่องชื่อของ Porsche ลงสู่ล้อหลัง มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.9 วินาที  มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 275 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำแค่เพียง (13.5-14.4 กม./ลิตร) คายไอเสียที่ 158 กรัม/กม.

หากเทียบกับ Porsche 981 (ก่อนโฉมปัจจุบัน) แล้ว จะเห็นได้ว่าการ Downsized ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ ใน 718 ในครั้งนี้ ส่งผลให้มีสมรรถนะที่ดีกว่าในทุกด้าน ทั้งกำลัง แรงบิด อัตราเร่ง Top Speed ประหยัดน้ำมันขึ้น และคายไอเสียลดลง

สำหรับไลน์สนามการวาง Track  ทดสอบ 718 Boxster ในครั้งนี้ ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11  ครั้งนี้

มีทางตรงให้ทดสอบอัตราเร่ง ก่อนที่จะซอยออกเป็น Chicane ช่องหักหลบซ้าย-ขวา และเข้า Slalom ซ้าย-ขวา-ซ้าย ซึ่งระยะถือว่าห่างกันมาก ทำให้สามารถเข้าได้ด้วยความเร็ว

ในช่วงนี้สัมผัสได้เลยว่า Handling ยังคงเฉียบคม และว่องไว ด้วยสไตล์เครื่องยนต์วางกลาง MR เห็น Pylon วางห่างกันแบบนี้ อย่าเผลอยัดคันเร่งเกินไปล่ะ เพราะอาจเร็วเกินจนเข้า Pylon ถัดไปไม่ได้ เนื่องจากสัมผัสอาการ Oversteer (ท้ายปัด) ออกมาเล็กๆ แต่ก็ไม่น่ากลัวจนควบคุมยางอะไร หลังจากผ่านพ้นช่วง Slalom  แล้ว จะเป็นโค้งซ้าย U-Turn กว้างๆ  ก่อนที่จะตรงกลับมา  และจะพบโค้ง S แคบแบบคอขวด ซึ่งควรที่จะเปิดไลน์ซ้ายหน่อย ก่อนเข้าทางโค้งขวา และหักวงเลี้ยวคืนพวงมาลัยซ้าย พร้อมเดินคันเร่งออก หลังจากนั้นก็วิ่งไปจนสุดทางเพื่อ U-Turn ซ้าย กลับรถอีกครั้งเป็นอันครบรอบ 1 Lap

ในด้านของฟีลลิ่งการขับขี่นั้น รอบแรกลองใน Mode Normal คันเร่งสไตล์ยึดติดกับพื้นนี้ อาจจะยังดูแข็งไปนิดช่วงกดออกตัว แต่เมื่อเติมน้ำหนักคันเร่งเพิ่ม สัมผัสได้ถึงทอร์คที่มีมาให้ตั้งแต่รอบต่ำ มาไว บูสต์หนักใช้ได้ดึงให้หลังติดเบาะได้ในทันที ตั้งแต่รอบต่ำออกตัว แม้จะเป็น Normal Mode ที่ยังเน้นความสบายในการขับขี่แม้จะขับซิ่งก็ตาม การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ดีราบรื่นนุ่มนวลตามแบบฉบับเกียร์ PDK ของ Porsche

ในรอบถัดมาเราปรับมาที่ Sport+  จะพบได้ว่า  คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองได้รวดเร็วออกตัวกระฉับกระเฉงขึ้นมาไวดั่งใจสั่ง  ในช่วงยกคันเร่งเข้า Slalom ระบบช่วย รักษารอบเครื่องเอาไว้ ให้เราพร้อมเติมคันเร่งส่งต่อเรียกกำลังได้ทันที ช่วงทางตรงเหยียบคันเร่งมิดเข้า Redline ช่วงจังหวะเปลี่ยนเกียร์ ยังคงกระชากหนักดี แบบการขับรถเกียร์ Manual สัมผัสได้ถึงแรง G กระชากที่มากกว่า

ขณะที่เสียงเครื่องยนต์สไตล์ Boxer ที่ดูทุ้ม ในบล็อก 4 สูบนี้ แอบรู้สึกว่าแผดกว่า ตัวเก่าที่ใช้แบบ 6 สูบ และด้วยเครื่องยนต์วางกลาง MR ทำให้เราได้ยินเสียงเครื่องยนต์ออกมาได้ชัดเจนจากด้านหลัง สร้างความเร้าใจดียิ่งขึ้น

Mode Sport+ นี้ระบบ Traction Control จะเข้ามาช่วยน้อยกว่า คุณจะพบเสียงเอี๊ยดอ๊าดของยางได้ง่ายขึ้น เมื่อขับในโหมดนี้ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่น่ากลัวอย่างใด ช่วงล่างยังเฟิร์มขึ้น และที่สำคัญพวงมาลัยผ่อนแรงไฟฟ้า ที่ทำหน้าที่ได้ดีแม่นยำ การหักเลี้ยวไม่ต้องเติมวงเลี้ยวเยอะ ก็สามารถเข้าได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้น้ำหนักในการหักเลี้ยวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่ขณะออกตัวน้ำหนักพวงมาลัยก็เบาสบายเหมือนรถยนต์บ้านๆ ทั่วไป ซึ่งเรียกได้ว่า ตอบสนองได้ทุกรูปแบบการใช้งานเลยทีเดียว

สรุป  2016 Porsche 718 Boxster ใหม่ ที่ทำการลดทั้งจำนวนสูบและความจุ เป็นแบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร แต่กลับขับดีกว่าเดิมตอบสนองได้ว่องไว้ขึ้น และเป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น Porsche 718 ช่วยให้คุณสัมผัสความเป็นรถสปอร์ตจาก Stuttgart เครื่องวางกลางขับหลัง (MR) ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แม้จะมีสมรรถนะที่แรงกว่าเดิม แต่ยังคงการขับขี่ที่ควบคุมง่าย ลูกเล่นในตัวรถก็มีให้ปรับใช้ได้อย่างมากมาย Porsche 718 Boxster คันนี้พร้อมที่จะให้คุณขับใช้งานในประจำวันได้อย่างสบาย หรือจะต้องการขับสนุกไปยันลงวิ่ง Track Day ก็ทำได้ ที่สำคัญราคาถูกกว่าเดิม หากคุณต้องการสัมผัส Porsche ล่ะก็ 718 ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีเพราะ 718 Cayman เริ่ม 6.99 ล้าน จากเดิม ถูกกว่าเดิมถึง 2 ล้านบาท  โดยมีราคาดังนี้

Porsche 718 Cayaman ราคาเริ่มต้นที่ 6.99 ล้านบาท
Porsche 718 Cayaman ราคาเริ่มต้นที่ 8.3 ล้านบาท
Porsche 718 Boxster ราคาเริ่มต้นที่ 7.2 ล้านบาท
Porsche 718 Boxster S ราคาเริ่มต้นที่ 8.5 ล้านบาท

ขอขอบคุณ Porsche ประเทศไทย โดย AAS Auto Service  สำหรับกิจกรรมการทดสอบ Porsche 718 Boxster ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai