รีวิว Suzuki GSX-S1000/S1000f “Blue Twin” คู่หูคลาสพัน หัวใจสปอร์ต
เมื่อปีที่แล้ว ส.ค. 2015 ปีที่ผ่านมาทาง Thai Suzuki ได้เปิดตัวรถคลาส 1000 ใหม่ 2 รุ่น 2 สไตล์ ได้แก่ Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F ซึ่งเปิดตัวภายหลังจาก EICMA 2014 โดยการเปิดตัวในปีที่แล้วนั้น สร้างความน่าตื่นเต้นให้แก่วงการรถคลาส 1000 ไม่น้อย เพราะว่าเป็นรถ Bigbike 1000cc ที่มีราคาต่ำที่สุด (ณ ขณะนั้น) 5.79 แสนบาท และ 5.99 แสนบาท สำหรับ 100 คันแรก หลังจากนั้นก็ได้ปรับเป็นราคาปกติ โดยเพิ่มขึ้นมาอีก 2 หมื่นบาท ต่อรุ่น
และในวันนี้เราได้มีโอกาสมารีวิวทดสอบ คู่แฝดคลาสพัน 4 สูบ จาก Suzuki กันเสียทีกับ รีวิว Suzuki GSX-S1000/S1000f 2 ฝาแฝด Blue Twin กันครับ
ทั้ง Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F ถือเป็นรถ Naked และ Sport Touring ซึ่งมีบอดี้ลำตัวที่เหมือนกันเกือบทั้งคัน ยกเว้นเฉพาะในส่วนด้านหน้าที่ต่างกัน
S1000 เป็นโฉมเปลือย แฟริ่งด้านหน้า จะแยกกัน 3 ชิ้น ชุดไฟหน้า ปีกข้าง และอกล่าง ไฟเลี้ยวจะอยู่ด้านบนแผงคอ
กระจกมอง S1000 ต้องปรับทั้งตัวกระจก ในแบบรถจักรยานยนต์ทั่วๆไป
S1000f แฟริ่งด้านหน้า จะรวมเป็นชิ่นเดียว ขณะที่ไฟเลี้ยวของ S1000f จะตกมาอยู่ที่แฟริ่งด้านข้าง
กระจก S1000f จะปรับได้จากใบกระจกด้านใน ในแบบรถยนต์ และกระบะรุ่นเก่า
*S1000 (Naked) คันที่เราได้นำมาทดสอบนั้น ได้มีการติดตั้งวินชิลด์แต่งสีดำ
ชุดแผงหน้าปัดแสดงผลแบบ LCD วัดรอบเครื่องยนต์สเกลในแนวนอนด้านบน (Redline 11,5000pm), มาตราวัดความเร็วตัวเลขดิจิตอล, นาฬิกา, แสดงตำแหน่งเกียร์, วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์, เกจ์น้ำมัน, แสดงอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ย และ Real Time, ระยะทางคงเหลือที่วิ่งได้ และ Traction Control ปรับได้ 3 ระดับ
สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่มควบคุมใช้เลือกปรับโหมด TCS และมีปุ่มไฟสูง ซึ่งการปรับตั้งค่าอื่นๆ จะต้องปรับที่ชุดมาตรวัด
ก้านเบรกปรับได้ 6 ระดับ ฝั่งคลัชไม่สามารถปรับได้
แฮนด์บาร์อลูมีนัม จาก Renthal Fatbar ชื่อดังจากอังกฤษ เบา แต่แข็งแรง
ล้ออลูมีนัม 6 ก้านจาก Enkei สวมยาง Dunlop Sportmax ไซส์ 120/70/R17 ด้านหน้า, 190/50/R17 ด้านหลัง
Suzuki GSX-S1000/S1000f
ทั้งคู่มีความสูงเบาะเพียง 810 มม.
น้ำหนัก Dry Weight ที่ 209 / 214 กก. (S1000/S1000f) ถือเป็นจุดเด่น เกินกว่าเพื่อนคลาส 1000 คันอื่น เพราะน้ำหนักตัวเทียบเท่ารถพิกัด 650cc
ความจุถังน้ำมัน 17 ลิตร
ในด้านของท่านั่ง ทั้ง S1000 และ S1000f จะมีท่านั่งที่เหมือนกัน ด้วยการใช้ Fatbar Hand จาก Renthal และมีระดับแฮนด์บาร์ที่ไม่สูงไม่ต่ำเกินไป ข้อศอกงอพอประมาณ จึงทำให้มันขี่ทางไกลได้อย่างผ่อนคลาย และรวมไปถึงการควบคุมรถในจังหวะเลี้ยวที่ดี ตำแหน่งวางเท้าที่ไม่งอ และไม่ตึงจนเกินไป
แต่อาจสัมผัสได้ถึงความต่างเล็กน้อย คือ S1000 หน้าสั้นกว่า น้ำหนักในการคุมอยู่ชิดถังน้ำมันใกล้ลำตัว ให้ความกระชับคล่องตัวขณะเลี้ยวซอกแซก
สำหรับ S1000f หน้ายาวกว่าเล็กน้อยจากชุดแฟริ่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตัว Naked แต่ให้ความมั่นคงกว่าเมื่อขี่ด้วยความเร็ว และการควบคุมรถในโค้งกว้าง
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 999cc ที่พัฒนาจากเครื่อง Suzuki GSX-R1000 2005-2008 เนื่องจากมีช่วงชักยาว, ห้องเผาไหม้ขนาดเล็กกะทัดรัด Detuned ลงให้จาก Track to Street มีข้อโดดเด่นในการส่งกำลังที่ดีในรอบต่ำและกลาง มีกำลังสูงสุด 145 แรงม้า (107 kw) @10,000rpm และแรงบิด 106Nm @9,500rpm
กำคลัช เตะเกียร์เตรียมออกตัว พบว่าน้ำหนักคลัชไม่หนักมือเท่าไร และการเข้าเกียร์ก็ทำได้ไม่ยาก เกียร์ไม่แข็ง รวมไปถึงการหาตำแหน่งเกียร์ว่างก็หาง่ายในแบบรถญี่ปุ่นทั่วๆไป ลองเบิ้ลคันเร่ง หืม… ใช่เลย ซุ่มเสียงดุดัน เร้าใจดีทีเดียว จากปลายท่อไอเสียออกข้างที่มีรูปทรงปลายตัดเฉียงสั้น
เมื่อเปิดคันเร่งออกตัว การตอบสนองคันเร่งช่างลื่น สมูท นุ่มนวลกว่า ค่ายเขียว ที่เราได้เคยทดสอบไป ไม่มีกระชากแต่อย่างใด นิสัยดูเชื่องมือ แต่ก็แรงตามสั่ง
ขณะที่พละกำลังนั้นไม่ได้ด้อยกว่าอย่างแน่นอน แม้จะขึ้นแบบนิ่มๆ หากขี่แบบชิลๆ เปลี่ยนเกียร์ได้ทันทีตั้งแต่รอบเครื่อง 2-3000rpm
การขี่แบบ Street Bike คุณสามารถใช้รอบเครื่องในช่วงไม่เกิน 5,000rpm ก็รีดกำลังออกมาได้เพียงพอต่อการเร่งแซง
หรือ การชะลอรถในเกียร์สูงๆ อย่างเกียร์ 5-6 ในบางครั้งที่รอบเครื่องระดับ 4-5,000rpm นี้ คุณไม่จำเป็นต้อง Shift Down (ลดเกียร์ลง) เพื่อรีดกำลังเพิ่ม เพราะพละกำลังที่มีอยู่นั้นเพียงพอต่อการเปิดคันเร่งเพื่อเร่งแซงได้ในเกียร์สูงๆ
สำหรับในช่วงความเร็วปลาย เราได้มีโอกาสลองกดดูเล่นๆ ถึงความเร็วระดับ 210 กม./ชม. @10,000rpm หากดูจากพละกำลังและรอบเครื่องที่ยังพอเหลือน่าจะทำ Top Speed ได้ในช่วง 230-240 กม./ชม.
ขณะที่ไอความร้อน ถือว่าทำได้ดีกว่าเพื่อนคลาสพัน ค่ายอื่นเล็กน้อย ถ้าขี่เดินทางไกลไม่มีปัญหาเรื่องมาตรวัดความร้อนขึ้นแต่อย่างใด
ด้านอัตราสิ้นเปลืองนั้น ทำได้ที่ราว 18 กม./ลิตร จากการยืนพื้นด้วยความเร็วเฉลี่ย ราว 120 กม./ชม. แต่มีทำเร่งแซง และความเร็วสูงบ่อยครั้ง
ระบบกันสะเทือน
แชสซีส์อลูมีนัม ที่มีน้ำหนักเบากว่า GSX-R1000 เสียอีก + สวิงอาร์มอัลลอย อานิสงค์จาก
โช้คอัพหน้าขนาดแกน 43มม. แบบ inverted fork จาก KYB ปรับระดับได้เต็มพิกัด
โช้คอัพหลังเดี่ยว วางตั้ง ซึ่งการวางโช้คในแบบนี้ให้สไตล์การขี่ที่นุ่มนวล เหมาะกับการเป็น Street Bike เดินทางและใช้งานในชีวิตทุกวันได้อย่างแท้จริง
การซับแรงทำได้ดีพอควร แม้ช่วงรีบาวน์คืนตัวของโช้คหลังมากไปนิด แต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพลิกโค้งแต่อย่างใด การควบคุมรถ ทำได้อย่างคล่องแคล่วเกินหน้าเกินตารถ Street Bike คลาส 1000 คันอื่นๆ
นอนจากนี้ ขณะที่การขี่ด้วยความเร็งสูงนั้น ยังไม่พบอาการยุบย้วยแต่อย่างใด เพียงแต่อาจไม่ถูกใจพวกที่ต้องการความเฉียบคมในจังหวะเข้าโค้งที่หนักหน่วงนัก หรือจะว่าง่ายๆ เอาไปขี่ Track Day นานๆ ครั้งน่าจะ OK แต่ถ้าเอาไปใช้ลงแข่ง หรือแบบ Racing จริงจังอาจจะยังไม่เหมาะนัก
ระบบเบรก ABS แบบทวินดิสก์ขนาด 310 มม. พร้อมด้วย Radial Mount Caliper Brembo Monobloc 4 พอร์ต ซึ่งเป็นคาลิปเปอร์ชนิดเดียวกันกับ GSX-R1000 ซึ่งประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วนั้นจึงให้ความมั่นใจได้ดี
แต่ทว่าน้ำหนักปั๊มเบรกนั้นยังไม่ดูแน่นหนึบมือมากนัก หากเทียบกับคู่แข่งที่เป็นเบรก Radial Monobloc แต่ใช้ปั๊มเบรกบนลอย ซึ่งมันยังไม่อาจเทียบกับน้ำหนักของเบรกรถ Superbike GSX-R1000
ฟีลลิ่งน้ำหนักของก้านเบรกนั้นจะไปทางตระกูล 650 อย่าง Gladius, V-Strom เสียมากกว่า แต่ทว่าพละกำลังของคาลิปเปอร์เบรกที่หนักหน่วงในการชะลอความเร็วมีประสิทธิภาพกว่า
กล่าวคือ การเซ็ทลักษณะแป้นเบรกที่ดูต้องลงลึก ไม่หนึบมือเช่นนี้อาจจะดูเหมาะแก่รถที่ไม่มี ABS (หรือปิดระบบ ABS ได้) มากกว่า
สรุป Suzuki GSX-S1000/S1000f 2 คู่หู 4 สูบคลาสพันในร่าง Naked Street และ Sport Touring ที่ได้อานิสงค์การใช้ชิ้นส่วนมาจาก Superbike GSX-R1000 อย่างมากมาย ซึ่งทำให้มันเป็นรถ Street Bike ที่สมบูรณ์แบบ แม้รูปลักษณ์ หลายคนอาจมองว่าไม่โดนใจ หรือดูไม่ล้ำ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะจุดเด่นอันมากมาย ทั้งความเบา ที่ทำให้ควบคุมง่าย และคล่องแคล่วราวกับรถพิกัด 650cc พร้อมบุคลิกนิสัยที่เชื่องมือเป็นมิตร
นั่นจึงทำให้ GSX-S1000/S1000f เหมาะกับผู้ที่เน้นการขี่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงขี่ทางไกล ที่มีกำลังเหลือเฟือ แถมนั่งสบายในการเดินทางอีก
เรียกได้ว่าทั้ง 2 คู่หู Blue Twin จากซูซูกิเป็นรถตัวพัน ที่ครอบคลุมทุกการใช้งานอย่างแท้จริง เพียงแต่อาจไม่ถูกใจพวกบ้าทอร์คหนักๆ สไตล์ดิบๆ เท่านั้น
จุดเด่น
จุดที่อยากให้มีเพิ่มเติม
ขอขอบคุณ Thai Suzuki สำหรับรถ Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F ราคา 5.99 แสนบาท และ 6.19 แสนบาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver & Photo
จิระศักดิ์ ติ๊บอ้าย Co-Rider & Photo
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Suzuki GSX-S1000/S1000f “Blue Twin” คู่หูคลาสพัน หัวใจสปอร์ต "