รีวิว Toyota Corolla Cross รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่มาพร้อมความสะดวกสบาย และความประหยัด
เรียกได้ว่า Toyota Corolla Cross เป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายฝ่าวิกฤต Covid-19 มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี
โดยเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทาง Toyota เองก็ได้หมายมั่นปั้นมือที่จะเสริมทัพรถอเนกประสงค์เติมเต็มช่องว่างระหว่าง Toyota Fortuner กับ Toyota C-HR
และในวันนี้ทีมงาน 9carthai.com ได้นำมาทดสอบ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะในการขับขี่ พร้อมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจแก่ผู้อ่านทุกท่าน ส่วนผลจะเป็นยังไง ไปติดตามกันได้เลย
สำหรับ Toyota Corolla Cross รุ่นที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นรุ่นท็อปสุด Hybrid Premium Safety เจ้าของค่าตัว 1,199,000 บาท ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นเต็มคัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันที่สุด
โดยในส่วนของดีไซน์ภายนอก Toyota Corolla Cross รุ่น Hybrid Premium Safety มาพร้อมกับ ไฟหน้า LED Projector แบบ Hybrid พร้อมเส้นสายของไฟ DRL แบบ LED Light Guiding
ส่วนกระจังหน้ามาในทรงดุดันคล้ายกับ Toyota REVO Rocco ซึ่งจุดนี้หลายท่านก็อาจจะไม่ชอบในส่วนของดีไซน์ แต่โดยรวมก็ถือว่าช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดูเป็น SUV ที่แข็งแกร่งได้ดี
ตรงกลางกระจังหน้าติดตั้งโลโก้ Toyota สีฟ้า (บ่งบอกความเป็น Hybrid) โดยในส่วนของโลโก้นี้ภายในจะเป็นเรดาร์ที่คอยควบคุมการทำงานของระบบความปลอดภัยรอบคัน ซึ่งจะทำงานร่วมกับกล้องมองภาพ 360 องศาที่ติดตั้งอยู่รอบรถ
อีกทั้งในส่วนของไฟหน้า LED Projector แบบ Hybrid นั้น ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home และระบบเปิด-ปิดไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติอีกด้วย ด้านล่างกันชนออกแบบให้มีไฟตัดหมอกแบบ LED
ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับเส้นสายและส่วนเว้าส่วนโค้งที่ทำให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยว และบึกบึนยิ่งขึ้น กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยวพร้อมระบบ Reverse Link ในตัว
ด้านบนหลังคาออกแบบให้มีราวแร็คอเนกประสงค์สีดำ พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม อีกทั้งยังออกแบบให้มีมูนรูฟที่สั่งการด้วยระบบไฟฟ้า ยกระดับความเป็น SUV สุดหรูไว้อีกด้วย
ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED Light Guiding และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ด้านในประตูท้าย
ส่วนไฮไลท์เด็ดของ Toyota Corolla Cross นั้นอยู่ที่ ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated (ใช้เท้าเตะที่ใต้กันชน)
ซึ่งถือเป็นอ็อพชั่นที่ล้ำสมัยที่สุดในคลาสนี้ (รุ่นอื่นๆ ในคลาสไม่มี)
ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18″ (2 รุ่นล่างจะเป็นขนาด 17″) รัดด้วยยาง Michelin Primacy ขนาด 225/50R18 ซึ่งเป็นซีรีย์ที่เน้นนุ่มนวล มีระยะเบรกที่สั้น และเกาะถนน ส่วนระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
มิติตัวถังของ Toyota Corolla Cross
สำหรับมิติตัวถังโดยสรุปแล้ว ต้องบอกว่า Toyota Corolla Cross นั้นมีขนาดตัวถังที่กว้างและใหญ่กว่าคู่แข่งในคลาสทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Honda HR-V, Mazda CX-30 และ Nissan Kicks e-Power
สำหรับดีไซน์ภายในของ Toyota Corolla Cross นั้น ถูกยกมาจาก Toyota Corolla Altis ทั้งหมด แต่มีการตกแต่งสีภายในใหม่ด้วยสีแดง Terra Rossa
มาพร้อมกับเบาะหนังสีแดง Terra Rossa ที่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับ ส่วนฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าเป็นแบบปรับแมนนวล จะงกทำไม!
แต่อย่างน้องครั้งนี้ Toyota Corolla Cross ก็มีหลังคามูนรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้ามาให้แล้วนะ
พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น ให้การควบคุมที่แม่นยำและปรับความหน่วงตามความเร็วตามแบบฉบับพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) หน้าปัดเรือนไมล์สุดล้ำแสดงผลแบบดิจิตอลจอสีผ่านหน้าจอ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว
บริเวณคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play , Bluetooth โดยจะมีช่องเสียบ USB สำหรับอินโฟเทนเมนท์ให้เพียงตำแหน่งเดียวที่ด้านหน้า (อันนี้ก็งกอีกแหละ) ซึ่งคู่แข่งในคลาสเขามีช่องเสียบ USB แบบนี้ให้อย่างน้อยก็ 2 จุดที่ด้านหน้า
แต่ Toyota Corolla Cross นั้นแก้เกมส์ด้วยการมีช่องเสียบ Power Outlet 12V ที่คอนโซลกลางให้แทน ด้านระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ Dual Zone ปรับอุณหภูมิด้านซ้าย – ขวาอย่างอิสระ
ส่วนสิ่งที่ Toyota Corolla Cross ไม่มี แต่คู่แข่งในคลาสเขามีก็คือ เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold, แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift (Mazda CX-30 มี) รวมไปถึงชุดเครื่องเสียงลำโพงที่เป็นรอง Mazda CX-30 อย่างชัดเจน เพราะรายนั้นเขาให้ BOSE มา 12 ตำแหน่ง
แต่!! Toyota Corolla Cross ก็มีกระจกมองหลังเลนตัดแสงอัตโนมัติมาให้ ซึ่งเป็นรองแค่ Nissan Kicks e-Power ซึ่งรายนั้นเขามีกล้องมองภาพด้านหลังที่กระจกมองหลังให้เลย
ส่วนภายในห้องโดยสารตอนหลังอันนี้ Toyota Corolla Cross เริ่ดสุด มาพร้อมความกว้างขวาง นั่งสบาย โดยมีความโป่งโล่งและใหญ่กว่า Toyota C-HR และ Mazda CX-30 อย่างชัดเจน
อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งสามารถปรับเอนได้ 2 Step ซึ่งรุ่นอื่นไม่สามารถทำได้ต้องนั่งแบบชันๆ มีพนักวางแขนและที่วางแก้วน้ำมาให้ คอนโซลกลางออกแบบให้มีช่องปรับอากาศ
จุดเสียบชาร์จไฟ USB มาให้อีก 2 ตำแหน่ง (แทนที่จะเพิ่มข้างหน้าด้วย) และเบาะนั่งหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 (แต่จะไม่เรียบลงไป)
ส่วนพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านท้ายรถก็มีขนาดใหญ่ สามารถจุสัมภาระได้เยอะมาก แต่!! Toyota Corolla Cross จะไม่มียางอะไหล่มาให้ โดยจะให้มาเป็นชุดปะยางฉุกเฉินแทนที่ด้านใต้พรมท้ายรถ ส่วนการพับเบาะลงไป แม้มันจะไม่เรียบเสมอกันแต่ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
Toyota Corolla Cross ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid มอบสมรรถนะสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
โดยมีการพัฒนาในส่วนของระบบ Hybrid ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อความทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร
โดย Toyota Corolla Cross จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
ด้านสมรรถนะนั้น ถ้าว่ากันตามสเปคต้องบอกว่า Toyota Corolla Cross มีพละกำลังเครื่องยนต์ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มนี้ แต่มีความประหยัดที่ทำได้ดีที่สุดในคลาส สู้สีกับเทคโนโลยี e-Power ใน Nissan Kicks โดย Toyota Corolla Cross จัดเป็นรถยนต์ Hybrid รุ่นเดียวในคลาสนี้
ระบบความปลอดภัย Toyota Corolla Cross
และสำหรับรุ่นท็อปสุด Hybrid Premium Safety จะเพิ่มระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ได้แก่
ซึ่งถ้านำเทคโนโลยีความปลอดภัยไปเทียบกับคู่แข่งในคลาส ต้องบอกว่าครั้งนี้ Toyota นั้น ได้ติดตั้งมาให้อย่างครบครันไม่น้อยหน้าใคร และเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Honda HR-V แต่จะเป็นรอง Mazda CX-30 และ Nissan Kicks ในบางจุด
เอาละเมื่อรู้ถึงสเปคและรายละเอียดของตัวรถกันหมดแล้ว ก็ถึงคราวทดสอบขับจริงกันเสียที โดยด้านสมรรถนะของอัตราเร่งนั้นต้องบอกว่า Toyota Corolla Cross เป็นรถที่มีคาแร็คเตอร์ที่สุขุม ไม่หวือหวา จังหวะเร่งแซง หรือจังหวะต้องการเร่งความเร็วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่อืดอาด
แต่จะเป็นรอง Mazda CX-30 ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า และเป็นรอง Nissan Kicks ที่ให้อัตราเร่งแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่จี๊ดจ๊าดที่สุดในคลาสนี้
แต่โดยรวมของ Toyota Corolla Cross ถือว่าไม่แย่ รองรับการขับขี่ได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าอยากปรู๊ดปร๊าดแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นโหมด Sport โดย Toyota Corolla Cross เหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง เพราะได้เปรียบด้วยความเป็นรถ Hybrid ซึ่งจะประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นอื่นๆ ในคลาส
โดยการทดสอบในครั้งนี้สามารถทำตัวเลขประหยัดน้ำมันได้ถึง 20.6 กม./ลิตร (ซึ่งขับแบบใช้ความเร็วปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวัน)
ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ ต้องบอกว่า Toyota Corolla Cross เป็นรถที่ขับสบาย แต่ไม่ใช่รถที่ขับสนุก และมีความประหยัดน้ำมันที่สุดในกลุ่มนี้นั่นเอง
ด้านระบบช่วงล่างของ Toyota Corolla Cross บอกเลยว่าเป็นรถที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเน้นไปที่ความนุ่มนวล นั่งสบาย Handling มีความกระชับ พวงมาลัยเบา แต่คมกริบ ปรับหน่วงแปรผันตามความเร็ว เพราะเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า สำหรับ Handling ทีมงาน 9carthai.com ยกให้เป็นอันดับต้นๆ เลย เป็นรองก็แค่ Mazda CX-30 ซึ่งเจ้านั้นเขาคมกริบจริงๆ
ส่วนการซับแรงกระแทกทำได้ดี ยิ่งถ้านั่งกันครบ 4-5 ที่นั่ง ยิ่งหนึบ ยิ่งนุ่ม แต่ถ้าชอบขับแบบมุดๆ หรือซิ่งๆ หน่อย จะสู้ Mazda CX-30 และ Toyota C-HR ไม่ได้ ซึ่ง Toyota เขาเซ็ทมาให้คาแร็คเตอร์รถแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ถือว่าตอบโจทย์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่เน้นขับสบาย ใช้งานในเมือง และพาครอบครัวหรือเพื่อนๆ เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบถึงที่หมายแล้วไม่เวียนหัว
ด้านทัศนวิสัยในการมองเห็น Toyota Corolla Cross ทำได้ดีสมเป็น SUV เพราะมีตัวถังที่สูงกว่ารถยนต์นั่ง ทำให้มองเห็นได้กว้างและไกลกว่า เบาะนั่งก็สามารถปรับได้ 8 ทิศทาง ช่วยให้สรีระการขับขี่เข้ากับผู้ขับมากที่สุด
แต่ในเรื่องเสียงรบกวน จุดนี้ยังมีเสียงลมปะทะ และเสียงขึ้นมาจากพื้นถนนให้รำคาญอยู่บ้าง ซึ่งเงียบสู้คู่แข่งไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดคุยกันไม่รู้เรื่อง
อีกหนึ่งไฮไลท์เด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือในส่วนของระบบความปลอดภัย และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างระบบ Dynamic Radar Cruise Control ที่จะทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
Pre-Collision System, Steering Assist และ Lane Departure Alert With Steering Assist ซึ่งเรียกว่าเป็นระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติเลยก็ว่าได้ เพราะตัวรถสามารถขับตามรถคันหน้า และชะลอความเร็วให้เอง (แต่ไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง อันนี้ถือว่าให้มาไม่เต็ม)
โดยตัวรถจะจับเส้นแบ่งเลนถนนด้วยเรดาร์และกล้องรอบคัน เมื่อตัวรถเบี่ยงออกนอกเลน จะเตือนและดึงกลับเข้ามาให้ อีกทั้งยังสามารถเข้าโค้งให้เราแบบอัตโนมัติได้ด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ทาง Toyota ติดตั้งมาให้ สามารถใช้งานได้ง่าย ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของ Toyota Corolla Cross
ข้อเสียของ Toyota Corolla Cross
บทสรุป
และนี่ก็คือรายละเอียดทั้งหมดของ Toyota Corolla Cross ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ โดยรวมแล้วถือว่า Toyota Corolla Cross นั้น เปิดตัวมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี สมกับที่รอคอย และเป็น SUV ที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่น
จุดขายหลักๆ ที่ได้มาก็คือในเรื่องของระบบความปลอดภัยที่ครั้งนี้ Toyota ไม่เป็นสองรองใครหน้าไหนแล้ว รวมไปถึงเครื่องยนต์แบบ Hybrid ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ Toyota ที่ไว้ใจได้ และประหยัดที่สุดในคลาส อีกทั้งภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางสะดวกสบายเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มนี้
ซึ่ง Toyota Corolla Cross เหมาะมากสำหรับการเป็นรถครอบครัว ที่สามารถขับใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนราคาจำหน่ายหากนำไปเทียบกับคู่แข่งในคลาสนี้ก็ถือว่ามีใกล้เคียงกัน ก็ขึ้นอยู่ที่สไตล์การขับขี่ และความชอบในเรื่องของดีไซน์แล้วว่าคุณจะเลือกแบบไหน เพราะแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
ราคาจำหน่าย Toyota Corolla Cross
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
รุ่นเครื่องยนต์ Hybrid
ดูตารางผ่อนคลิก >> Toyota Corolla Cross ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว Honda City 1.0 VTEC Turbo รุ่นท็อปสุด RS มีดีแค่ไหน? ถึงกล้าขาย 739,000.
รีวิว Toyota Fortuner Legender ที่สุดของ PPV ขับหล่อก็ได้ ขับลุยก็ไปได้ดี
รีวิว All-New Suzuki XL7 อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องการไปได้มากกว่า
รีวิว All-New Toyota Corolla Cross ลองสั้นๆ ครั้งแรกในโลก บอกเลยดีเกินคาด!!
รีวิว : สัมผัสแรก Nissan Kicks e-Power ขับดีเกินคาด อัตราเร่งทันใจ ใช่เลย!!
รีวิว Toyota Hilux REVO Rocco 2020 บอกเลย Minorchange ครั้งนี้ เหนือกว่า All-New ค่ายอื่นเสียอีก
รีวิว All-New Mazda 3 ความลงตัวที่สง่างาม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ไม่ง้อขุมพลัง
รีวิว All-New Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในปฐพีนี้
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Toyota Corolla Cross รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่มาพร้อมความสะดวกสบาย และความประหยัด "