รีวิว Triumph Street Scrambler ย้อนตำนาน Jurassic World ขี่สแครมเบลอร์ ใหม่ ล่า Raptor
เมื่อปลายปีที่แล้ว Triumph Motorcycles Thailand ได้เปิดตัวรถใหม่ด้วยกันถึง 4 โมเดล ได้แก่ Street Cup, Bonneville T100, Street Scrambler และ Bonneville Bobber
และเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสทดสอบ Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ กันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวของ Street Scrambler และ Bonneville Bobber กันต่อ
เมื่อวันที่ 14-15 มี.ค. ที่ผ่านมาทาง Triumph motorcycles Thailand ได้จัดทริปทดสอบ Triumph Street Scrambler และ Bonneville Bobber กับเส้นทาง กทม.-เขาใหญ่ ระยะทางรวมกว่า 510 กม. ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอ รีวิว Triumph Bonneville Bobber ไปแล้ว วันนี้ขอมาต่อกันกับ รีวิว Triumph Street Scrambler คันนี้กันครับ
เริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ Triumph Street Scrambler นั้นได้ใช้ Street Twin (900 HT) เป็นพื้นฐานจึงมีหลายๆ ส่วนที่คล้ายกัน
ไฟหน้ากลมโคมเดียวกับ Street Cup และ Street Twin ใช้ไฟแบบฮาโลเจน
ขณะที่ไฟท้าย (LED) + ไฟเลี้ยว เป็นแบบเดียวกับ Street Twin
จุดเด่นของเจ้า Street Scrambler คือ ท่อไอเสียคู่ยกสูง สไตล์ Scrambler ดั้งเดิม
อีกจุด คือ ตัวเบาะหลังที่สามารถถอดออกได้ และติดตั้งเป็นแร็คหลังสำหรับวางของ
พักเท้า เป็นแบบหนามเหมาะแก่สไตล์การขี่ Enduro สายลุย
เพิ่มยางข้างถังน้ำมัน เพื่อเพิ่มความกระชับหัวเข่า
รวมถึงล้อแบบซี่ลวด ด้านหน้าสวมยาง Metzeler Tourance ไซส์ 100/90/R19
ล้อหลังสวมยางไซส์ 150/70/R17 โดยขอบและดุมล้อเป็นสีดำให้สไตล์ดุดิบ
เสริมแคร้งเครื่องยนต์กันกระแทกด้านใต้เครื่อง ขณะที่ฝาครอบเครื่องจะเป็นสีดำ แบบ Street Cup
แฮนด์บาร์อลูมีเนียมกว้างขึ้น และตำแหน่งยกสูงขึ้น เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นเวลายืนขี่บนทางฝุ่น
หน้าปัดเรือนไมล์ทรงนาฬิกา แบบถ้วยกลมเดี่ยว ซึ่งดูเหมือนกับโมเดล Street Twin
ซึ่งแสดงผลเช่นเดียวกัน ทั้ง Odo, Trip, อัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางคงเหลือ, นาฬิกา, วัดรอบเครื่องบอกเป็นตัวเลข, ปิดระบบ TCS ใน Scrambler จะเพิ่มฟังก์ชั่น ปิดระบบ ABS เข้ามาด้วย เอาไว้ใช้ในการขี่ทางฝุ่น
ปุ่มสวิทช์ไฟซ้าย-ขวา จะเป็นรูปแบบเดียวกับ Street Twin และ Street Cup
ทางสวิทช์ไฟฝั่งซ้ายจะมีปุ่ม I ที่ใช้ควบคุมหน้าจอ ตำแหน่งที่เป็นไฟ Pass นั้นจะเป็นการกดเพื่อใช้ไฟสูง
สวิทช์ไฟขวา จะพบปุ่ม Engine Start ซึ่งคุณต้องกำคลัช พร้อมกดปุ่มลงเพียง 1 ครั้งสั้นๆ นอกจากนี้มีสวิทช์ไฟฉุกเฉินให้อีกด้วย
และแน่นอนเมื่อเปิดใต้เบาะจะยังคงพบกับ USB Socket ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของรถตระกูล Bonneville ใหม่
Street Scrambler มีน้ำหนัก Dry Weight ที่ 206 กก. เบาะนั่งมีความสูง 790 มม. (หนักกว่า และสูงกว่า Street Twin และ Street Cup)
และถังน้ำมันจุ 12 ลิตร (เท่ากับโมเดล Street Twin และ Street Cup)
ตามที่ได้แจ้งไป เนื่องจาก Street Scrambler เป็นรถที่มีความสูงที่สุด ในบรรดา Street 900 HT รวมถึงตำแหน่งแฮนด์บาร์กว้างกว่าเพื่อน จึงทำให้ตำแหน่งท่านั่งนั้นดูจะเอื้อเฟื้อต่อการควบคุม โดยเฉพาะการยืนขี่
ซึ่งหากขี่บนท้องถนนทั่วๆไป ศอกจะกางสูงขึ้นกว่า Street Twin จึงอาจทำให้เมื่อยง่ายกว่าหน่อย ขณะที่ตำแหน่งแฮนด์ยกสูงนั้น ก็พอที่จะผ่านรถยนต์ที่เตี้ยๆพอได้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่สูงขึ้นมาหน่อย ก็จะอยู่ในตำแหน่งกระจกรถพอดิบพอดี ซึ่งก็ต้องอาศัยจังหวะโยกหลบเสียกันหน่อย
ขณะที่ตัวรถยังถือว่ามีน้ำหนักไม่มากนัก ร่วมกับถังน้ำมันเล็กสไตล์ Minimal จึงทำให้การควบคุมรถนั้นไม่ยากเย็นแต่อย่างใด
ท่อไอเสียยกสูงสไตล์รถลุย ของ Street Scrambler เป็นจุดหนึ่งที่ผู้เขียนรำคาญเล็กๆ เนื่องจากท่อไอเสียในรุ่นอื่นๆจะออกคู่ ซ้าย-ขวา ได้ถูกดีไซน์ใหม่ให้ออกทางฝั่งขวาทางเดียวแบบยกสูง จึงทำให้ปลายท่อทั้ง 2 ท่อ ถูกรวมกันเป็นตำแหน่งเดียวมีขนาดใหญ่และเกะกะบริเวณตำแหน่งแข้งขวา ตรงบริเวณการ์ดกันความร้อนที่อยู่ในตำแหน่งของหน้าแข้งพอดีทำให้เวลายืนขี่ หรือขี่ด้วยความเร็วที่ต้องหนีบถังดูไม่กระชับเท่าที่ควร รวมไปถึง การ์ดกันร้อนท่อนกลางที่เป็นโลหะ ทำให้เวลาขี่ในช่วงหน้าร้อน จะอมความร้อนและมีบางจังหวะที่หน้าแข้งไปโดนซึ่งหากใส่กางเกงที่มีความบางกว่ายีน อาจมีโดนลวกหน้าแข้งได้
ขุมพลังบล็อก 900 HT 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 900cc SOHC 8 วาล์ว ที่เคยสัมผัสมาแล้วใน Street Twin และ Street Cup ปรับจูนใหม่ ให้กำลังสูงสุด 54 แรงม้า PS@6,000rpm แรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร@2,850rpm ใช้คันเร่งไฟฟ้า ride-by-wire ในการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่เกียร์ 5 สปีด เช่นเดิม เพิ่มเติมคือ Torque Assist Clutch (มีเหมือนโมเดล Street Cup)
เมื่อติดเครื่องยนต์ เตรียมออกตัว กำคลัทช์ปุป รู้สึกได้ทันทีว่า น้ำหนักค่อนข้างเบานิ้วมือ เนื่องจากมีระบบ Torque Assist Clutch เข้ามาช่วย การขี่ในเมืองที่รถติดจึงไม่เมื่อยนิ้ว ลองเบิ้ลคันเร่งดู พบว่าเสียงออกแผดๆ ดุๆ หากเทียบกับเพื่อนๆ 900HT ตัว T100 ดูจะทุ้ม สุขุมไพเราะที่สุด ขณะที่ Street Twin, Cup และ Scrambler จะมีซุ่มเสียงแตก แผดๆ ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ถ้าให้เรียงตามลำดับความดุดิบ ก็จะเป็นตามที่แจ้งมา Scrambler ดูจะดุกว่าเพื่อน
จากตัวเลขทางเทคนิคดังกล่าว จะเห็นได้ว่า Street Scrambler ได้ถูกปรับจูนต่างจากเพื่อน Street 900 HT คันอื่น แรงม้าตกลง 1 ตัว และออกมาที่รอบสูงกว่า 100rpm ขณะที่แรงบิด เท่าเดิมออกมาเร็วขึ้น 380rpm นั่นจึงทำให้ผู้เขียนสัมผัสได้ถึง แรงบิดที่มาตึงมือขึ้นในช่วงต้นให้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว และมาในช่วงกว้าง แต่ในรอบสูงๆ ก็คงไม่หวือหวามากนักจากแรงม้าที่ไม่สูงจนเกินไป
โดยรวมเหมาะแก่การขี่ในเมืองตามชื่อ Street เน้นแรงบิดเพื่อเร่งแซงช่วงออกตัว ร่วมกับจังหวะขึ้นเนินขึ้นเขา ทอร์คที่รอบต่ำ ช่วยให้ไม่ต้อง ลดเกียร์ลงสามารถเปิดคันเร่งที่เกียร์ 2-3 ได้ไต่ขึ้นได้เลย
ถึงแม้แรงบิดจะมีมาก แต่ก็ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับ Scrambler ค่ายคู่แข่งจากฝั่งอิตาลี ได้เนื่องจาก Triumph จะออกแนวรถผู้ดีออกตัวได้สมูทกว่า ให้แรงบิดที่รอบต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ปลายไม่หวือหวาแต่ก็มีให้เล่นได้สนุกมือ ขณะที่อีกฝั่งจะออกแนวดิบดุ กระชาก ซึ่งก็ต่างสไตล์กันไป
ระบบกันสะเทือน Street Scrambler ใช้โช้กหน้า KYB ขนาดแกน 41 มม. มีความยาวมากกว่า Street Twin และหุ้มยางกันฝุ่น รวมไปถึง
โช้กหลังคู่ KYB ปรับ Preload ได้ สีดำด้าน ยาวเป็นพิเศษ ช่วยยกด้านท้ายให้สูงขึ้น พร้อมลุย และซับแรงสะเทือน ทั้งโช้กหน้า และหลัง ทั้งคู่มีช่วงยุบ 120 มม. ซึ่งดีไซน์มาพิเศษสำหรับรถสายลุย
นอกจากนี้ยาง Metzeler Tourance เป็นยางแบบ Dual Sport ทางเรียบก็พอได้ ทางฝุ่นก็ลุยดี
อารมณ์การขับขี่ จะแตกต่างไปจาก Street Twin และ Street Cup ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะ การใช้โช้กที่มีขนาดยาวกว่าเพื่อน และปรับเซ็ทมาเฉพาะ มันดูนิ่มยวบกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทดสอบโดยการไปลุยทางฝุ่นนั้น ได้มีการปล่อยลมยางออกด้วย ยิ่งทำให้ล้อหน้าเวลาหักเลี้ยวดูหนืด และสัมผัสได้ถึงความยวบยาบไปหน่อย แต่เพื่อให้ช่วงล่างมีความยืดหยุ่นการปรับแบบนี้จึงถือว่าเหมาะสมแก่การลุยทางฝุ่นแล้ว
ระบบเบรก ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มม. คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่ แบบ Floating (ปั๊มเบรกแบบเดียวกับ Street Cup) พร้อมระบบเบรก ABS
ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่ แบบ Floating พร้อมระบบเบรก ABS เช่นกัน
ด้วยการที่ใช้ปั๊มเบรกหน้าตัวเดียวกับ Street Cup ซึ่งเป็นปั๊มขนาดใหญ่กว่า Street Twin และ T100 ทำให้การชะลอความเร็วนั้นทำได้มั่นใจดีกว่า Bonneville Bobber เสียอีก น้ำหนักปั๊มเบรกดูแน่นหนึบมือ ขณะที่ลูกเล่นสำคัญของเจ้า Street Scrambler ที่เด่นกว่าเพื่อน นั่นคือ ระบบ ABS ที่สามารถปิดได้ สำหรับใช้ขี่ทางฝุ่น ซึ่งถูกใจขาลุย รวมไปถึงผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการชะลอแบบจับเบรกเต็มๆ
สรุป Triumph Street Scrambler คันนี้ ได้ใช้พื้นฐานของ Street Twin มาตกแต่งย้อนตำนาน สแครมเบลอร์ สายลุย อีกครั้ง ด้วยสไตล์ที่โมเดิร์นขึ้น จึงดูเท่ โดดเด่นลุยได้แบบดิบๆ ยิ่งในสีเขียวกากีคันนี้ ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Chris Pratt ขี่สแครมเบลอร์ ล่า Raptor ยังไงยังงั้น ในด้านของขุมพลัง 900 HT ได้พิสูจน์ให้เห็นใน 3 โมเดลก่อนหน้าไปแล้วว่าทำได้ดีเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับราคานั้นตามออปชั่น Street Scrambler ถือเป็นรถเครื่อง 900 HT ที่แพงที่สุด ดังนั้นหากคุณอยากขี่สไตล์โมเดิร์นขี่ง่าย สบายๆ คงต้องหา Street Twin ถ้าชอบสายคลาสสิคดั้งเดิมต้องเป็น T100 สำหรับคนชอบ Cafe ก็ต้องไป Street Cup แต่สำหรับสายลุย และนักเดินทาง Adventure ตัวจริงต้องเลือก Street Scrambler คันนี้
Triumph Street Scrambler มี 3 โทนสีให้เลือก ได้แก่ Jet Black, Korosi Red/Frozen Silver สนนราคา 475,000 บาท และ สี Matt Khaki Green ราคา 481,500 บาท
จุดเด่น
ข้อสังเกต
ขอขอบคุณ Triumph Motorcycles Thailand สำหรับทริปทดสอบ Triumph Street Scrambler ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver & Photo
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Triumph Street Scrambler ย้อนตำนาน Jurassic World ขี่สแครมเบลอร์ ใหม่ ล่า Raptor "