รีวิว Volvo S60 T5 Compact Sedan ทั้งแรง พร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุด
เมื่อปี 2008 Volvo Car Corporation สวีเดน ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านโครเนอร์สวีเดน (1หมื่นล้านบาท) ในการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ Powertrain ใหม่ ในเมือง Skovde โดยใช้แนวคิด Scalable Product Architecture หรือ SPA เพื่อให้รถยนต์หลายๆ รุ่นของ Volvo สามารถใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้ (อาทิ S60, V60, XC60) ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนทั้งที่เป็นตัวเงินและทรัพยากร
จากภายใต้แนวคิด SPA วอลโว่ได้พัฒนาเครื่องยนต์ตระกูลใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Volvo Engine Architecture หรือ VEA พัฒนาบล็อคเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ความจุ 2,000cc ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด และน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 30-50 กิโลกรัม แต่ได้สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ที่มีจำนวนลูกสูบมากกว่า ในขณะที่ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า 10-30%
ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้เป็นที่มาของเครื่องยนต์ในตระกูล Drive-E Powertrains แบบ 4 สูบ 2 ลิตร ที่ 9carthai เราจะขอมารีวิวนำเสนอกันใน Volvo S60 T5 สีดำ Ember Black Metallic คันนี้ ที่มีราคา 2.449 ล้านบาท
รูปลักษณ์ภายนอกของ Volvo S60 T5 ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นสะดุดตา ตามสไตล์สแกนดิเนเวียนยุคใหม่ ด้วยกันชนใหม่ทั้งหน้าและหลัง
ไฟหน้าดีไซน์เฉี่ยว พร้อมระบบ Active High Beam Control II ที่คอยปรับมุมไฟสูงไม่ให้แยงตารถคันอื่น และ Daytime Running Light แบบ LED ฝากระโปรงหน้าใหม่อลูมีเนียมน้ำหนักเบา ซ่อนท่อฉีดน้ำล้างกระจกไว้ใต้ฝากระโปรงรถเพื่อไม่ให้รบกวนดีไซน์เท่ของซีดานสไตล์สปอร์ตคันนี้ กระจังหน้าที่กว้างขึ้น เน้นเส้นสายแนวขวางทั้งด้านหน้าและหลังเพิ่มความสปอร์ต พร้อมเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนกระจังหน้าใช้ตรวจจับวัตถุ
ท่อไอเสียทางด้านท้ายทรงเหลี่ยม 2 ท่อคู่ ให้อารมณ์สปอร์ตแบบฉบับรถแรง ขณะที่ล้ออัลลอย 18” ลาย 10 ก้านคู่ พร้อมยาง Continental ContiSportContact 3 ไซส์ 235/40R18 ให้การยึดเกาะเป็นอย่างดี
และที่ฝากระโปรงท้ายได้มีโลโก้ T5 บ่งบอก ถึงขุมพลังบล๊อกใหม่ นี้ติดตั้งบ่งบอกเอาไว้
รูปลักษณ์ภายในหรูกลิ่นอายสปอร์ต เมื่อเปิดประตูห้องโดยสารด้วยระบบ Keyless
ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่มือจับประตูทั้ง 4 บาน ระบบจะทำการปลดล๊อกโดยอัตโนมัติ ซึ่งใช้งานได้อย่างงายดาย สะดวกสบาย
เข้ามาจะเห็นห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำตัดด้วยสีเงินเมทัลลิก โดยดีไซน์ได้อย่างประณีตด้วยหนังคุณภาพสูงที่บุเบาะที่นั่ง ตกแต่งด้วยTrim ลาย Aluminium Metal Inlay กรอบช่องแอร์และปุ่มควบคุมไฟต่างๆ เป็นสีโลหะด้านดูทันสมัย
เบาะนั่งรูปทรงสปอร์ตกระชับสรีระ พร้อมระบบปรับไฟฟ้า ปรับได้ 8 ทิศทางและ Memory Seat 3 ค่า
ระบบปรับอากาศแยกโซนอัตโนมัติซ้าย-ขวา มีช่องแอร์ตอนหลังติดตั้งอยู่ที่เสา B ทั้ง 2 ฝั่ง
พวงมาลัย 3 ก้านที่มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปรับเซ็ตค่าบนหน้าจอ TFT และมีปุ่ม Paddle Shift ติดตั้งหลังพวงมาลัยเอาไว้ใช้งานได้ทันที หรือ จะควบคุมเกียร์ผ่านการโยก + – บนหัวเกียร์ได้เช่นเดียวกัน
ขณะที่หน้าจอคอนโซลกลางมีขนาด 7” รองรับ DVD และเครื่องเล่นเพลงต่างๆ พร้อมลำโพงคุณภาพเยี่ยม 8 ตัว สามารถใช้เป็นแฮนด์ฟรีสำหรับโทรศัพท์ รวมถึงสามารถดึงเพลงจากมือถือมาเล่นผ่านลำโพงรถได้ มีระบบนำทางให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
บนแผงหน้าปัดเป็นจอ TFT 8” ปรับธีมแสดงผลได้ 3 แบบ Elegance, Eco และ Performance ซึ่งถือเป็นลูกเล่นของ S60 T5 นี้เลยก็ว่าได้
สำหรับท่านั่งในการขับขี่นั้น ถือว่านั่งได้อย่างตรงตามสรีระ แต่อาจพบว่าตำแหน่งวางเท้าซ้าย ดูจะแคบไปเสียเล็กน้อย เนื่องจากติดพื้นที่ของคอนโซลกลางขนาดใหญ่ รวมไปถึงการจัดวางสิ่งของเช่นกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ ที่ต้องวางสิ่งของไว้หลังแผงเครื่องปรับอากาศ ซึ่งดูจะหยิบใช้งานยากไปเสียเล็กน้อยเพียงเท่านั้น
สมรรถนะของ S60 ขุมพลัง T5 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ บล๊อกนี้ มีกำลังอยู่ที่ 220 แรงม้า@5,500rpm และแรงบิดที่ 350Nm@1,500-4,000rpm เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.7 วินาที โดยมี Top Speed อยู่ที่ระดับ 230 กม./ชม. พร้อมปล่อยไอเสียสุดต่ำเพียง 139 กรัม/กม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามเคลมใน-นอกเมืองที่ 16.7 ก.ม./ลิตร (จากการใช้จริงของเราอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ราว 12 กม./ลิตร)
สมรรถนะในด้านกำลังเครื่องถือว่า แรงเหลือเฟือ การใช้งานมีกำลังให้รีดใช้ตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ต้องรอรอบสูงจากเครื่องยนต์เทอร์โบ เนื่องจากเทอร์โบลูกไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดออกไม่ได้ตั้งแต่ก่อน1,500rpm
นั่นจึงทำให้การขับขี่ใช้งานในแบบฉบับของคุณพ่อบ้าน ที่เน้นทอร์คออกตัวขับเคลื่อนทั่วๆไป เป็นไปได้อย่างเพียงพอเหลือๆ แต่ทว่าถ้าคุณมีจิตวิญญาณนักซิ่ง S60 คันนี้ก็ตอบโจทย์นั้นได้เช่นกัน เมื่อผลักคันเกียร์ไปทางด้านซ้าย เข้าสู่โหมด S (Sport) ซึ่งจะช่วย Hold รอบเครื่องยนต์สูงเอาไว้ ใช้เรียกฝูงม้าระดับ 200hp + พร้อมสำหรับการเร่งแซง และพุ่งทะยานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากคุณเพลินจนเกินไป ตัวเลขบนมาตรวัด จะบอกความเร็วที่ระดับ 200 กม./ชม. ได้อย่างไม่ยากเย็น
ด้านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed Geartronic นั้นผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ Drive-E ได้เป็นอย่างดี
โดยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดนี้ มีอัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น ในช่วงเกียร์ต้น ซึ่งเกียร์ 1 เร่งออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจ ขณะที่เกียร์สูงสุด เกียร์ 8 ช่วยให้ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำขณะที่ความเร็วสูง รวมไปถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล (หากขับขี่ในแบบปกติ) แต่ถ้าขับด้วยการเค้นคันเร่งมิด มันก็สามารถมอบอารมณ์สปอร์ต ให้ได้จากกำลังเครื่องที่มี รวมไปถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ดึงหลังติดเบาะเอาได้เหมือนกัน แต่ในจังหวะ Shift เปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเองทั้งผ่าน Paddle Shift หรือ การโยกที่หัวเกียร์นั้น การตอบสนองอาจดูช้าไปนิด ขณะที่เกียร์ 8 Speed นั้นให้แรง Engine Brake จากเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากนัก จึงคงความสมูทไม่กระชากดึงแผ่นหลังในจังหวะที่ต้องการลดเกียร์ลงอีกด้วย
การควบคุม Handling S60 สามารถปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งเราได้ปรับทิ้งไว้ที่ High Setting เน้นการตอบสนองที่หนักแน่นในแบบ Sport ที่ความเร็วต่ำในช่วงออกตัว พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ความเบาในระดับที่มีน้ำหนักอยู่บ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากการปรับ High Setting แล้วการสวมล้ออัลลอยขอบ 18” ก็อาจส่งผลมาด้วย
พวงมาลัยวงนี้มีระยะฟรีมาลัยค่อนข้าง ประกอบกับการตอบสนองของพวงมาลัยที่รวดเร็วมีความไว จึงทำให้ในจังหวะที่เร่งแซง หรือในบางช่วงที่วงเลี้ยวน้ำหนักพวงมาลัยจะหายไป แต่การขับขี่บนทางตรงที่ทำความเร็วสูง น้ำหนักยังคงแน่นตึงมืออยู่ดี ให้ความมั่นใจได้เช่นเคย
ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง ของ Volvo S60 โดยภาพรวมนั้นนิ่มนั่งสบาย พร้อมคงความแน่นเฟิร์มในแบบฉบับรถยุโรป แต่อาจมีรู้สึกแข็งบ้างในช่วงจังหวะที่ต้องขับผ่านลูกระนาดหรือทางรถไฟ ซึ่งทรงของตัวรถ จะออกอาการอย่างเห็นได้ชัดถึงความแน่นและแข็งของช่วงล่าง ซึ่งเป็นปกติของการใช้ล้อขนาด 18” ที่มีแก้มยางเพียง 40 มม. เช่นนี้
ความมั่นคงในการยึดเกาะถนนนั้น ทำได้ค่อนข้างดี การขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 150 กม./ชม. ยังคงให้ความมั่นใจได้อยู่ แต่หากเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง อาจมีอาการโยนเหวี่ยงของตัวรถออกมาเล็กน้อย ต้องขอขอบคุณ Continental ContiSportContact 3 ที่ยังให้ Grip ในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ไว้วางใจได้ แม้การขับขี่บนพื้นผิวที่เปียก ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ S60 T5 คันนี้ ได้เป็นอย่างดี
ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ ในรถ Volvo S60 ได้ถูกปรับเซ็ตออกมาในแบบรถบ้านหรู คือ เบรกหนืด และต้องลงน้ำหนักแป้นที่ลึกพอควร การตอบสนองของเบรกยังทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังตอบสนองได้ไม่ไวนัก เน้นให้ความนุ่มนวลในการโดยสารเบรก ซึ่งยังคงให้ภาพลักษณ์ของการขับขี่ในแบบฉบับรถยุโรปหรู ได้ดี และการชะลอความเร็วก็ทำหน้าที่ได้ดีหากขับขี่เกินทางทั่วๆไป
ขณะที่เทคโนโลยีความปลอดภัย ต้องเรียกได้ว่าอัดแน่นจัดเต็มกว่าเพื่อนรถยุโรปคันไหน อาทิ
โดยระบบนี้ทำงานในขณะที่รถกำลังขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 65-200 กม./ช.ม.
ซึ่งจะใช้เรดาร์จากทางหน้ารถในการตรวจจับ ร่วมกับระบบ Auto Brake เพื่อจะหยุดรถโดยอัตโนมัติ
โดยจะส่องสว่างในพื้นที่ที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นได้ โดยหักเหมุมส่องสว่างตามพวงมาลัยเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ จะทำงานเมื่อรถยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมกับมีการเปิดไฟเลี้ยว และจะปิดการทำงานเมื่อความเร็วของรถยนต์สูงเกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบนี้จะเปิดเป็นไฟสูงตลอดเวลา แต่เมื่อมีรถสวนมา ระบบจะลดระดับแสงเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของรถคันอื่น
จะมีไฟแจ้งเตือนที่เสา A ทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีระยะตรวจจับจุดอับ 70 เมตร ทั้งหน้า-หลัง ของทั้ง 2 ฝั่งตัวรถ
ระบบนี้จะตรวจดูในระยะ 30 เมตรจากท้ายรถ และสามารถจับวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่ารถได้ด้วย เมื่อรถคุณวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้คุณเหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากคุณไม่เหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety)
ออกแบบมาเพื่อใช้ขณะขับขี่บนถนนไฮเวย์โดยเฉพาะ เพื่อเตือนในระยะ 150 เมตร ผ่านเรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่บนกระจังหน้า และระบบ Collision Warning ประเมินว่าอาจเกิดการชน ระบบจะส่งเสียงสัญญาณและไฟกระพริบเพื่อเตือน หากผู้ขับไม่เหยียบเบรก ฟังก์ชั่น Auto Brake จะหยุดรถโดยทันทีและเปิดสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ
ซึ่งจะแสดงผลแจ้งเตือนบนแผงมาตรวัด
จะจับตาดูความเคลื่อนไหวและทิศทางของรถ จากนั้นจึงประเมินความเป็นไปได้ที่ผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วส่งสัญญาณเสียง หรือข้อความทางหน้าจอเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก
ฟังก์ชั่นควบคุมการเข้าโค้งโดยการถ่ายเทแรงบิด (Corner Traction Control by Torque Vectoring) ล้อที่อยู่ด้านในของโค้งจะเบรกพร้อมกับถ่ายทอดกำลังไปยังล้อที่อยู่ด้านนอกมากขึ้น
สรุปแล้ว Volvo S60 T5 รถยนต์ Compact Sedan ของ วอลโว่ มาพร้อมเครื่องยนต์บล๊อกไม่ใหญ่ อย่าง T5 Drive E ที่ทรงพลัง ขับขี่สนุก ใช้งานสบาย โดยระบบช่วงล่างนั้นให้ความมั่นคงในแบบฉบับรถยุโรป ที่สำคัญเทคโนโลยีความปลอดภัยให้แบบเต็มพิกัด กว่ารถคันใดในรถระดับเดียวกันนี้
นอกจากนี้ผู้ที่รักความแรงยังสามารถอัพเกรด Software Polestar ที่ช่วยให้รถมีกำลังมากยิ่งขึ้นในขณะที่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประมาณ 5 หมื่นบาท ได้แรงม้าเพิ่มเป็น 245 แรงม้า ด้วยกัน
ขอขอบคุณ Volvo Cars Thailand สำหรับรถทดสอบ Volvo S60 T5 สีดำ Ember Black Metallic คันนี้ ราคา 2.449 ล้านบาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Volvo S60 T5 Compact Sedan ทั้งแรง พร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุด "