Sony จับมือ Honda ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า! คันแรกเตรียมวางจำหน่ายในปี 2025

Sony จับมือ Honda ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า! คันแรกเตรียมวางจำหน่ายในปี 2025

Sony แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า และผู้ผลิตรถยนต์ Honda ประกาศทำข้อตกลงร่วมมือจัดตั้งบริษัทใหม่ที่มุ่งเน้นการพัฒนา และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต โดยรถยนต์คันแรกจากความร่วมมือดังกล่าวจะวางจำหน่ายในปี 2025

การร่วมทุนจะ “มีส่วนร่วมในการพัฒนาร่วมกันและการขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และทำการค้าร่วมกับการให้บริการด้านการเคลื่อนไหว”

โดยมีการจัดแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนตามความถนัดของแบรนด์ ทาง Sony จะรับหน้าที่ในส่วนของระบบปฎิบัติการ ระบบการสื่อสาร และระบบความบันเทิงภายในรถ ขณะที่ Honda จะรับหน้าที่ในส่วนการออกแบบ พัฒนา และจำหน่าย EV

ข่าวดังกล่าวเป็นไปตามการประกาศของ Sony เมื่อต้นปี 2022 ว่ามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า โดยได้แสดงแนวคิด Vision S 02 ที่งาน Consumer Electronics Show ในลาสเวกัส

รถเอสยูวีต้นแบบขนาด 7 ที่นั่ง ยาว 4.85 เมตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หนึ่ง รวมเป็น 563 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 5 วินาที

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ขนาด และระยะวิ่งไกลสุดที่คาดการณ์ไม่ได้รับการเปิดเผย เมื่อแบรนด์เปิดตัว Vision S 02 ควบคู่ไปกับการสร้างบริษัทใหม่ชื่อ Sony Mobility Inc.

ภาพภายในของ Vision S 02 เผยให้เห็นการออกแบบที่คล้ายคลึงกันกับแนวคิด Vision-S ดั้งเดิมของ Sony ด้วยจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบเต็มความกว้างแทนที่จะเป็นแผงหน้าปัดแบบเดิม และที่พิงศีรษะสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง

นอกจากนี้ยังมีตัวควบคุมแบบโรตารี่ที่กลางแถวที่สาม ซึ่งอาจทำให้ที่นั่งในที่นั่งที่ 6 และ 7 สามารถควบคุมฟังก์ชันเสียงหรือมัลติมีเดียได้

Toshihiro Mibe ผู้อำนวยการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Honda Motor Co. กล่าวถึงการประกาศดังกล่าวว่า

“เราจะสร้างมูลค่าโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและความรู้ที่ทันสมัยของ Honda ที่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ปรับให้สอดคล้องกัน ทรัพย์สินทางเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัท

“แม้ว่า Sony และ Honda จะเป็นบริษัทที่มีความคล้ายคลึงกันในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมาย แต่ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเรานั้นแตกต่างกันมาก

ดังนั้น เราเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรนี้ซึ่งรวบรวมจุดแข็งของทั้งสองบริษัทของเรา มีโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับอนาคตของการเคลื่อนย้าย”