รีวิวกิจกรรม Subaru Driving Experience 2016 ทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ Boxer แทบทุกรุ่น

รีวิวกิจกรรม Subaru Driving Experience 2016 ทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ Boxer แทบทุกรุ่น

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม Subaru Driving Experience 2016 ขึ้นในวันที่ 27 พ.ค. ณ ลาน P.9 ริมทะเลสาบ อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถยนต์ซูบารุ หลากหลายรุ่น ประกอบไปด้วย Subaru XV, Outback รวมถึงรถในตระกูลสปอร์ต Subaru BRZ, WRX และ Levorg โดยในงานซูบารุแบ่งสนามทดสอบเป็น 2 สไตล์ คือ

– Dirt Track สนามที่จัดเพื่อให้ได้ทดสอบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical AWD) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม ระบบ X-MODE เอกสิทธิ์เฉพาะของซูบารุ ที่ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนให้ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนถนนขรุขระ เปียกลื่น หรือพื้นถนนที่มีอุปสรรคในการขับขี่ โดยรถซูบารุที่ใช้ทดสอบในสนามนี้ คือ Subaru XV, Forester 2.0P, Forester XT และ Outback

ทาง 9carthai เราขอลองทดสอบ 2 รุ่น ได้แก่ Forester XT และ Outback

ซึ่งการทดสอบนั้น จะได้ทดสอบระบบความปลอดภัย อย่าง VSC กันแบบเต็มๆ ระบบนี้จะเข้ามาช่วยเบรกเมื่อรถเริ่มสูญเสียอาการ เตรียมจะหมุน ช่วยให้คุณยังควบคุมรถได้ไม่หมุน หรือ หลุดออกนอกแทร็ก

ผู้เขียนได้ลอง Forester XT ก่อน ซึ่งใช้ขุมพลังบล็อกเดียวกับ WRX เรียกได้ว่าแรงตามสั่ง เมื่อเติมคันเร่งหนักๆ จนบางครั้งอาจทำให้การคุมรถยากไปเสียหน่อย

เมื่อเติมคันเร่งลึกไปในช่วงที่วิ่งวนเป็นวงกลม ซึ่งการขับขี่ Forester นั้นช่วงล่างยังทำหน้าที่ได้ดี กับการใส่เต็มบนทางฝุ่น

แม้ตัวรถจะเสียอาการหมุน ช่วงล่างยังแน่นเกาะพื้นผิวแม้เป็นทางฝุ่น ขณะที่ระบบ VSC จะคอยเข้ามาช่วยควบคุมการทรงตัวรถเมื่อรถเริ่มเซ เสียอาการทุกครั้ง

มาลองกันต่อที่ Outback ดูบ้าง ในทีแรกผู้เขียนคิดว่า Outback น่าจะเป็นรถสไตล์ติดหรู อาจจะดูไม่เหมาะนักกับเส้นทางฝุ่น แต่ทว่าคิดผิดอย่างแรง
แม้ว่ารถ Outback จะคันใหญ่ ยาวกว่า ดูเหมือนจะควบคุมยากกว่า แต่ทว่ามันกลับตรงกันข้ามกับที่คิดเลย ควบคุมได้แสนง่าย บอดี้รถที่ใหญ่ และฐานล้อกว้าง ทำให้มีอาการโคลงตัวน้อยกว่า Forester โดยชัดเจนช่วงที่ผู้เขียนได้ลองไปนั่งที่ตอนหลัง ซึ่งสะดวกสบายมาก ไม่เหวี่ยงไม่โยนตัว

ขณะที่การขับขี่นั้นพวงมาลัยนั้น ตอบสนองได้ดี แม่นยำกว่าในช่วงเข้า Slalom หักวงเลี้ยวพวงมาลัยได้ง่าย

และการทำงานของ VSC นั้นดูจะทำงานได้ไวกว่า เมื่อเข้าโค้งหนักๆ หรือ ขณะที่วนอยู่ในวงกลม ซึ่งทำให้เราควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย แม้จะเติมคันเร่งจนทำให้รถเริ่มจะบานหลุดโค้งออก ระบบจะเข้ามาช่วยตัดกำลังล้อโดยทันที

ในส่วนของการทดสอบ X-Mode นั้นจะเป็น Station จำลอง ซึ่งเป็นเนินกระดกล้อลอย
และช่องปั่นให้ล้อฟรี ซึ่ง ในส่วนนี้ จะแสดงให้เห็นการตัดกำลังจะล้อข้างที่ฟรีทิ้งเพื่อส่งกำลังไปสู่ล้ออื่นที่เหลือ ล้อข้างที่จับ Traction นั้นมีพละกำลังเพียงพอที่จะไต่ข้ามเนินอุปสรรคนี้ไปได้
ขณะที่การทดสอบบนแท่นแสตนด์ที่ทดสอบการหมุนฟรีของล้อ นั้นเป็นการจำลองหากต้องวิ่งบนพื้นเปียกลื่น ซึ่งระบบะจะเข้ามาช่วยตัดกำลังไม่ให้ล้อหมุนฟรี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ บนพื้นถนนเปียกนั่นเอง

– Performance Track กับครั้งแรกในการจัดสนามเพื่อทดสอบความเร็วของรถในตระกูลมอเตอร์สปอร์ตของซูบารุ การทดสอบ Slalom โดยมีรุ่นที่ใช้ทดสอบคือ Subaru BRZ, WRX, Levorg

ในการขับจริงเราได้ลองขับรถที่มีสมรรถนะสูง 3 คัน

เริ่มด้วย WRX คันสีขาว ซึ่งเป็นเกียร์ Lineartronic
ขยับเบาะเตรียมพร้อมเข้าเกียร์เตรียมออกตัว น้ำหนักพวงมาลัยดูจะมากเสียหน่อย หากต้องขับด้วยความเร็วต่ำ โดยเฉพาะช่วงเคลื่อนออกตัว กระแทกคันเร่งออกตัวทางตรง รถมีอาการรอรอบ ต้องรอบูสต์มากำลังเครื่องยนต์เริ่มดึงหลังติดเบาะเมื่อช่วงบูสต์ระดับ 0.6 บาร์ขึ้นไป
การเข้าโค้งนั้นด้วยระบบขับ 4 ล้อ และระบบ VSA ที่ช่วยควบคุมเมื่อหากคุณเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินไป ระบบจะตัดกำลังให้คุณกับมาคุมรถได้โดยง่าย
จุดหนึ่งที่พบคือ รถ WRX หากซัดมาหนักแบบลากรอบ คอมเพรสเซอร์แอร์จะตัดการทำงานโดยทันที เพื่อไม่ให้ดึงโหลดกำลังเครื่องยนต์ แต่เมื่อผ่อนคันเร่งกลับมาขับขี่แบบปกติ คอมแอร์ถึงจะทำงานอีกครั้ง

ต่อด้วย BRZ ถือเป็นรถที่ขับสนุกที่สุด เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตขนานแท้ บอดี้รถที่เตี้ย เบาะนั่งแบบ Semi-Bucket Seat พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แถมด้วยเสียงท่อไอเสียเดิมๆ แต่สุดแสนเร้าใจ

ทั้งหมดนี้ช่วยให้ได้ฟีลการขับแบบสุดมันส์ แม้รถจะไม่แรงเท่า WRX

แต่กำลังระดับ 200 แรงม้านั้น เรียกได้ว่าขับสนุกไม่เบา เมื่อคุณเติมคันเร่งในช่วงที่ออกโค้ง มากไปนิด อาการท้าย Slide ออกจะมีมาให้สัมผัสโดยตลอด แต่ระบบ VSC จะคอยเข้ามาตัดกำลัง รวมไปถึงการเติมคันเร่งมากจนล้อฟรีในบางช่วงเช่นกัน TCS ก็ยังเข้ามาสอดแทรกทำหน้าที่ได้อยู่ แต่อย่างที่บอกไป มันจะไม่ทำงานแบบหยุดห้ามโดยทันที เหมือนอย่างรถตระกูล SUV ที่ทำงานค่อนข้างไว เจ้า BRZ นี้ยังรอให้มีอาการดิ้นเล็กๆ ให้เร้าใจกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ปล่อยให้เสียอาการมากจนเกินงาน น่าเสียดายที่ แทร็กนี้ ได้จัดวาง Pylon ค่อนข้างแคบ จึงไม่เหมาะแก่การปิดระบบ TCS สักเท่าไรนัก

คันสุดท้าย WRX สีแดง เกียร์ MT ทันทีที่กำคลัชเข้าเตรียมออกตัว พบว่าช่วงคลัชค่อนข้างยาว และมียังมีอาการรอรอบบ้างในช่วงออกตัวเช่นเดียวกับเกียร์ Lineartronic แต่ทว่าคันเร่งดูจะไม่มีอาการ Lag หน่วง รวมไปถึง บูสต์ซึ่งมาไวกว่า
ออกตัวทางตรงเราลากเกียร์สับขึ้นเกียร์ 2 ที่ราว 6,000rpm อาการกระแทกหลังติดเบาะดึงเอาเรื่อง ไม่เบา พละกำลังดูแตกต่างจากเกียร์ AT อย่างชัดเจน รวมไปถึงให้อัตราเร่งที่ดีกว่า สามารถความเร็วได้มากกว่าในช่วงทางตรงก่อนถึงทางโค้ง ขณะที่ระบบช่วงล่าง การยึดเกาะยังดูหนักแน่นเฟิร์ม เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการทำงานของระบบความปลอดภัย

สำหรับกิจกรรม Subaru Driving Experience ในครั้งนี้นอกจากจะจัดให้กับบรรดาสื่อมวลชนได้ลองรถจากค่ายดาวลูกไก่เต็มๆ แล้วยังได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าผู้สนใจสามารถทดลองขับได้ในวันที่ 28-29 พค. ที่ผ่านมา
ใครที่พลาดในงานครั้งนี้ไม่เป็นไร หากมีงานกิจกรรมครั้งหน้าอีก เราจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ผู้ที่สนใจทราบเข้าร่วมทดสอบขุมพลัง Boxer และระบบขับเคลื่อน Symmetical AWD กันอีกทีครับ

ขอขอบคุณ TC Subaru สำหรับกิจกรรม Subaru Driving Experience
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver