รีวิว Honda Civic สปอร์ตซีดานที่ครองใจคนไทยยาวนาน

รีวิว Honda Civic สปอร์ตซีดานที่ครองใจคนไทยยาวนาน

Honda Civic อยู่กับคนไทยมาหลาย Generation มีชื่อเสียงยาวนาน มียอดขายสะสมมานานมาก จนเรียกว่าเป็นรถยนต์ยอดนิยมอย่างแพร่หลายรุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย โดยในครั้งนี้เว็บ 9CarThai.com ได้รับ Civic 1.8 E AT Navi จาก Honda มาทดสอบขับ

ในกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ต้องยกให้ Honda Civic เป็นตัวเด่นที่ขายดีในตลาด เพราะเพิ่งปรับเปลี่ยนโฉมไปไม่นานนัก ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Toyota Corolla Altis นั้นใกล้หมดอายุในตลาด รอวันปรับโฉมใหม่ในปี 2557 ส่วน Nissan, Ford และ Chevrolet ในรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน ก็ถือว่าทำยอดขายได้ดีพอสมควร

เส้นสายตัวรถ เป็นแนวเส้นลากยาวตั้งแต่กันชนหน้า ผ่านประตู ไปถึงกันชนหลัง

ดี ไซน์ด้านหน้า พัฒนาจาก Civic รุ่นก่อนหน้า เพิ่มความสปอร์ตและความหรูด้วยแถบโครเมี่ยมขนาดใหญ่หนาที่กระจังหน้า ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ 1 คู่ ปรับระดับอัตโนมัติ ไม่มีไฟ Daytime ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในยุคนี้ที่ควรมี

ไฟเลี้ยวฝังอยู่ในโคมไฟหน้าติดกระจังหน้า ไฟตัดหมอกล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยมทรงวงรี

มือจับประตู สีเดียวกับตัวรถ

ล้ออัลลอยด์ดีไซน์แนวหรูมากกว่าดูสปอร์ต

เสาหลังคารูปตัว A มุมมองกว้าง สะดวกในการเลี้ยว

กระจกหน้า ลาดเอียงสอดคล้องกับมุมของฝากระโปรงหน้า

ดูไฟหน้าแบบ Projector และไฟเลี้ยวกันแบบชัดๆ

ขอบกระจก เป็นแบบไม่มีโครเมี่ยม ซึ่งรถยนต์ขนาดเดียวกันจากคู่แข่งหลายรุ่นในตลาด มีขอบโครเมี่ยม

ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง

กระจกมองข้างขนาดใหญ่พอสมควร มุมมองดี แต่ไม่ดี

ระบบ กันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ อิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ให้การยึดเกาะถนนและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ผสานการทำงาน ด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD

ท่อไอเสียแบบท่อเดียว

ช่องติดป้ายทะเบียนแบบกว้าง ติดกรอบป้ายทะเบียนแบบทรงยาวได้ แต่การดัดแปลงในบางลักษณะ ถือเป็นความผิด

ไฟท้ายทุกดวงเป็นหลอดไฟแบบไส้ธรรมดาทั้งหมด ไม่มีการใช้ LED เลย

ไฟถอยหลังแบบสองข้าง พร้อมไฟตัดหมอกหลัง

กันชนหน้าและหลัง ยื่นออกมามากกว่า Honda City อย่างมาก

ล้ออัลลอยด์มีขนาดเล็กไปหน่อย ถ้าชอบความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว คงจะต้องเปลี่ยนล้อ

ฐานกระจกมองข้างเป็นสีดำ น่าจะทำเป็นสีเดียวกับตัวรถทั้งหมด

เริ่มดูภายในรถกันบ้าง ตกแต่งเป็นสีทูโทน

มีลำโพงเสียงกลางทุ้ม ติดตั้งที่ประตู แยกกันกับลำโพงเสียงแหลมซึ่งอยู่ใกล้ช่องแอร์

มีช่องใส่ของเล็กน้อย จุดวางศอก หุ้มด้วยหนัง มือจับประตูเป็นสีเงินไม่แวววาว ไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือ

ปุ่มปรับกระจกทุกบาน มีไฟเรืองแสง

พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หน้าจอ Navigator และแผงควบคุมแอร์ ทำมุมหันเข้าหาคนขับ

Leg room ของผู้โดยสารตอนหน้า ดูคับแคบไปหน่อย

กระจกเงาส่องหน้า มีทั้ง 2 ฝั่ง แต่ไม่มีไฟส่องสว่างที่กระจก

พวงมาลัยลื่นมือ

Cruise Control มีปุ่มอยู่ที่ด้านขวาของพวงมาลัย สั่งงานได้สะดวก ส่วนด้านซ้ายเป็นปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและหน้าต่างจอแสดงผล

 

ปุ่มรับสายและโทรออก เมื่อเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับระบบเครื่องเสียง

ปุ่มปรับและเปิดปิดสัญญาณไฟทั้งหมด รวมทั้งที่ปัดน้ำฝน

จอแสดงผลแนวยาว ด้านซ้ายมือสุด บอกถึงวิทยุ FM และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

Speedometer เป็นแบบดิจิตอล ตัวเลขจะวิ่งตลอดเวลาที่ขับรถ ขับใหม่ๆ จะรู้สึกว่ามันรบกวนสายตา

มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ไฟสวยงาม ดูง่าย

เปลี่ยนการแสดงผลเป็นนาฬิกาได้ ทั้งแบบ Analog และ Digital

ตัวเลขแสดงผลคลื่นวิทยุ ค่อนข้างใหญ่

ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน (Eco Assist) พร้อม ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน (Eco Coaching)

ที่พักเท้าซ้าย ถัดไปเป็นคันเร่งและเบรค ติดตั้งไว้ห่างกันพอสมควร

ฐานพวงมาลัยฝั่งขวา มีตัวล็อคปรับระดับพวงมาลัย

ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้า เฉพาะผู้ขับ

ปุ่มกดเพื่อเปิดฝาถังน้ำมัน และงัดขึ้นเพื่อเปิดฝากระโปรงท้าย รวมไว้เป็นปุ่มเดียว

ปุ่มเปิดฝากระโปรงหน้า อยู่ใกล้ขอบประตู ตำแหน่งที่ทุกคนคุ้นเคย

เบาะผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือทั้งหมด ไม่ได้ใช้ไฟฟ้า

เข็มขัดนิรภัยปรับระดับไม่ได้ แต่ก็มีถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag ชดเชยให้

ลำโพงเสียงแหลม ยิงเสียงเข้าหาผู้โดยสารและผู้ขับในแนวระดับหูพอดี

ช่องเก็บของ พื้นที่เล็กไปหน่อย เพราะพื้นที่ถูกใช้ติดตั้งระบบถุงลมนิรภัย

Navigator รองรับทั้ง 2 ภาษา

เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตอล มีครบฟังก์ชั่นพื้นฐาน แต่ดีไซน์ดูเชยไปหน่อย

เลือกสถานีวิทยุได้บนหน้าจอ หน้าละ 6 สถานี มี 2 หน้า

เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ เครื่องเล่น DVD 1 แผ่น รองรับไฟล์ MP3 / WMA

ระบบนำทาง บอกข้อมูลเป็นภาษาไทย เข้าใจง่ายกว่า

โดยรวมระบบเสียงถือว่าดีพอใช้ได้ ถูกใจแนวเพลงของวัยรุ่น

เกียร์อัตโนมัติแบบแถวตรง ไม่ใช่ขั้นบันได และเบรคมือที่ใหญ่โต ดูเกะกะไปนิด

หัวเกียร์เป็นพลาสติกเทียมลายหนังสีดำ

ช่องเก็บของและขั้วต่อ USB อยู่ใต้ที่วางแขน และอีกช่องใกล้เบรคมือ

ประตูหลัง มีช่องเก็บของ แต่ใส่ขวดน้ำขนาดมาตรฐานไม่ได้

เบาะหลัง มีที่วางแขนและใส่ขวดน้ำ

มุมมองของผู้ขับ เมื่อหันไปมองขณะถอยรถแบบหักเลี้ยว มีเสาบังเล็กน้อย ไม่ขวางสายตาจนเกินไป

Leg room ของผู้โดยสารตอนหลัง ถือว่าค่อนข้างกว้างมากพอ พื้นเรียบ ไม่มีนูนกลางห้องโดยสาร

ดูในห้องเครื่องยนต์กันบ้าง

ขุมพลังจากเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร 141 แรงม้า

ช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ มีพื้นที่กว้างมากพอสมควร แต่ระดับความสูงไม่มากนัก

อุปกณณ์เปลี่ยนยางรถยนต์ฉุกเฉิน

กุญแจรีโมตแบบซ่อนปลายกุญแจโลหะได้ ป้องกันการขีดข่วนกับของใช้ต่างๆ ในกระเป๋า

ทดสอบรถ

เส้นทางที่เราใช้ทดสอบขับ เป็นถนนราชพฤกษ์ในช่วงกลางคืน ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ดี การจราจรไม่หนาแน่น ทดสอบเร่งแซงได้ ผิวถนนเรียบดี ไม่ค่อยมีการปะซ่อมแซมผิวการจราจร และไม่มีจุดกลับรถที่เกาะกลางถนน วัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ที่ 15.4 กม./ลิตร

วัดอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง
	ครั้งที่ 1	ครั้งที่ 2	ครั้งที่ 3	เฉลี่ย
อัตราเร่ง 0-60 กม./ชม.	5.8	5.2	5.7	5.6
อัตราเร่ง 0-80 กม./ชม.	8.2	8.4	8.5	8.4
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.	11.8	11.5	12.2	11.8
อัตราเร่ง 0-120 กม./ชม.	16.1	16.2	15.7	16

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่ง

Honda Civic มีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.8 และ 2.0 ลิตร มีคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกันหลายรุ่นให้เปรียบเทียบ แต่คนไทยมีหลายครอบครัวที่ผูกพันกับฮอนด้ามายาวนาน สืบต่อจากรุ่นพ่อแม่สู่ลูกหลาน เป็นแฟนฮอนด้าเหนียวแน่น แน่นอนว่ารถยนต์คันถัดไปก็น่าจะเลือกฮอนด้าที่คุ้นเคย

ถ้าเป็นคนที่มอง Honda City รุ่นปัจจุบันแล้วรู้สึกชอบในดีไซน์ ก็น่าจะชอบ Civic ด้วยเช่นกัน เพราะมีสไตล์ที่คล้ายกันอย่างมาก คือเป็นทรงลิ่มแหลมที่ด้านหน้า ท้ายอ้วนหนาใหญ่ กระจังหน้าเล็กบาง โลโก้ขนาดใหญ่แสดงถึงความภูมิใจที่ใช้ฮอนด้า ชอบความสปอร์ต ชอบตกแต่งรถยนต์ให้เป็นสไตล์ของตัวเอง ไม่หยุดนิ่งในการหาอุปกรณ์เสริมแต่ง ไม่ชอบความหรู ไม่ชอบรถที่มีด้านหน้าขนาดใหญ่ ไม่ได้สนใจเรื่องแถบโครเมี่ยม ซึ่งคู่แข่งแต่ละรายในตลาด ก็มีจุดยืนที่แตกต่างกันในการออกแบบ แต่ Civic เน้นไปที่ความสปอร์ตซีดานอย่างชัดเจน

การบริการหลังการขายของฮอนด้า เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนชื่นชอบและไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น สมรรถนะโดยรวมก็ถือว่าดีอยู่ในระดับกลางๆ เครื่องยนต์ i-VTEC มีชื่อเสียงที่ดีอยู่แล้ว

• Toyota Corolla Altis คู่แข่งอันดับ 1 ที่ไมเนอร์เชนจ์ครั้งล่าสุด ได้เปรียบกว่าในเรื่องของดีไซน์ภายนอกและมีรุ่น CNG ให้เลือกใช้ ไฟท้ายของ Altis สวยงามกว่า Civic เป็นโคมไฟแบบใส ใช้ LED สีแดงแทนหลอดไฟแบบไส้ที่มีอายุการใช้งานสั้นมาก ชุดแต่งที่มีให้เลือกหลากหลาย เครื่องปรับอากาศเย็นเร็วตามสไตล์ของโตโยต้าทุกรุ่น สำหรับคนที่เน้นประหยัดต้องการใช้ NGV ก็มีรุ่น CNG เป็นทางเลือก ไม่ต้องเสี่ยงติดตั้งเอง แต่ในเรื่องของความสบายในห้องโดยสารนั้น ถือว่าสอบตก ซึ่งจะมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ในปี 2557

• Mitsubishi Lancer EX ดีไซน์ดูเป็นหนุ่มนักซิ่ง คงไม่เหมาะสำหรับสาวๆ ช่วงล่างถือว่าดีน่าพอใจ เครื่องยนต์รองรับน้ำมัน E85 ภายในห้องโดยสารออกแบบมาได้ไม่ดีนัก การบริการหลังการขายก็ยังไม่ค่อยน่าวางใจ

Honda Civic มีรุ่นย่อย 5 เกรด

พร้อมราคาดังนี้

• 1.8 S MT 778,000 บาท
• 1.8 S AT 833,000 บาท
• 1.8 E AT 914,000 บาท
• 1.8 E AT NAVI 969,000 บาท
• 2.0 EL AT NAVI 1,130,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่ม HONDA CIVIC เพิ่มเติมได้ที่

ใหม่ All New Honda Civic 2014-2015 ราคา ฮอนด้า ซีวิค ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

วรพล ลิ่มศิริวงศ์ ผู้เขียน

ขอขอบคุณ ทีมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท Honda Automobile (Thailand) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถมาใช้ในการ TEST DRIVE

ถ้าข้อมูลนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ