TEST DRIVE : รีวิว Ford EcoSport SUV สำหรับชีวิตคนเมือง พร้อมลุยทุกเส้นทาง

ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การใช้งานครบถ้วนและเพียงพอสำหรับชีวิตคนเมือง ด้วยราคาเพียง 6.69 – 8.29 แสนบาท ทำให้หลายคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์คอมแพค 4-5 ประตู เปลี่ยนใจเริ่มมาสนใจ Ford EcoSport ที่มีราคาใกล้เคียงกัน แต่ได้ประโยชน์ใช้สอยมากกว่า

Ford EcoSport ย้ำกันอีกครั้ง ต้องอ่านชื่อรุ่นว่า เอคโค่สปอร์ต เนื่องจากฟอร์ดไม่ต้องการให้คนไทยเข้าใจกันผิดว่าเป็น Eco Car ในแบบ SUV

Ford EcoSport ในประเทศไทย ใช้สีแดง (Mars Red) เป็นสีโปรโมทสำหรับสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปถึงลูกค้า

EcoSport มีให้เลือก 6 สีในช่วงแรกที่เปิดตัว ยังไม่มีสีเขียวและสีเหลืองอย่างที่เคยเห็นกันในภาพหลุด ของรถวิ่งทดสอบใกล้โรงงานประกอบของฟอร์ดในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา

แต่ในความเป็นจริงแล้ว พบว่า EcoSport สีที่สวยน้อยที่สุด คือ สีแดงในใช้โปรโมทนี่แหละ

ด้านข้าง อาจดูสั้นป้อม กะทัดรัด แต่แฝงไว้ให้ด้วยความน่ารักที่น่าหลงใหล

รูปทรงของ EcoSport เป็นรถ SUV ขนาดเล็ก ขับง่าย จอดสะดวก มียางอะไหล่ท้ายรถ ทำให้นึกถึง Jeep หรือ Honda CR-V รุ่นเก่า

มองดูดีไซน์รอบคัน ก็ถือว่ามีความสวยงาม ทันสมัย แฝงด้วยความแข็งแรงและดุดัน

– ด้านข้างและด้านหลัง ออกแบบได้อย่างสวยงาม เท่ ทันสมัย

– ไฟตัดหมอกหลัง มีมาให้ทุกรุ่นย่อย แต่ควรเปิดใช้งานเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น

– ตัวถังช่วงล่างรอบคันเป็นพลาสติกสีดำด้าน ให้ความรู้สึกเป็นรถ Crossover ที่พร้อมลุยป่าฝ่าดงหญ้า

 

ยางอะไหล่อยู่ตรงกลางของตัวรถ มองดูแล้วมีความสมดุล ต่างจากหลายรุ่นที่เคยเห็นกันมา จะติดตั้งยางอะไหล่ไว้เยื้องไปทางขวา เพราะกำหนดพื้นที่ติดป้ายทะเบียนรถที่ด้านซ้าย จนเป็นสากลนิยมในสมัยนั้น (ยางอะไหล่ ปิดครอบด้วยฝาพลาสติกสีเดียวกับตัวรถ)

ไฟหน้าดีไซน์สวยกว่า SUV ทั่วไป แต่ด้วยราคาที่ต่ำ จึงเป็นโคมไฟแบบธรรมดา

ไม่ใช่ Projector

Ford EcoSport มี 3 รุ่นย่อย คือ

Ambiente ราคา 669,000 บาท (เกียร์ธรรมดา) / 709,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ)
Trend ราคา 759,000 บาท และ Titanium ราคา 829,000 บาท

ทั้ง 3 รุ่นย่อย มีความแตกต่างกันในเรื่องของอุปกรณ์และระบบของตัวรถ

กระจังหน้าและช่องลมขนาดใหญ่ ใช้ลายเส้นที่เป็นโครเมียมจำนวนมาก ดูสวยงามและมีเสน่ห์

ไฟตัดหมอกทรงกระบอกโครเมียม เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นย่อย Trend และ Titanium

ไฟเลี่ยวอยู่ที่ขอบด้านนอกของโคมไฟหน้า

ป้ายทะเบียน ติดตั้งบังช่องลมด้านหน้าตามที่เห็นในภาพ อยู่ในระดับต่ำ ไม่ค่อยรู้สึกขัดตาเท่าไรนัก

กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว มีสีสรรแบบทูโทน ครึ่งล่างเป็นสีดำ เ

ในรุ่น Trend และ Titanium มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายพิเศษ มาพร้อมกับยาง 205/60 R15 ส่วนรุ่น Ambiente เป็นล้อกระทะพร้อมฝาครอบพลาสติก ขนาด 15 นิ้ว

มือจับประตู สีเดียวกับตัวรถ ทำงานควบคู่กับกุญแจรีโมท

มาดูห้องเครื่องกันบ้าง

ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Duratec 1,500 ซีซี 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิด 14.46 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 จังหวะ เน้นการทำงานที่ราบเรียบ เหมาะสำหรับการขับใช้งานทั่วไป แรงม้าแรงบิดสูงสุดแม้จะอยู่ในรอบสูง แต่อัตราเร่งในรอบต่ำ-ปานกลางก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน

สังเกตกันดีๆ จะเห็นว่าขอบของโคมไฟหน้า เรืองแสงสว่างเป็นเส้น ทำหน้าที่คล้ายเป็นไฟ Daytime แต่ใช้งานได้ในช่วงค่ำเหมือนเปิดไฟต่ำ เพราะความสว่างไม่เพียงพอที่จะสู้แสงแดดในเวลากลางวัน

ประตูในฝั่งคนขับ

มีลำโพง Tweeter ฝังอยู่ ใกล้กับที่เปิดประตู เป็นสวิตช์ปรับมุมกระจกมองข้าง

ห้องโดยสารตอนหน้า

คอนโซลด้านหน้าที่ดูคล้ายกับ Ford Fiesta

ไม่มีช่องเสียบกุญแจ

เพราะใช้วิธีกดปุ่ม Start อยู่ใกล้กับช่องแอร์ตรงกลางฝั่งคนขับ

มาตรวัดและไฟ Indicator

พวงมาลัย มีปุ่มสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมฟังก์ชั่นการโทรออก-รับสาย

จอแสดงผล และเครื่องเสียง มีปุ่มเยอะ แต่ใช้งานได้ง่าย สามารถป้อนตัวอักษรเข้าระบบได้ด้วย

เครื่องปรับอากาศ

เกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาจะมี 5 สปีด

ปุ่ม Start รถ

เสาทรง A และกระจกมองข้างที่มีมุมมองกว้างกำลังดี ไม่แคบเกินไป

มีที่วางแขนสำหรับคนขับ สามารถพับได้

ช่องเก็บแว่นตา

ไฟส่องแผนที่ ซ้าย-ขวา

ที่บังแดด มีกระจกส่องหน้าทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า

จอแสดงผลของระบบเครื่องเสียง อยู่ในอุโมงค์ ป้องกันแสงแดดรบกวน อ่านได้ง่าย

ช่องเก็บสัมภาระแบบรักษาความเย็น เหมาะกับการใส่เครื่องดื่มบรรจุกระป๋อง

เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ เฉพาะในรุ่นท็อปสุดอย่าง Titanium

มี Sunroof แบบปรับไฟฟ้าในรุ่น Titanium เช่นกัน

น้อยครั้งที่จะได้ใช้ Sunroof เพราะสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนมาก

ช่องแอร์โดยรวม ถือว่ามีขนาดใหญ่กำลังดี

ตำแหน่งของกระจกมองข้าง ลงตัวอย่างมาก ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป

เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับได้ 4 ทิศทาง

พนักพิงศีรษะ โน้มมาข้างหน้าพอประมาณ ตรงกับตำแหน่งศีรษะพอดี

พวงมาลัยขนาดเหมาะสม พอดีมือ หุ้มหนังสำหรับรุ่น Titanium เท่านั้น

พับเบาะที่นั่งตอนหลังได้ แต่เป็นการพับยกให้แนบไปกับหลังเบาะหน้า

ประตูผู้โดยสารตอนหลัง มีลำโพงฝังอยู่ด้วย

เบาะที่นั่ง พับ 60:40

ไฟท้ายดีไซน์สวยคม

ไฟท้ายเป็นหลอดไฟธรรมดา ไม่ได้ใช้ LED

ช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ

บานพับประตูท้ายรถอยู่ด้านซ้าย ไม่สะดวกเมื่อขนย้ายสัมภาระในขณะจอดชิดขอบทางด้านซ้าย

โลโก้ Ford และชื่อรุ่น EcoSport อยู่ฝั่งซ้าย ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไรนัก

ฝาปิดถังน้ำมัน มีระบุว่ารองรับน้ำมัน E20

ในการดึงเบาะลง จากที่พับไว้ ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องออกแรงพอสมควร ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก

พื้นที่วางเท้าและขา ค่อนข้างกว้างเพียงพอสำหรับการนั่ง 3 คน

ทัศนวิสัยดีเพราะที่นั่งยกสูง แต่เสาคู่หน้า ดูหนาไปหน่อย บดบังเล็กน้อยในขณะเลี้ยว

ที่นั่งสูงทำให้ไม่ค่อยเมื่อยขา เข่าทำมุม 90 องศา นั่งสบายกว่า

ที่พิงศีรษะ หนาและไม่แข็งจนเกินไป

มีที่วางแก้วน้ำหรือของใช้ขนาดเล็กใต้ที่วางแขนคนขับ

ที่วางแขนผู้โดยสารตอนหลังที่ประตู ใช้งานได้จริง ระดับความสูงถูกต้องตามสรีระ

ราวเหล็กและหลังคาทรงทันสมัย ไม่ต้องเสริมสปอยเลอร์

Sensor คำนวณระยะในขณะถอยหลัง ที่ทำงานได้แม่นยำดีมาก

ฝาครอบยางอะไหล่ สีเดียวกับตัวรถ ทำด้วยพลาสติก ค่อนข้างบอบบางไปหน่อย

ด้านหลัง จะมองมุมไหน ก็สวยลงตัวสไตล์รถ SUV

ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติในรุ่น Titanium

เสาอากาศบนหลังคา แบบยาว

 

Ford EcoSport คันนี้ ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากฟอร์ด มีให้เลือก 13 รายการ ได้แก่ ชุดครอบกันกระแทกโคมไฟหน้า, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ชุดตกแต่งกันชนหลัง, แผ่นกันแมลงฝากระโปรงหน้า, กันสาดที่ประตูทั้ง 4 บาน, ชุดราวหลังคา, ชุดบังโคลนหน้า-หลัง, แผงกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง, ปลายท่อไอเสียสเตนเลส และเสาอากาศแบบสั้น ส่วนภายในประกอบด้วยกาบบันไดสเตนเลส, พรมปูพื้น และถาดรองห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย

ไฟท้ายขณะติดสว่าง

ทดลองเปิดไฟหน้า

ไฟหรี่สไตล์เท่ๆ เมื่อสิ้นแสงสุริยา

สี Ingot Silver อีกทางเลือกของคนที่ไม่ชอบรถสีแดงอมส้ม Mars Red

 

 

 

 

 

 

ที่นั่งยกสูงทั้งหมด ทัศนวิสัยและมุมมองดี แต่ก็มีระดับหลังคาที่สูงด้วยเช่นกัน ศีรษะไม่ติดหลังคาแน่นอน

 

 

ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC จุดเด่นของฟอร์ด

สี Ingot Silver

ประตูท้ายมีขนาดใหญ่ แต่น้ำหนักไม่เยอะ อย่างไรก็ตาม ในการจอด จะต้องเผื่อพื้นที่ให้สามารถเปิดได้

หลายคนตำหนิว่า บานพับประตูท้าย น่าจะอยู่ด้านขวามากกว่า เพราะเมืองไทย ขับเลนซ้าย จอดฝั่งซ้าย

ห้องเก็บสัมภาระท้าย ค่อนข้างน้อย เพราะรถมีขนาดเล็กและสั้น

มุมมองจากท้ายรถ

เปิดประตูท้ายรถด้วยง่ายๆ ด้วยการกดสวิตช์ ไม่ต้องออกแรงเปิดล็อค

เบาะที่นั่งแบบหุ้มหนังแท้ ดีไซน์ที่ดูสปอร์ต แต่ก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่เน้นหรู และไม่ห่วงเปื้อน

 

 

สี Frozen White น่าจะได้รับความนิยมจากคนไทยมากกว่าสี Mars Red

ทดสอบขับบนสนามแข่ง Motor Sport Land

เป็นการทดสอบขับโดยใช้ความเร็ว 60-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง พบว่าระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชันบีม และเทรลลิงอาร์ม ทำงานประสานกันได้ดี เข้าโค้งในขณะทำความเร็ว ตัวรถก็ยังทรงตัวได้ดี ควบคุมรถได้ไม่ยาก

สมรรถนะของเครื่องยนต์ บอกกันตรงๆ ว่าไม่ถูกใจผู้ขับที่มีสไตล์การขับแบบสปอร์ต เพราะอัตราเร่งออกตัว ทำได้ไม่ดี ถือว่าอืดมาก แต่เมื่อทำความเร็วไปถึงระดับหนึ่ง จะเร่งได้ดีมากขึ้น แสดงว่า แรงปลาย แต่อืดในช่วงต้น ทำให้ไม่ใช่รถที่ขับสนุก ไม่เน้นความหวือหวา ขับแบบไปเรื่อยๆ จะเหนื่อยเล็กน้อยตอนเร่งแซง เพราะรู้สึกเหมือนรถไม่ค่อยมีแรง

สุดท้ายเป็นการขับลงแอ่งน้ำ หน้าทิ่มลงไป 25 องศา แล้วเชิดขึ้นผิวดิน 35 องศา ผ่านได้สบายๆ ไม่มีปัญหา โดย EcoSport สามารถลุยน้ำลึก 55 cm. ได้ หมดห่วงถ้าต้องลุยน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน หรือทางขรุขระที่ต้องปีนป่ายก็ลุยได้ เพราะมีใต้ท้องรถสูงถึง 20 cm.

ข้อสังเกต

• เบาะที่นั่งหนังแท้ ใช้วัสดุและการออกแบบที่ดูไม่สวย เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์นั่งที่ระดับราคาเดียวกัน
• เครื่องปรับอากาศ เสียงลมดังแรง เย็นช้ากว่ารถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นยี่ห้อดัง
• ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ในห้องโดยสารพอสมควร
• ฝาครอบยางอะไหล่ ถอดแล้วใส่คืนได้ยาก
• ประตูท้ายรถ เปิดออกไปทางซ้าย ตามทิศทางของรถอเมริกัน ไม่เหมาะในเมืองไทย
• เสาอากาศวิทยุ ยาวและแกว่งเกะกะ

เปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกัน

ในประเทศไทยไม่มี Toyota RAV4 ส่วน Suzuki, Subaru และอื่นๆ ก็ถือว่าไม่ใช่คู่แข่งของ Ford EcoSport โดยตรง แต่คนไทยในปัจจุบันที่สนใจรถ SUV ขนาดเล็ก หลายคนกำลังเปรียบเทียบ EcoSport กับ Nissan Juke ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน และโปรโมทในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

NISSAN Juke เป็นรถนำเข้าที่ได้เปรียบในด้านดีไซน์ที่ชวนหลงใหล ความแปลกใหม่และแตกต่าง ไม่เหมือนใคร ขับไปไหน ใครๆ ก็ต้องมอง ล้อขนาดใหญ่ รถทรงสูง ทัศนวิสัยค่อนข้างดี เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดีกว่า และบริการหลังการขายที่ดีกว่า EcoSport

แต่ NISSAN Juke เสียเปรียบตรงที่เหมาะกับชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง ไม่พร้อมที่จะลุยบนถนนแย่ๆ หรือลุยน้ำท่วม Juke มีปัญหากับน้ำ ต้องระมัดระวังในการขับลุยน้ำในช่วงฤดูฝน รวมทั้งการล้างอัดฉีดแบบแรงๆ ก็ทำให้รถมีปัญหาได้ทันที

การออกแบบภายในห้องโดยสาร Juke ทำได้ดีกว่า EcoSport แต่หลังคาที่ลาดต่ำก็มีปัญหากับผู้โดยสารตอนหลังบางคน ที่พบว่าศีรษะเกือบชนเพดาน

ที่จริงแล้ว นิสสัน จู๊ค และ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต เกิดมาด้วยจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลายด้าน Juke เน้นดีไซน์ ขับสนุก สไตล์สปอร์ต หวือหวา แต่ EcoSport เน้นขับไปเรื่อยๆ ช้าๆ แต่พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^

ดุรายละเอียดสเปค และตารางเงินผ่อนของ Ford EcoSport ได้ที่

ใหม่ All New Ford EcoSport 2014-2015 ราคา ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

และ NISSAN JUKE ได้ที่

ใหม่ Nissan Juke 2014-2015 ราคา นิสสัน จู๊ค ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์