หลังจากเปิดตัวโตโยต้า โคโรลล่า อัลติสโฉมใหม่เพียงไม่กี่สัปดาห์
เราก็เริ่มพบเห็นรถยนต์รุ่นนี้บนท้องถนนบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายถึงกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม สยบข่าวเศรษฐกิจขาลงในบ้านเรา ไม่ใช่เพียงแค่โคโรลล่า อัลติส เท่านั้น รุ่นอื่นจากโตโยต้า ก็เห็นวิ่งป้ายแดงกันมากมาย
ในครั้งนี้ ทีมงาน 9CarThai.com ได้รับ Toyota Corolla Altis รุ่น 1.8G สีขาวมาทดสอบ
เรามาดูดีไซน์รอบคันกันก่อน ซึ่งเป็นดีไซน์มาตรฐานจากโรงงาน ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง
รุ่นใหม่ เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด ไม่เหลือเค้าโครงของรุ่นก่อนหน้าเลย
กันชนหน้า กระจังหน้า และไฟหน้า ออกแบบให้สอดรับกันอย่างลงตัว ไม่ขัดตา
เส้นสายของการออกแบบที่ลงตัวรอบคัน ลากยาวไปยังฝากระโปรงและส่วนอื่นๆ ของตัวรถ
กระจกไฟฟ้าในฝั่งคนขับ สามารถเลื่อนลงอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวางขณะสั่งปิดกระจก
รถยนต์รุ่นนี้ไม่มีเสาอากาศวิทยุให้เห็น ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน
ฝาท้ายและกันชนหลัง ก็ออกแบบให้สอดรับกันเป็นอย่างดี
ไฟท้ายและคิ้วท้าย ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Camry จึงดูหรูหรา แต่มีการเล่นมุมของรูปทรงไฟท้าย ให้ดูแหลมโฉบเฉี่ยว
ล้ออัลลอย ที่สะท้อนอารมณ์สปอร์ตพอสมควร
มาดูความสวยงามน่าหลงใหลกันใกล้ๆ อีกสักหน่อย
ไฟหน้าของรุ่น 1.8G ยังไม่ใช่ LED Projector อย่างในรุ่น 1.8V Navi และ 1.8S
กระจัง หน้า มีแถบโครเมี่ยมลากยาวไปถึงขอบมุมของไฟหน้า ตลอดความกว้างของตัวรถ ซึ่งถือเป็นความแปลกใหม่ที่สวยงามลงตัว ได้ทั้งความหรูและความเท่
ยังมีโครเมียมอีก 2 เส้น คล้ายหนวดแมว อยู่ในโคมไฟหน้า
มองมุมไหนก็ดูสวยงามจริงๆ บางครั้งก็ดูคล้ายหน้าแมว ลองจินตนาการสองภาพข้างบนดูครับ
ไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 1.8V Navi และ 1.8G เป็นหลอดไฟธรรมดา ไม่ใช่ LED
โคมไฟหน้าแบบมีหางตายาวไปถึงด้านข้าง เล่นมุมมองที่ดูเฉียบคม เท่สุดๆ
โลโก้โตโยต้า มีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่เกินไป
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วของรุ่น 1.8G และดิสก์เบรค
มุมเหลี่ยมของโคมไฟหน้าด้านข้างที่ดูแปลกตา
มีโลโก้ Dual VVT-i เครื่องยนต์ที่ทุกคนรู้จักกันดี
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ออกแบบใหม่ ฉีกหนีความจำเจจากรถทั่วไปที่ออกแบบดูคล้ายก้อนสบู่
มือจับประตู มีแถบโครเมียม ดูสวยงามมากกว่าแบบโครเมียมทั้งชิ้น
ไฟท้ายแบบ Surface Illumination
ไฟท้ายก็เล่นเหลี่ยมมุมไม่แพ้ไฟหน้าเช่นกัน
ไฟท้ายสีแดงแบบ LED ส่วนไฟเลี้ยวและไฟถอยหลัง เป็นหลอดไฟธรรมดา
ใต้คิ้วท้ายโครเมียม ติดตั้งกล้องมองหลัง ช่วยมองในขณะการถอยเข้าจอด
โลโก้รุ่นบริเวณท้ายรถ อยู่ในฝั่งขวาทั้งหมด
โครเมียมที่ขอบแนวกระจกประตู เพิ่มความหรู
รองรับน้ำมันเบนซิน Gasohol E85 ด้วย
ยางอะไหล่
ช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ ดูกว้างขวางพอสมควร
ไฟส่องสว่างและลำโพงบนเพดานห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ
ไฟเบรคดวงที่ 3
รูปทรงของกระจกมองข้างที่ดูทันสมัย และมีประโยชน์ใช้สอยดีพอสมควร ปรับมุมและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า
กุญแจรถของรุ่น 1.8G ใช้คู่กับปุ่ม Start/Stop จึงไม่ต้องดึงออกมาสตาร์ตรถ และมีระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart entry
ภายในห้องโดยสารตอนหน้า
มือจับประตูขนาดใหญ่ ที่เปิดประตูแบบโครเมียม และช่องเก็บขวดน้ำดื่ม
ลำโพง Tweeter ขับเสียงกลาง- แหลม
ลำโพง Woofer ขับเสียงทุ้ม-กลาง ที่บริเวณประตู
หนังเทียมและฝีมือการเย็บเบาะที่นั่ง ดูธรรมดาๆ ยังห่างชั้นกับ Camry มากนัก
ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า
กระจกส่องหน้าทั้ง 2 ที่นั่ง มีไฟส่องสว่าง และไฟส่องแผนที่
กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติในเวลากลางคืน
มีพื้นที่บนคอนโซลหน้ารถเยอะมาก
เบาะที่นั่งคนขับ ปรับไฟฟ้า
มือจับประตูมีขนาดใหญ่มาก จนบางครั้งรู้สึกเกะกะ
มาตรวัดเรืองแสง Optitron และจอแสดงข้อมูลที่น่าสนใจ
ข้อมูลของการใช้ระบบตั้งความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control
เก็บข้อมูลหาความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่
หาค่าอัตราเฉลี่ยสิ้นเปลืองน้ำมันตลอดการขับขี่
การตั้งค่าของจอภาพแสดงผล ซึ่งใช้งานไม่ยาก เรียนรู้ไม่นาน
พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
ปุ่ม Push Start อยู่ในตำแหน่งที่ใช้มือขวาในการกดได้สะดวก
นาฬิกา เครื่องปรับอากาศ และเครื่องเสียงในรถ
วิทยุ FM บันทึกสถานีได้เยอะ แต่ไม่มีเลขกำกับที่ปุ่ม ใช้วิธีบอกบนจอภาพ ว่าปุ่มใดใช้กับสถานีใดที่บันทึกไว้ล่วงหน้า
ช่องต่อสัญญาณ Aux และเสียบ USB Flashdrive
ปรับแต่งเสียงได้ตามใจ
เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตอล ใช้งานไม่ยาก
เกียร์อัตโนมัติ
ที่วางแก้วน้ำสองใบ
เกียร์อัตโนมัติ มีโหมด Manual ให้สามารถปรับระดับเกียร์ได้ตามใจต้องการ
ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น
ที่วางแขนอยู่ในระดับที่เหมาะสม วางได้จริง ไม่ลื่นไหล
เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตอลที่น่าประทับใจอย่างมาก ใช้งานง่ายและเย็นเร็วสุดๆ ลมแรงทั่วถึง
หลังพวงมาลัย เป็นปุ่มควบคุม Cruise Control
ขนาดของพวงมาลัย ค่อนข้างพอดีมือ
เตือนเมื่อปิดประตูไม่สนิท
ที่วางเท้า เบรค และคันเร่ง
ห้องโดยสารตอนหน้า
ประตูหลัง ไม่มีลำโพงฝังอยู่
ที่นั่งตอนหลัง ถือว่ากว้าง วางเท้าได้สะดวก ไม่อึดอัด สอดเท้าที่ช่องใต้เบาะหน้าก็ได้
ที่นั่งไม่ได้สั้นจนเกินไป รองรับได้ทุกสรีระ
มีพนักพิงศีรษะ 3 ที่นั่ง ปรับระดับได้
ช่องเก็บของหลังเบาะหน้า
พื้นที่สำหรับวางเท้าหรือสอดเท้า มีให้อย่างกว้างขวาง มากกว่าคู่แข่งในตลาด
ที่วางแขนพร้อมที่ใส่แก้วน้ำหรือขวดน้ำ
ม่านบังแดดที่กระจกหลัง
เข็มขัดนิรภัยปรับระดับได้อิสระ
คอนโซลหน้าและพวงมาลัย สไตล์คลาสสิก ไม่ทันสมัยหรือล้ำยุค จุดนี้บางคนอาจไม่ชอบ
ทัศนวิสัยดี ขับง่าย เสาไม่บดบังมุมมองเท่าไรนัก
ถอยหลังไม่ยากเท่าไร เสาหลังคาอาจจะดูหนา แต่มีกล้องช่วยมองขณะถอย
คำเตือนเล็กน้อย ใต้ฝาประโปรงหน้า
ห้องเครื่องยนต์ดูแน่นและค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
ล้ออัลลอย 16 นิ้วมาพร้อมกับยาง Dunlop
ตำแหน่งท่อไอเสียและจุดลากจูง
มุมกว้างสุดของประตูที่เปิดออกได้
ไฟหน้าและไฟตัดหมอก เสียดายที่รุ่น 1.8G ไม่มีไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
ไฟท้าย LED ส่องสว่างดูสวยงามในระดับหนึ่ง
ในขณะถอยจอด จะมีภาพปรากฏบนกระจกมองหลัง มุมมองแบบ Fish-eye ดูแปลกตา แต่ก็แม่นยำ
ทดสอบ ขับในตัวเมืองและชานเมือง ระยะทาง 20 กม. คำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้ 11.4 กม./ลิตร หากขับรถทางไกลด้วยความเร็วคงที่ น่าจะได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 12-14 กม./ลิตร
ระบบมาตรฐานความปลอดภัย
– โครงสร้างนิรภัย GOA ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน
– ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ช่วยป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลออกนอกเส้นทางในขณะเข้าโค้ง โดยระบบเซ็นเซอร์จะคอยตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวรถ และปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ช่วยควบคุมการหมุนฟรีของล้อ และจะส่งแรงดันน้ำมันเบรกไปยังล้อแต่ละล้อ เพื่อควบคุมเสถียรภาพของรถโดยอัตโนมัติ และหากการลื่นไถลยังคงเกิดขึ้น ความเร็วของรถก็จะลดลงโดยอัตโนมัติ ช่วยควบคุมการทรงตัวของรถในสภาพถนนลื่น
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหันหรือเบรกบนถนนลื่น
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุลเพื่อป้องกันอาการท้ายปัด และช่วยควบคุมรถให้มั่นคงขึ้นแม้เบรกในขณะเข้าโค้ง
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ช่วยเพิ่มแรงเบรกให้มากขึ้นในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของศีรษะและหน้าอกจากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนจากด้านหน้า
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชน และลดการบาดเจ็บจากการรัดดึงของระบบเข็มขัดนิรภัย
– เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ช่วยลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
– กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้หากรหัสของกุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน
– ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System) ส่งสัญญาณเสียงเตือนภัย เมื่อมีการบุกรุก
มี 6 สี รวม 2 สีใหม่
– สีน้ำตาล..Dark Brown Mica Metallic ใหม่
– สีเทา..Gray Metallic ใหม่
– สีขาว..Super white (เฉพาะรุ่น 1.6 ลิตร)
– สีขาวมุก..White Pearl Crystal (เฉพาะรุ่น 1.8 ลิตร)
– สีเงิน..Silver Metallic
– สีดำ..Attitude Black Mica
มี 8 รุ่นย่อย
-1.8 V Navi เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 1,069,000 บาท
-1.8 G เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 979,000 บาท
-1.8 S เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 899,000 บาท
-1.8 E เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 839,000 บาท
-1.6 E CNG เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 889,000 บาท
-1.6 G เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 829,000 บาท
-1.6 J CNG เกียร์ธรรมดา 819,000 บาท
-1.6 J เกียร์ธรรมดา 769,000 บาท
ทดสอบการขับขี่และสมรรถนะ
เราได้ทดสอบการขับขี่ในสภาพการจราจรจริงที่ติดขัดเป็นปรกติ ในย่านรามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก พบว่า Toyota Corolla Altis ใหม่ มีการปรับปรุงหลายด้าน และมีข้อสรุปดังนี้
เปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด (เฉพาะซีดาน)
ด้วยความที่สดใหม่ ดีไซน์ที่สวยงามลงตัวถูกใจคนไทย บวกกับเป็นยี่ห้อรถยนต์ที่คนไทยทั่วประเทศไว้วางใจ ทำให้ Toyota ทุกรุ่นมียอดจำหน่ายที่สูงมาก ส่งมอบรถได้รวดเร็ว หลังเปิดตัวไม่นาน ก็ส่งมอบรถยนต์ป้ายแดงวิ่งบนท้องถนนได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี จากการประชาสัมพันธ์ที่ดีด้วยเช่นกัน
หากต้องการรถยนต์ที่ซ่อมแซมได้ง่าย บำรุงรักษาง่าย และไม่แคร์ว่าเป็นรถยนต์นั่งที่ใช้ทำเป็นรถ Taxi ก็ถือว่า Toyota Corolla Altis เป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่า หากชอบแนวสปอร์ต ก็ให้พิจารณา ESPORT Version เทียบกับ Mazda 3 หากชอบแนวหรูหรามีระดับ ก็ให้พิจารณาเปรียบเทียบกับ Nissan Sylphy ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสูสีกับเจ้าตลาดอันดับหนึ่งอย่าง Corolla Altis
ดูรายละเอียด TOYOTA ALTIS เพิ่มเติมได้ที่
ใหม่ Toyota Corolla Altis 2014-2015 ราคา โตโยต้า อัลติส ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TEST DRIVE : รีวิว All New Toyota Corolla Altis แรงสุดเหนือใคร เร้าใจทุกมิติ "