TOYOTA ประกาศ ตลาดรถยนต์ปี 2558 อยู่ที่ 799,594 คัน ลดลง 9.3%
ตลาดรวมในประเทศปี 2559 อยู่ที่ 720,000 คัน
เป้าหมายการขายโตโยต้า 240,000 คัน
คาดตลาดรถในประเทศจะฟื้นตัวภายใน 2 ปี
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2558 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2559 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ
มร.ทานาดะ แถลงยอดขายรวมในภูมิภาคเอเชียว่า “ตลาดรถยนต์รวมในภูมิภาคเอเชียปี 2558 มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6,900,000 คัน มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 2.5% โดย โตโยต้า มียอดขายในภูมิภาคเอเชีย* กว่า 1,103,000 คัน เป็นยอดขายของกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 894,000 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30%
หากพิจารณาสถิติยอดขายตลาดรถยนต์จะพบว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทย มียอดขายรวมสูงเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศเอเชีย แต่อย่างไรก็ตามถือได้ว่าเป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมยังจำกัด รวมถึงความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนระมัดระวังเรื่องการลงทุนและใช้จ่าย แม้ว่าจะมีกำลังซื้อเร่งเข้ามาในช่วงปลายปีก่อนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2558 มียอดขายอยู่ที่ 799,594 คัน มีอัตราการเติบโตลดลง 9.3% โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มียอดขายลดลง 2.2% ตลาดรถยนต์นั่งมียอดขายลดลง 19.1%”
* อ้างอิงตามสถิติด้านภูมิภาคโดย TOYOTA ทวีปเอเชีย ประกอบด้วย ประเทศในกลุ่ม AEC รวมถึง ประเทศอินเดีย ประเทศปากีสถาน ประเทศบังคลาเทศ ประเทศศรีลังกา ประเทศเนปาล ประเทศภูฏาน และติมอร์ ตะวันออก
สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2558
ยอดขายปี 2558 เทียบปี 2557
– ปริมาณการขายรวม 799,594 คัน -9.3%
– รถยนต์นั่ง 299,067 คัน -19.1%
– รถเพื่อการพาณิชย์ 500,527 คัน -2.2%
– รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 396,898 คัน -5.7%
– รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 327,835 คัน -11.9%
โดย โตโยต้า มียอดขายที่ประเทศไทย 266,005 คัน ลดลง 18.7% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 105,398 คัน ลดลง 30.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 160,607 คัน ลดลง 8.4% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 151,117 คัน ลดลง 8.3.%
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2558
– ปริมาณการขายโตโยต้า 266,005 คัน ลดลง 18.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
– รถยนต์นั่ง 105,398 คัน ลดลง 30.6.% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
– รถเพื่อการพาณิชย์ 160,607 คัน ลดลง 8.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
– รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 151,117 คัน ลดลง 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
– รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 120,112 คัน ลดลง 17.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 376,763 คัน ลดลง 12% คิดเป็นมูลค่า 198,014 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 67,270.24 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 265,284.24 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2559 มร.ทานาดะ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2559 มีปัจจัยบวกจากการเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนของภาครัฐ ประกอบกับการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน และความพยายามในการเพิ่มส่งออก แต่เนื่องจากกำลังซื้อบางส่วนเกิดขึ้นล่วงหน้าในช่วงปลายปี 2558 ก่อนการปรับภาษีสรรพสามิตใหม่ ดังนั้นคาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งหมด 720,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10.0%
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2559
– ปริมาณการขายรวม 720,000 คัน ลดลง 10.0%
– รถยนต์นั่ง 265,000 คัน ลดลง 11.4%
– รถเพื่อการพาณิชย์ 455,000 คัน ลดลง 9.1%
– รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 364,000 คัน ลดลง 8.3%
– รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 314,500 คัน ลดลง 4.1 %
โดย โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 240,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 89,000 คัน ลดลง 15.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 151,000 คัน ลดลง 6.0% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 144,500 คัน ลดลง 4.4%
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2559
– ปริมาณการขายรวม 240,000 คัน ลดลง 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
– รถยนต์นั่ง 89,000 คัน ลดลง 15.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
– รถเพื่อการพาณิชย์ 151,000 คัน ลดลง 6.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
– รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 144,500 คัน ลดลง 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.7%
– รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 116,100 คัน ลดลง 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 370,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 206,500 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 64,730 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 271,230 ล้านบาท
มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้ โตโยต้า คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศจะกลับมาดีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของเราตลอดจนเตรียม พร้อมพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในระดับสากล รวมถึงส่งเสริมคนไทยที่มีความ สามารถขึ้นมาบริหารงาน โดยแต่งตั้งผู้บริหารชาวไทยให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงครอบคลุมทุกสายงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในภูมิภาคนี้”
มร.ทานาดะ กล่าวย้ำความเชื่อมั่นในประเทศไทย “นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดของภูมิภาคนี้ และเป็นศูนย์กลางทางการผลิตที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์กลางในการดูแลการผลิตระดับภูมิภาค ด้วยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่มีคนไทยเป็นส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาและยกระดับการ ปฏิบัติงานในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ทั้งนี้เรายังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากขึ้นด้วยการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน โตโยต้า ในประเทศไทย ตลอดจนยังมีการถ่ายทอด นวัตกรรม และ เทคโนโลยี ด้านการผลิตระดับสูงเพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”
“โตโยต้า มีความเชื่อมั่นในประเทศไทย พร้อมที่จะลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เรามุ่งที่จะขับเคลื่อนและเราพร้อมจะยืนเคียงคู่กับคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป” มร.ทานาดะ กล่าวในที่สุด
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2558
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 101,426 คัน เพิ่มขึ้น 13.3%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,566 คัน ลดลง 13.6% ส่วนแบ่งตลาด 28.2%
– อันดับที่ 2 อีซูซุ 20,003 คัน เพิ่มขึ้น 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 19.7%
– อันดับที่ 3 ฮอนด้า 12,543 คัน ลดลง 6.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 34,603 คัน ลดลง 5.8%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,243 คัน ลดลง 28.1% ส่วนแบ่งตลาด 32.5%
– อันดับที่ 2 ฮอนด้า 8,960 คัน ลดลง 8.2% ส่วนแบ่งตลาด 25.9%
– อันดับที่ 3 มาสด้า 3,203 คัน เพิ่มขึ้น 242.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 53,988 คัน เพิ่มขึ้น 28.8%
– อันดับที่ 1 อีซูซุ 18,766 คัน เพิ่มขึ้น 31.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.8%
– อันดับที่ 2 โตโยต้า 16,573 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 30.7%
– อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,460 คัน เพิ่มขึ้น 134.0% ส่วนแบ่งตลาด 15.7%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 15,742 คัน
โตโยต้า 6,671 คัน – มิตซูบิชิ 5,465 คัน – อีซูซุ 1,925 คัน – ฟอร์ด 1,399 คัน – เชฟโรเลต 282คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 38,246 คัน เพิ่มขึ้น 2.1%
– อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,841 คัน เพิ่มขึ้น 31.0% ส่วนแบ่งตลาด 44.0%
– อันดับที่ 2 โตโยต้า 9,902 คัน ลดลง 30.4% ส่วนแบ่งตลาด 25.9%
– อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,027 คัน เพิ่มขึ้น 24.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 66,823 คัน เพิ่มขึ้น 26.6%
– อันดับที่ 1 อีซูซุ 20,003 คัน เพิ่มขึ้น 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 29.9%
– อันดับที่ 2 โตโยต้า 17,323 คัน ลดลง 0.6% ส่วนแบ่งตลาด 25.9%
– อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,460 คัน เพิ่มขึ้น 134.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2558
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 799,594 คัน ลดลง 9.3%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 266,005 คัน ลดลง 18.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
– อันดับที่ 2 อีซูซุ 144,295 คัน ลดลง 10.0% ส่วนแบ่งตลาด 18.0%
– อันดับที่ 3 ฮอนด้า 112,178 คัน เพิ่มขึ้น 5.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.0%
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 299,067 คัน ลดลง 19.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 105,398 คัน ลดลง 30.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 77,959 คัน ลดลง 17.3% ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า 26,262 คัน เพิ่มขึ้น 66.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.8%
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 396,898 คัน ลดลง 5.7%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 151,117 คัน ลดลง 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
– อันดับที่ 2 อีซูซุ 131,243 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.1%
– อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 44,236 คัน เพิ่มขึ้น 12.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 69,063 คัน
โตโยต้า 31,005 คัน – มิตซูบิชิ 18,975 คัน – อีซูซุ 12,524 คัน – ฟอร์ด 4,967 คัน – เชฟโรเลต 1,592 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 327,835 คัน ลดลง 11.9%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 120,112 คัน ลดลง 17.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
– อันดับที่ 2 อีซูซุ 118,719 คัน ลดลง 7.2% ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
– อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 25,261 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 500,527 คัน ลดลง 2.2%
– อันดับที่ 1 โตโยต้า 160,607 คัน ลดลง 8.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
– อันดับที่ 2 อีซูซุ 144,295 คัน ลดลง 10.0% ส่วนแบ่งตลาด 28.8%
– อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 44,236 คัน เพิ่มขึ้น 12.0% ส่วนแบ่งตลาด 8.8%
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TOYOTA ประกาศ ตลาดรถยนต์ปี 2558 อยู่ที่ 799,594 คัน ลดลง 9.3% "