Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ จ่อเปิดตัวในไทย 3 พฤศจิกายนนี้ คาดมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร

Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ จ่อเปิดตัวในไทย 3 พฤศจิกายนนี้ คาดมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร

Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดอื่นๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้รถในระดับ D-segment ยอดนิยมคันดังกล่าวเตรียมเปิดตัวในประเทศไทย วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ จะมาพร้อมกับขุมพลังไบริด กับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งหมด 4 เกรด ได้แก่ 2.5G, 2.5 HEV Premium, 2.5 HEV Premium Luxury และ 2.5 E Sport ที่เพิ่มเข้ามาใหม่

Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ จะได้รับการปรับแต่งใหม่เหมือนกับรุ่นที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า กันชนหน้าพร้อมช่องดังอากาศ ตกแต่งขอบด้วยโครเมียม เสริมลุคให้ดูสปอร์ต และหรูหรายิ่งขึ้น

ไฟหน้า และไฟ DRL เป็นแบบ LED ล้ออัลลอยลายใหม่ และปรับดีไซน์ไฟท้าย รวมถึงกันชนท้ายใหม่

ส่วนภายในห้องโดยสารคาดว่าจะได้รับการติดตั้งแผงหน้าปัดขนาด 7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Head-Up Display แสดงผลบนกระจกหน้า หน้าจอกลางแบบลอยตัวขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPar และ Android Auto พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน

ระบบปรับอากาศแยกซ้าย-ขวา พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มีจุดชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เช่นเดียวดับรุ่นที่ทำตลาดในญี่ปุ่นนั่นเอง

ขุมพลังของ Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์

– รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที

– รุ่นไฮบริด ผสานพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ ทำงานรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวม 221 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

นอกจากนั้นยังคาดว่าจะได้รับการอัปเกรด Toyota Safety Sense 2.5+ เวอร์ชั่นล่าสุด

– ระบบ Pre-Collision System ป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนน
– ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้
– ระบบ Lane Tracing Assist ช่วยบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ
– ระบบ Blind Spot Mornitorinh ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง

และอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

อย่างไรก็ตามรายละเอียดทั้งหมดของ Toyota Camry ไมเนอร์เชนจ์ จะถูกเปิดเผยในวันเปิดตัวที่ 3 พฤศจิกายนนี้ และอาจถูกส่งไปทำตลาดต่อในมาเลเซียเป็นสถานีต่อไป

สุดท้ายนี้ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ