VOLVO แถลงผลประกอบการทั่วโลกปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น เอเชียแปซิฟิกโต 20.9% ตลาดไทยยอดขายเพิ่มถึง 32.4%

VOLVO แถลงผลประกอบการทั่วโลกปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น เอเชียแปซิฟิกโต 20.9%  ตลาดไทยยอดขายเพิ่มถึง 32.4%

วอลโว่ คาร์ บริษัทผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม แถลงผลประกอบการในปี 2560 มียอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2559 เป็นจำนวน 571,577 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตพร้อมกันในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยปัจจัยหลักในการสร้างยอดขายมาจากรถยนต์รุ่นใหม่ XC60, S90, V90 และ XC90 ซึ่งผู้บริโภคเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้าง วิจัย พัฒนาขึ้นเองโดยวอลโว่ คาร์ บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Scalable Product Architecture (SPA) ซึ่งรวมในเรื่องของแบรนด์ การออกแบบ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ

สำหรับยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยายตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงร้อยละ 20.9 โดยมีประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของวอลโว่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนยอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25.8  เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ขณะเดียวกัน ยอดขายในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในปี 2560 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ขณะที่ยอดขายในภูมิภาคอเมริกามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7

ปี 2560 นับเป็นปีที่สำคัญปีหนึ่งของวอลโว่ คาร์ ในหลายๆ ด้าน ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ XC60 ที่ขึ้นแท่นเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของบริษัทและรถยนต์ SUV ขนาดกลางที่ขายดีที่สุดในยุโรป โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกที่งานเจนีวา ออโต้ โชว์ (Geneva Auto Show) ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

วอลโว่ คาร์ ได้มีการเคลื่อนไหวสำคัญในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น การประกาศนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้ามาเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคตและแถลงว่ารถยนต์ทุกคันที่จะมีการเปิดตัวนับตั้งแต่ปี 2562 จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นับเป็นจุดสิ้นสุดการผลิตรถยนต์ที่ใช้เพียงเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือ internal combustion engine เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้ามาใช้ วอลโว่ยังได้เปิดตัวรถยนต์ Polestar ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ระบบไฟฟ้าแบบเต็มตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ วอลโว่ คาร์ กรุ๊ป

ช่วงเวลาที่ผ่านมา วอลโว่ คาร์ ยังได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ Geely Holding ด้วยการก่อตั้งบริษัทร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อความได้เปรียบทางด้านต้นทุนต่อหน่วยลดลงที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงวอลโว่ยังได้ประกาศว่าจะร่วมหุ้นร้อยละ 30 ในรถยนต์ยี่ห้อ LYNK & CO ใหม่ของบริษัท Geely ภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้างรถแบบ Compact Modular Architecture (CMA) ที่ทั้งสองบริษัทจัดทำขึ้นร่วมกัน และล่าสุดช่วงเดือนกันยายน ปี 2560 มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่น XC40 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของวอลโว่ที่เปิดตัวในตลาดรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ วอลโว่ยังได้สร้างสรรค์โมเดลในการเข้าถึงรถยนต์ด้วยบริการสมัครสมาชิก ‘Care by Volvo’ ทำให้การมีรถยนต์นั้นได้รับบริการที่มีความโปร่งใส ง่ายดาย และสะดวกเหมือนการมีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่เปิดตัวมาพร้อมกับรถยนต์รุ่น XC40

วอลโว่ คาร์ ยังคงดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในรัฐ South Carolina ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกของวอลโว่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและยังได้มีการประกาศว่านอกจากรถยนต์รุ่น S60 ขนาดกลางซึ่งกำลังจะมีการเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว โรงงานดังกล่าวยังจะเริ่มมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ XC90 ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ในการนี้ ทำให้วอลโว่ คาร์ มียอดการลงทุนรวมในกระบวนการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกามากกว่า 1,100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และยังขยายโอกาสการจ้างงานในโรงงานผลิตที่เมือง Charleston ถึงเกือบ 4,000 อัตรา

ช่วงปลายปีที่ผ่านมาวอลโว่ คาร์ ยังได้เปิดตลาดใหม่ด้วยการลงนามร่วมในสัญญาเพื่อขายรถยนต์ระบบขับขี่อัตโนมัติจำนวนกว่าหลายหมื่นคันให้กับบริษัทรถยนต์ร่วมโดยสารอย่าง Uber ในช่วงระหว่างปี 2562 ถึง ปี 2564