รีวิว Vespa Raduno ดีไซน์สุดชิค ราคาเริ่มต้นเพียง 84,900.
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) เฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีของ บริษัทฯ ด้วยการเปิดตัวรถ Vespa รุ่นพิเศษ จำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น ได้แก่ Vespa Monochrome Limited Series 150cc ทั้งรุ่น Sprint และ GTS กับ Vespa Raduno ซึ่งเป็นรถสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์ 125cc ที่นำรุ่น S-Series มาจับตกแต่งพิเศษเอาใจคนไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือน สค. 2015 ที่ผ่านมานี้
และ 9carthai ของเราก็ไม่พลาดที่จะขอนำเสนอ Vespa Raduno ซึ่งปัจจุบันนับเป็นรุ่นเริ่มต้นของเวสป้าที่จะมาขยายฐานลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้น
Vespa Raduno คือการนำ Vespa S ไฟเหลี่ยมในตำนานที่เคยเป็นที่นิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งมาจับตกแต่งใหม่
ได้แก่ เบาะนั่งแบบใหม่ดูหรูขึ้น ในสไตล์แบบนั่งขี่คนเดียว พร้อมให้คุณได้เลือกออกแบบรถในสไตล์ของตนเองตามคอนเซ็ปต์ Design Your Own Vespa จากการติดสติ๊กเกอร์ด้วยตัวเอง โดย Vespa Raduno Edition จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง Rosso Dragon, สีขาว Montebianco และสีเทาด้าน Grigio Titani คันที่เราได้ทดสอบคันนี้
Raduno ยังโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ไฟหน้าทรงเหลี่ยมจาก Vespa S ที่ตัดขอบด้วยโครเมียมมอบลุคหรูปนความคลาสสิค
จุดเด่นของ Vespa Raduno คันนี้ที่แตกต่างจาก Vespa S อย่างเห็นได้ชัด คือ เบาะแบบแบนราบ ถูกปรับดีไซน์ ใหม่เป็นแบบนั่งคนเดียว ดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้น ความสูงเบาะเดิมอยู่ที่ 785 มม. ซึ่ง Raduno คันนี้ น่าจะมีความสูงที่มากกว่า Vespa S จากรูปทรงเบาะที่นูนโค้งมากยิ่งขึ้น โดยในจุดนี้หากผู้ที่มีส่วนสูงไม่มาก หรือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ อาจจะเหยียบได้ไม่เต็มเท้าดีนัก
แม้ว่าเบาะจะดีไซน์มาเพื่อขี่คนเดียว หากจะมีผู้ซ้อนท้ายก็ย่อมได้ แต่ด้วยเบาะตอนท้ายที่สไลด์ไปด้านหลังจึงทำให้ผู้นั่งซ้อนท้าย อาจจะนั่งทรงตัวลำบากไปเสียหน่อย และเมื่อยเล็กน้อย
ชุดเรือนไมล์จะเป็นหน้าปัดทรงกลมฝั่งซ้าย บอกความเร็ว ทั้งแบบ กม./ชม. และ ไมล์/ชม. ฝั่งขวาคือเกจ์วัดน้ำมัน ซึ่งไมล์ทั้ง 2 ฝั่งนี้ จะอยู่ลึกลงไปเพื่อที่จะได้มองเห็นได้ชัดในช่วงเวลากลางวัน
ด้านล่างจะเป็นไฟเตือนต่างๆ เริ่มจากทางซ้าย ไฟ Engine, ไฟเลี้ยว, นาฬิกา ที่แสดง วัน:เดือน ด้วย, ไฟเตือนน้ำมันใกล้หมด, ไฟเตือนน้ำมันเครื่องพร่อง, สัญญาณไฟสูง
กระจกมองข้างทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ รับกับชุดไฟหน้า มีตัวหนังสือ “Objects in mirror are closer than they appear” (วัตถุที่มองเห็นในกระจก จะมีขนาดใกล้มากกว่าที่ปรากฏ) มองเห็นชัดเจนไม่หลอกสายตา
สวิทช์ทางฝั่งซ้ายของแฮนด์ บนสุดจะเป็นไฟต่ำ-สูง ถัดลงมาเป็นไฟเลี้ยว โดยแตรจะซ่อนอยู่ด้านใต้สวิทช์ไฟเลี้ยวอีกที ซึ่งจะต้องเงื้อมนิ้วโป้งลงไปบีบ ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ เพื่อป้องกันการกดถูกแตรสัญญาณโดยไม่จำเป็น แต่ข้อเสียคือ จังหวะที่จะกดใช้งานจริง กลับไม่ค่อยถนัดเท่าที่ควร
ทางสวิทช์ด้านขวา บนจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดไฟ ถัดลงมาเป็นปุ่มติดเครื่องยนต์
ส่วนปลอกมือ ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ อาจจะดูเต็มมือสาวๆ ไปเสียหน่อย พร้อมมีคำว่า Vespa อันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
มองลงมาด้านหน้าจะเห็นช่องใส่ของทั้ง 2 ฝั่ง ขนาดเล็ก ทางฝั่งขวามีติดป้าย Raduno Edition เสริมความหล่อ นอกจากนี้ยังมีตะขอไว้ให้เกี่ยวของ สามารถใช้ไปจ่ายกับข้าวได้สบาย
ทางด้านท้ายมีมือจับหลังเป็นวัสดุโครเมียมให้คนซ้อน รวมไปถึงไว้ใช้เข็นรถได้อีกด้วย ชุดไฟท้ายยื่นออกมาเล็กน้อยสีแดงน่ารักตัดกรอบบนด้วยโครเมียม ส่วนไฟเลี้ยวถูกฝังอยู่ในชุดตัวแบบเดียวกับไฟเลี้ยวหน้า
สำหรับ U-Box ใต้เบาะ มีขนาดเพียงพอหากใส่หมวกกันน๊อคแบบครึ่งใบลงไป ซึ่งยังไม่สามารถที่จะใส่เต็มใบลงไปได้ แต่ก็ถือว่ามีขนาดเพียงพอที่จะเก็บของต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็ควรระวังเรื่องความร้อน ไม่ควรใส่อาหาร หรือของไม่ทนความร้อนลงไป
ขณะที่ล้อหน้าจะใช้ไซส์ 11” สวมยางขนาด 110/70R11 และด้านหลังล้อขนาด 10” สวมยางไซส์ 120/70R10
ซึ่งได้ใช้ยางของ Maxxis
เครื่องยนต์ 125cc 4 จังหวะ 3 วาล์ว จาก S 125 3 Vie (ฝั่งไอดี 2 วาล์ว และ ฝั่งไอเสีย 1 วาล์ว) แบบ SOHC ความจุจริง 124cc มีกำลัง 11.6 แรงม้า hp @8,250rpm และแรงบิด 10.7Nm@6,500rpm ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
ด้วยเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์แบบ 3 วาล์ว การออกตัว อัตราเร่งในช่วงแรก ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวกับรถสกูตเตอร์ที่มีโครงตัวถังแบบเหล็กกล้า รถดูพุ่งดี ในขณะทั่นเร่งสมูทมาแบบเรื่อยๆ ไม่กระชากเหมือนอย่างสกูตเตอร์ญี่ปุ่น ที่บิดมือหนักไปในช่วงแรกจะดูกระชากไปบ้าง แต่สำหรับ Vespa 3Vie นี้เมื่อความเร็วเริ่มลอยอยู่ตัวแล้ว ที่ระดับ 60 กม./ชม.ขึ้นไป อัตราเร่งต่อจากนี้ไปอาจจะเริ่มตื้อไปบ้าง แต่ความเร็วยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบมาเรื่อยๆ ซึ่ง Top Speed ที่เราทำได้อยู่ที่ 103 กม./ชม. (นั่งตัวตรง) ซึ่งจะว่าไปมันเป็นความเร็วที่มากเกินกว่าที่จะขี่ใช้งานอย่างสบายกับรถสกูตเตอร์ ที่มีขนาดล้อเพียงแค่ 11” ทางด้านหน้า และ 10” ทางด้านท้ายเช่นนี้
ในด้านของท่านั่ง
จากพื้นฐานของ Vespa S ซึ่งเป็นรถขนาดเล็ก เหมาะแก่ผู้มีสรีระขนาดตัวที่ไม่ใหญ่นัก แต่ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งที่นับว่าค่อนข้างสูงทีเดียว ร่วมกับ Handgrip ที่ใหญ่หนาพอสมควร ดูๆ ไปแล้ว Vespa Raduno คันนี้ ซึ่งยังคง Concept ของ S Series เอาไว้ อาจจะเหมาะแก่นักขี่ไซส์เล็กฝั่งยุโรปเสียมากกว่า ซึ่งหากเป็นผู้หญิงที่มีขนาดตัวเล็กอาจพบว่า เบาะนั่งจะสูงไปเสียหน่อย ในขณะที่การวางเท้าจัดท่านั่งนั้น Vespa Raduno นี้หากขี่คนเดียวก็ถือได้ว่านั่งสบายพอสมควรเบาะนั่งดีไซน์ใหม่นี้ มีส่วนโค้งเว้าดูกระชับรับกับสรีระช่วงก้นกบได้ดีกว่าเบาะแบนราบใน Vespa S รวมไปถึงท่านั่งการวางแขนกางข้อศอกก็จัดได้ว่าอยู่ในมุมองศาที่พอดีไม่กว้างเกินไปจนต้องถ่างแขนกางจนเมื่อยข้อศอก เรียกได้ว่าขี่คนเดียวไกลๆ ก็ยังนั่งได้สบาย
จากการที่ผู้เขียนได้ลองทดสอบเป็นผู้ซ้อนด้วย พบว่าเบาะที่เอียงลาดท้ายนี้ทำให้การนั่งซ้อนลำบาก และตำแหน่งวางเท้าผู้ซ้อนดูจะยังเหยียบได้ไม่เต็มเท้าเท่าที่ควร ซึ่งผู้ขี่อาจจะต้องล่นตัวไปทางด้านหน้าเพื่อไม่ให้ตำแหน่งวางเท้าชิดกับผู้ซ้อนมากไปซึ่งส่งผลต่อระยะของตำแหน่งแฮนด์ที่หดชิดเข้ามามากเกินไป ทำให้การเลี้ยวควบคุมแฮนด์นั้นดูจะค่อนข้างลำบากไปเสียหน่อย
ในส่วนของการควบคุม Handling เราพบว่า ตามสไตล์ของ Vespa นั้นมักจะมีอาการหน้าไว จากน้ำหนักส่วนหัวรถที่เบา ทำให้การเลี้ยวโค้งอาจดูหวิวๆ ไร้น้ำหนักไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นรถที่เลี้ยวได้ง่าย และคล่องตัวมากระดับหนึ่งในการใช้งานในเมือ งตำแหน่งของรถที่ดูสูง ทำให้ตำแหน่งแฮนด์สูงตามไปด้วย ซึ่งมักจะสูงกว่ากระจกมองข้างรถยนต์ขนาดเล็ก จึงทำให้มุดได้คล่องตัวดีในการจราจรที่ติดขัด แต่หากขี่รถที่ความเร็วสูงระดับ 90 กม./ชม. ขึ้นไป จะพบอาการหน้าส่าย แกว่งไปบ้าง รวมไปถึงแฮนด์ที่แคบ จึงทำให้การขี่ด้วยความเร็วสูงควรต้องจับควบคุมแฮนด์ให้มั่นคง
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบสวิงอาร์มเดี่ยม พร้อมโช้คอัพเดี่ยว ด้านหลังโช้คอัพเดี่ยวไฮโดรลิก ปรับระดับได้ 4 ระดับ
ถือว่าแข็งทีเดียว แต่แน่นเฟิร์มดี ซึ่งผู้เขียนชอบอาการช่วงล่างแบบนี้ (เมื่อขี่คนเดียว) แต่หากขี่ผ่านลูกระนาด หรือทางรถไฟ ต้องชะลอความเร็วและหย่อนรถลงช้าๆ เพื่อป้องกันการสะเทือน เพราะต้องระวังเรื่องพื้นที่ใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ที่ต่ำด้วย โดยเฉพาะด้านท้ายที่โช้คอัพหลังเดี่ยวยึดติดกับตัวเครื่องยนต์โดยตรง ซึ่งควรต้องระวังในจังหวะ Bumping ของโช้คอัพหลังอย่างรุนแรง แต่ด้วยการเซ็ทช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็งนี้ หากที่ผ่านเส้นทางที่มีพื้นผิวขรุขระ สามารถทำได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นเนื่องจากระยะการเคลื่อนตัวที่ต่ำกว่า และอาการช่วงล่างที่เฟิร์มมั่นคงกว่า
แต่สำหรับการเลี้ยวโค้งนั้น ถ้าเข้าโค้งด้วยความเร็วอาจพบอาการท้ายแกว่งออกมาได้ในบางจังหวะ เนื่องจากหน้าเข้าแต่ท้ายหนัก เหมือนหลังจะดื้อ (Understeer) ไปบ้างจึงทำให้การเข้าโค้งด้วยความเร็วและไวไป อาจพบอาการแกว่งออกมาให้เห็นบ้างในบางจังหวะ
แต่โดยรวมเราถือว่า Vespa Raduno นี้มีช่วงล่างที่แน่นเฟิร์มขี่หล่อๆ คนเดียวทำได้ดี ไม่น้อยหน้ารถญี่ปุ่น
ระบบเบรก หน้าดิสก์เบรกขนาดจาน 200 มม. ปั๊มเบรกไฮโดรลิกเดี่ยว ด้านหลังแบบดรัมเบรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 110 มม. (Vespa 150 จะมีขนาด 140 มม.)
ฟีลลิ่งในการเบรกนั้นดูจะแข็งทื่อไปเสียบ้าง ตามสไตล์ของดรัมเบรก รวมไปถึงน้ำหนักในการกดก้านเบรกนั้นดูจะแข็งไปหน่อยไม่มีระยะในการกดก้านเบรก ซึ่งจะว่าไปก็เป็นสไตล์ของรถ Vespa อยู่แล้ว อารมณ์เดียวกับที่ผู้เขียนเคยลอง Primavera 150 เมื่อประมาณ ปีที่แล้ว ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาในการปรับคุ้นชินมือสักระยะ
การชะลอรถลงสามารถใช้เบรกหน้าในการจิกชะลอความเร็วลง แต่หากขี่มาด้วยความเร็วก็อาจต้องลงน้ำหนักที่เบรกทางฝั่งซ้าย มากกว่า รวมไปถึงควรต้องมีการเผื่อระยะเบรกเพิ่มเอาไว้อีกเล็กน้อย
สรุป Vespa Raduno รถสกูตเตอร์ AT คันล่าสุดของเวสป้า ที่จะมาทำตลาดในรุ่นเริ่มต้น ได้อิงพื้นฐานมาจากรถ Vespa S 125 3Vie แต่มากับรูปลักษณ์ใหม่ ปรับปรุงโดนใจคนไทยมากยิ่งขึ้น แถมกลับทำราคาถูกลงแทนที่จะแพงกว่าร Vespa S ปกติ นับได้ว่าทำมาเอาใจ เน้นขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรถสกูตเตอร์ระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่นในพิกัด 150cc ก็จะนับว่า Vespa Raduno ใหม่ นี้มีราคาแพงกว่า ราว 1 หมื่นบาท ซึ่งก็อาจทำให้ผู้คนที่มองหารถสกูตเตอร์ ญี่ปุ่นระดับพรีเมียม อาจพิจารณาอัพเกรด มาเป็นการขี่รถชิลๆ สบายๆ หล่อๆ ได้แบรนด์เวสป้า อย่าง Vespa Raduno ใหม่คันนี้
นอกจากนี้ Vespa Raduno ยังถือว่าเป็น เวสป้าราคาย่อมเยาที่สุดพร้อมโปรโมชั่นดาวน์ต่ำสุดเพียง 5,800 บาท ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 เท่านั้น
Vespa Raduno Edition มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่
1.สีแดง Rosso Dragon
2.สีขาว Montebianco ซึ่งมีราคาที่ 84,900 บาท
และ 3.สีเทาด้าน Grigio Titani ที่ราคา 85,900 บาท
ขอขอบคุณ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) สำหรับรถทดสอบ Vespa Raduno สีเทาด้าน ราคา 85,900 บาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Vespa Raduno ดีไซน์สุดชิค ราคาเริ่มต้นเพียง 84,900. "